ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ยับเยิน! ไฟเผาป่าอมก๋อยผลาญ “ดอยม่อนจอง” แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติแทบไม่เหลือเค้าเดิม สุดเศร้าป่าบ้านเลียงผาและพันธุ์ไม้หายากถูกทำลาย ขณะที่ฝุ่นควันเชียงใหม่เบาลงเล็กน้อยแต่ยังครองแชมป์โลก ผู้ว่าฯ ถกเข้มเร่งแก้
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วานนี้ (6 เม.ย. 63) สถานีควบคุมไฟป่าอมก๋อย รายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่หน่วยดับไฟป่าเคลื่อนที่มูเซอ ที่ได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย คณะทำงานชุดที่ 18 ร่วมกันออกตรวจติดตามจุดเกิดความร้อนจำนวน 2 จุด ที่บริเวณป่าขุนห้วยไม้หก หมู่ที่ 6 ตำบลม่อนจอง อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ หลังการตรวจสอบเป็นชนิดป่าดิบแล้ง พื้นที่เสียหาย 8 ไร่ และอีกจุดเป็นป่าดิบแล้งพื้นที่เสียหาย 9 ไร่
ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวมีการบันทึกภาพให้เห็นภาพพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายซึ่งพบว่าพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายนั้น คือ บริเวณดอยม่อนจอง และดอยหัวสิงห์ แหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่มีชื่อเสียง รวมทั้งเป็นแหล่งต้นน้ำที่อยู่ของเลียงผา สัตว์ป่าหายาก และพันธุ์ไม้หายากอย่างกุหลาบพันปีด้วย โดยผู้ใช้โซเชียลมีเดียจำนวนมากต่างพากันโพสต์แสดงความเสียใจที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น พร้อมมีการนำภาพก่อนและหลังเกิดเหตุมาเปรียบเทียบให้เห็นด้วย
ขณะที่วันนี้ (7 เม.ย.) สภาพตัวเมืองเชียงใหม่ถูกปกคลุมด้วยฝุ่นควันแม้จะเบาบางลงกว่าช่วงหลายวันที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ค่าฝุ่น PM 2.5 และคุณภาพอากาศยังเกินมาตรฐาน
โดยผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่ จากสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษในตำบลช้างเผือก และตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองฯ จังหวัดเชียงใหม่ และตำบลเมืองคอง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น.วันนี้ อยู่ที่ 113 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 108 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ 175 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ เกินค่ามาตรฐาน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 223, 218 และ285 ตามลำดับ เกินค่ามาตรฐาน 100 ซึ่งอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ มีการแจ้งเตือนและข้อแนะนำประชาชนทั่วไปให้เลี่ยงการออกทำกิจกรรมกลางแจ้ง หากจำเป็นให้สวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน ส่วนกลุ่มเสี่ยงให้งดทำกิจกรรมนอกบ้าน
นอกจากเว็บไซต์ air visual ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศจากทั่วโลกพบว่า คุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ช่วง 10.00 น.วันนี้ รุนแรงเป็นอันดับ 1 ของโลก ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 189 US AQI และค่า PM 2.5 วัดค่าได้ 129.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ขณะที่แอปพลิเคชัน AirCMI ที่เป็นความร่วมมือของจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานเกี่ยวข้อง รายงานผลการตรวจวัดค่า PM 2.5 ในตัวเมืองเชียงใหม่อยู่ที่ 70 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งสูงเกินค่ามาตรฐาน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แต่ในอีกหลายอำเภอพบว่าค่า PM 2.5 อยู่ในระดับที่สูงเกินค่ามาตรฐานหลายเท่าตัว เช่น อำเภอเวียงแหง 493 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, อำเภอแม่ริม 334 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หรืออำเภอกัลยาณิวัฒนา 243 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เป็นต้น
ด้านศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ วันนี้ (7 เม.ย.) นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์ไฟป่าฝุ่นควัน โดยประชุมผ่านระบบ VDO Conference ร่วมกับ 5 อำเภอ คือ แม่แจ่ม เชียงดาว อมก๋อย แม่แตง และฮอด ซึ่งมีจุดความร้อนมากที่สุดในเช้าวันนี้
เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้กำชับให้ทุกอำเภอเร่งรัดเรื่องการแจ้งความดำเนินคดี โดยเฉพาะจุดเกิดไฟป่าที่เกิดขึ้นในบริเวณที่ผ่อนผันให้ทำกิน หรือพื้นที่ป่าบริเวณใกล้เคียงที่มีการแบ่งเขตความรับผิดชอบในการครอบครองไว้แล้ว ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญตัวเจ้าของพื้นที่ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนก่อน และขอให้ดำเนินการทุกคดีด้วยความรวดเร็ว สำหรับจุดความร้อนสะสมของจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 6 เมษายน 2563 มีรวมทั้งสิ้น 18,913 จุด พบในเขตป่าสงวนแห่งชาติ 7,568 จุด ป่าอนุรักษ์ 10,408 จุด เขต ส.ป.ก.422 จุด ชุมชนและอื่นๆ 395 จุด ริมทางหลวง 17 จุด และพื้นที่เกษตร 103 จุด โดยพบมากที่สุดในพื้นที่เชียงดาว อมก๋อย แม่แจ่ม ฮอด พร้าว แม่แตง สะเมิงตามลำดับ
สำหรับสถานการณ์ฝุ่นละอองในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา พบกลุ่มฝุ่นละอองปกคลุมหนาแน่นทั่วทั้งจังหวัดและภาคเหนือ ซึ่งการระบายตัวของอากาศในช่วงเช้าไม่ค่อยดี แต่จะดีขึ้นในช่วงเที่ยงและเย็นเป็นต้นไป ประกอบกับการเกิดจุดความร้อนมากทั้งในจังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งเป็นทิศตะวันตกเฉียงใต้ ทิศทางที่ลมพัดพาฝุ่นละอองเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือคาดการณ์ว่า การระบายตัวของอากาศและฝุ่นละอองจะเป็นลักษณะนี้ต่อไปอีก 2-3 วัน ทำให้มีฝุ่นควันหนาทึบปกคลุมต่อเนื่อง
