อุทัยธานี - โควิดก็เพราะเปิบกันแบบนี้ใช่มั้ย..!? จนท.ซุ่มดักจับ 3 พรานกลางป่าห้วยขาแข้ง พร้อมซากหมีควาย-ซากเม่นรวมเกือบ 200 กก.
นายธานี วงศ์นาค หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี ได้รายงานว่า เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง นำโดย นายสันภพ อัศวปภาพงษ์ นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ ผู้ช่วยหัวหน้าเขตฯ ได้จับตัวพรานป่าที่แอบลักลอบเข้าไปล่าสัตว์ป่าภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งเมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. ของวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา จำนวน 3 คน คือ นายจันทร์เทียม ทรัพย์ประเสริฐ อายุ 43 ปี นายมานิตย์ โนวงศ์ อายุ 40 ปี และนายดาวเรือง สงล่า อายุ 56 ปี ซึ่งทั้งหมดเป็นประชาชน หมู่ที่ 3 บ้านดง ต.คอกควาย อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี
พร้อมของกลางเป็นซากหมีควาย 1 ซาก น้ำหนักประมาณ 150 กิโลกรัม เม่นหางพวง 4 ซาก น้ำหนักรวมประมาณ 35 กิโลกรัม ตรวจสอบแล้วพบว่าซากหมีควายและซากเม่นหางพวงถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขณะที่เนื้อของซากหมีควายบางส่วนถูกชำแหละด้วยมีดก่อนนำมาใส่ถุงรวมกัน นอกจากนี้ยังตรวจยึดอาวุธปืนลูกซองได้ 3 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน รวมทั้งมีด ไฟฉายคาดหัวอีกหลายรายการ
จากนั้นได้ควบคุมตัวผู้กระทำผิดทั้ง 3 คนออกจากพื้นที่ป่า ทำบันทึกตรวจยึดจับกุมตามกฎหมาย ก่อนนำตัวผู้กระทำผิดทั้ง 3 คน พร้อมของกลาง และอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำผิดส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านไร่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายธานียังได้รายงานข้อมูลเพิ่มเติมอีกด้วยว่า สำหรับมูลเหตุที่จับพรานป่าทั้ง 3 คนได้ในครั้งนี้เป็นเพราะเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันที่ 25 มีนาคม 2563 หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งสืบทราบว่ามีกลุ่มพรานป่า 3 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือ แอบลักลอบเข้าไปในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ซึ่งคาดว่าเข้าไปเพื่อแอบลักลอบล่าสัตว์ป่า จึงได้ประสานแจ้งนายธนิตย์ หนูยิ้ม ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) ให้ทราบ และร่วมกันวางแผนสกัด พร้อมกับได้มอบหมายให้นายสันภพ อัศวปภาพงษ์ นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ ผู้ช่วยหัวหน้าเขตฯ นำกำลังชุดลาดตระเวนของหน่วยพิทักษ์ป่าเขาปันโส ชุดลาดตระเวนจากหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยอีซะ ชุดลาดตระเวนจากหน่วยพิทักษ์ป่าซับป่าพลู เข้าตรวจสอบ ติดตาม ค้นหา
โดยกำหนดเป้าหมายเพื่อหวังให้สามารถจับกุมตัวพรานป่าให้ได้ ก่อนที่พรานป่านั้นลงมือยิงสัตว์ป่าเพื่อรักษาชีวิตของสัตว์ป่าไว้ให้ได้มากที่สุด แต่จากการที่สภาพพื้นที่เป็นป่าทึบ สูงชัน และเป็นเวลากลางคืน ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถตามตัวพรานป่าได้ทัน ต้องเปลี่ยนแผนให้เจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งติดตาม อีกส่วนหนึ่งซุ่มดัก จนสามารถจับกุมตัวพรานป่าทั้ง 3 คน พร้อมของกลางได้ดังกล่าว