จันทบุรี - ในวิกฤตยังมีโอกาส! สินค้าไทยขายดีหนัก หลังกัมพูชาสั่งห้ามประชาชนเดินทางข้ามจังหวัดกันโควิด-19 แพร่กระจาย ส่วนเวียดนาม ปิดพรมแดนเชื่อมต่อบางจุดทำผู้ค้ากัมพูชาหันสั่งซื้อสินค้าไทยมากขึ้น ส่งผลผู้ค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.จันทบุรี กระเป๋าตุงโกยยอดส่งสินค้าเพิ่มกว่า 20% ต่อวัน
วันนี้ (10 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ม.4 ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ที่มีการกระจายสินค้าทั้งส่งและปลีกขนาดใหญ่ว่า คลาคล่ำไปด้วยรถขนส่งสินค้าสารพัดขนาด ตั้งแต่รถกระบะ ไปจนถึงรถบรรทุก 10 ล้อพ่วงที่เข้ามาบรรทุกสินค้าอุปโภคแบริโภคกลับไปยังฝั่งกัมพูชา ท่ามกลางการตรวจคัดกรองหาเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อรถสินค้าที่ผ่านเข้าออกทุกคันของทั้งเจ้าหน้าที่ไทยและกัมพูชาอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สินค้าส่วนใหญ่ที่มีคำสั่งซื้อมายังพ่อค้าแม่ค้าชาวไทย คืออาหารสด อาหารแห้ง และผลไม้ ซึ่งบรรยากาศการค้าขายในวันนี้ดูคึกคักผิดหูผิดตาจากช่วงเวลาที่ยังไม่มีการปิดด่านชายแดน เนื่องจากคำสั่งห้ามคนกัมพูชาเดินทางข้ามจังหวัดของทางการกัมพูชา ส่งผลให้สินค้าจากไทยเริ่มขาดแคลนและเป็นที่ต้องการมากขึ้น
ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรพชร นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.จันทบุรี เผยว่า ผลจากการสั่งห้ามไม่ให้ประชาชนเดินทางข้ามจังหวัดของทางการกัมพูชา ตั้งแต่เมื่อเวลา 24.00 น.วันที่ 9 เม.ย. ที่ผ่านมา ยกเว้นรถขนส่งสินค้าที่สามารถเดินทางไปจังหวัดต่างๆ ในกัมพูชาได้ ทำให้ผู้ประกอบการในกัมพูชาเพิ่มคำสั่งซื้อสินค้าจากไทยผ่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม มากขึ้นกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ตามความต้องการสินค้าที่มีมากขึ้น
โดยเฉพาะสินค้าจำพวกอาหารแห้ง เช่น บะหมี่สำเร็จรูป ปลากระป๋อง และสินค้าอื่นๆ อีกนับสิบรายการ ขณะเดียวกัน สินค้าไทยก็มีราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในกัมพูชา แต่ก็ไม่ถือเป็นปัญหาในการซื้อสินค้าแต่อย่างใด
"ที่สำคัญการที่เวียดนามปิดพรมแดนกับกัมพูชาในบางจุด รวมทั้งการที่ สปป.ลาว และพม่า ก็ปิดประเทศจึงทำให้ความต้องการสินค้าจากไทยในประเทศเพื่อนบ้านมีมากเป็นประวัติการณ์ จนขนส่งแทบไม่ทันจากเดิมที่ในช่วงก่อนการประกาศปิดจุดด่านแดนไทย-กัมพูชา ทำให้สินค้าจากไทยมียอดการส่งออกเพิ่มกว่า 70 เปอร์เซ็นต์แล้ว แต่ภายหลังจากเวียดนามปิดพรมแดนก็ทำให้กัมพูชา หันมาใช้สินค้าไทยเต็มที่ จึงถือเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการไทย" ดร.รัฐวิทย์ กล่าว