xs
xsm
sm
md
lg

รวบพรานใจร้าย! แหกเคอร์ฟิวล่าสัตว์ป่าชายแดนสุรินทร์ได้ 2 ราย พร้อมซาก “กระจงควาย”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สุรินทร์ - จนท.เมืองช้างลาดตระเวนป่าแนวชายแดนสุรินทร์ รวบ 2 พรานป่าใจร้าย ไม่สนโควิด-19 แหกเคอร์ฟิวออกลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ พร้อม “กระจงควาย” 3 ตัว และของกลางอีกจำนวนมาก

วันนี้ (15 เม.ย.) เวลาประมาณ 00.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ชุดเฉพาะกิจ ที่ 214 ตำรวจ สภ.ดม ทหารพรานร้อยเฉพาะกิจประจำเขาศาลา เจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอสังขะ เจ้าหน้าที่ทหาร พัน.ม.22 ร้อย.ม.222 ได้สนธิกำลังเข้าปฏิบัติงานเพื่อป้องกันรักษาป่าไม้และทรัพยากรทางธรรมชาติในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ พื้นที่ป่าไม้ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่บริเวณป่าทิศตะวันออกเฉียงใต้บ้านกะเลงเวก ต.เทพรักษา อฺ.สังขะ จ.สุรินทร์ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ


ขณะลาดตระเวนมาถึงบริเวณป่าทิศตะวันออกเฉียงใต้ บ้านกะเลงเวก ต.เทพรักษา เจ้าหน้าที่ได้เห็นแสงไฟสองดวงกำลังมุ่งหน้ามายังพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่ดักซุ่มอยู่และวางกำลังไว้ พบว่าเป็นชาย 2 คนเดินตามกันมา คนเดินหน้าแบกปืนแก๊ปยาวประทับบ่าด้านขวา คนที่สองเดินส่องไฟฉายตามหลังมาสะพายกระเป๋าและเป้ เดินห่างกันประมาณ 3 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อเข้าจับกุม แต่ชายทั้ง 2 คนตกใจ พากันทิ้งสัมภาระและวิ่งหลบหนีเข้าป่า เจ้าหน้าที่ได้วิ่งไล่ตาม สามารถจับกุมได้ 1 คน และอีกหนึ่งคนเจ้าหน้าที่ไปตามจับกุมได้ที่บ้านพักบ้านลันแต้อุดมสุข หมู่ที่ 13 ต.เทพรักษา อ.สังขะ พร้อมรถจักรยานยนต์ที่ใช้ขี่หลบหนีเจ้าหน้าที่


หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังเข้าตรวจสอบอีกครั้ง พบปืนแก๊ปตกอยู่ตามเส้นทางที่วิ่งหลบหนี พบเป้สะพาย และสิ่งของที่ได้จากการล่าสัตว์ป่า และทราบชื่อผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายเอกลักษณ์ ทองเต็ม อายุ 31 ปี บ้านลันแต้อุดมสุข ต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์ นายบุญทันแก้ว สว่าง อายุ 36 ปี ม.13 ต.เทพรักษา อ.สังขะ พร้อมด้วยของกลาง ซากกระจงควาย เพศเมีย จำนวน 3 ซาก น้ำหนักรวม 4.7 กิโลกรัม ถุงพลาสติกห่อซากกระจง 1 ใบ กระเป๋าเป้สะพายหลัง 2 ใบ โคมไฟคาดศีรษะ 1 ดวง มีดปลายแหลม 2 เล่ม เปล 1 ผืน ปืนแก๊ป 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุน รถจักรยานยนต์ 2 คัน ลูกตะกั่ว 8 ลูก


โดยมีความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2562 พ.ร.บ.อาวุธปืน ความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกจากเคหสถานระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าออกนอกเคหะ ตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548


ร.ต.อ.ชูชีพ บาลพิทักษ์ รองและรักษาราชการแทนผู้บังคับกองร้อยชุดเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 214 ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรดม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป








กำลังโหลดความคิดเห็น