ลำปาง - พบไฟป่าลามเขตห้ามล่าฯ ดอยพระบาท ตลอดคืนเป็นแนวยาวกว่า 1 กิโลฯ จนท.ยังควบคุมไม่ได้ ขณะที่ค่า PM 2.5 พื้นที่ลำปาง เกินมาตรฐานทั้ง 4 จุดตรวจวัด แถมยังสูงสุดในพื้นที่ภาคเหนือแล้ว
ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา (6-7 ม.ค. 63) เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ชุดเหยี่ยวไฟ พร้อมทหารจากมณฑลทหารบกที่ 32 และประชาชนจิตอาสาสู้ไฟป่า ต้องเร่งนำอุปกรณ์ เช่น ไม้ตบ ถังพ่นและเป้บรรทุกน้ำ เดินเท้าเข้าดับไฟที่ลุกไหม้พื้นที่ป่าในหลายจุดตามได้รับแจ้งจากสายด่วน 1362
โดยเฉพาะพื้นที่ อ.แจ้ห่ม จากภาพมุมสูงจะเห็นว่าไฟกำลังลุกไหม้แนวสันเขาเขตห้ามล่าสัตว์ป่าดอยพระบาท ต.วิเชตนคร อ.แจ้ห่ม เป็นแนวยาวไปตามหุบเขาและหน้าผาสูงชัน เป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร แต่ช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้เนื่องจากการเข้าถึงค่อนข้างลำบากและอาจเกิดอันตรายได้ จึงต้องจัดกำลังลงพื้นที่และเดินเท้าขึ้นดับไฟที่ลุกไหม้กันตั้งแต่เช้าตรู่วันนี้ (7 ม.ค.) แทน แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถควบคุมไฟที่ลุกไหม้ได้
จากสถานการณ์ที่เกิดไฟไหม้ป่าสะสมมาหลายวัน ทั้งยังลุกลามขยายวงไปหลายพื้นที่ นายสุรพล บุรินทราพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้เรียกประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน จ.ลำปาง เพื่อวางแผนการดำเนินการเชิงรุกลดปัญหาหมอกควันไฟป่าอย่างเร่งด่วน
โดยล่าสุดพบค่า PM 2.5 ในลำปาง เกินมาตรฐานทั้ง 4 จุดตรวจวัด คุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ คือ ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง วัดค่าเฉลี่ยฝุ่นละออง PM 2.5 ได้ที่ 79 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สูงที่สุดในพื้นที่ภาคเหนือ ส่วนพื้นที่ ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง วัดค่าเฉลี่ยฝุ่นละออง PM 2.5 ได้ที่ 67 ไมโครกรัมต่อ ลูกบาศก์เมตร และที่ ต.พระบาท เมืองฯ จ.ลำปาง วัดค่าเฉลี่ยฝุ่นละออง PM 2.5 ได้ที่ 62 ไมโครกรัม ต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนพื้นที่ ต บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง วัดค่าเฉลี่ยฝุ่นละออง PM 2.5 ได้ที่ 54 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
สำหรับสาเหตุที่เกิดไฟไหม้ขึ้นในขณะนี้ส่วนใหญ่เกิดจากการเผาพื้นที่เตรียมแปลงการเกษตรและเกิดไฟลุกลามไหม้พื้นที่ป่า การลักลอบล่าสัตว์ป่า เผาเพื่อต้อนสัตว์ของนายพราน และความมักง่ายของผู้ใช้รถสัญจรโยนก้นบุหรี่ทิ้งข้างทางทำให้เกิดสะเก็ดไฟไหม้ลุกลามเข้าพื้นที่ป่า
โดยทางจังหวัดขอความร่วมมือประชาชนในทุกพื้นที่ห้ามจุดไฟ เผาวัชพืชในแปลงเตรียมการเกษตร แต่ให้ใช้วิธีการไถกลบ แทน ขณะเดียวกันทางมณฑลทหารบกที่ 32 จะร่วมกับป่าไม้จัดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนตามป่าดอยพระบาท เพื่อจับกุมนายพรานที่เข้าไปลักลอบล่าสัตว์และจุดไฟเพื่อต้อนสัตว์ป่า และขอให้งดการเผาขยะ วัชพืชในที่โล่งแจ้ง เพื่อเป็นการลดมลพิษ ทางอากาศ
ขณะที่สำนักงานขนส่งจังหวัดลำปางได้ปฏิบัติการตั้งจุดตรวจวัดค่าควันดำรถยนต์ทุกชนิดในพื้นที่จังหวัดลำปาง ซึ่งที่ผ่านมาพบมีรถมีควันดำเกินกว่ากฎหมายกำหนด 12 คัน แยกเป็นรถโดยสารไม่ประจำทาง 1 คัน รถบรรทุกไม่ประจำทาง 11 คัน ซึ่งได้ออกคำสั่งพ่นสีห้ามใช้รถ ให้ผู้ประกอบการนำรถไปปรับปรุงซ่อมแซมเครื่องยนต์แล้วตรวจสภาพ ณ สำนักงานขนส่ง เพื่อขออนุญาตใช้รถอีกครั้ง
