ประจวบคีรีขันธ์ - ผลยืนยันชัดเจนจากสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ ม้าที่หัวหินป่วยตายต่อเนื่องเกิดจาก กาฬโรคแอฟริกาในม้า ล่าสุด วันนี้ช่วงเย็นพบม้าป่วยตายอีก 1 ตัว ยังน่าเป็นห่วงอีก 1-3 ตัว เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดประจวบฯ ลงพื้นที่สอบสวนโรค พร้อมประกาศเป็นเขตโรคระบาดสัตว์ชั่วคราว ในพื้นที่หัวหิน
วันนี้ (1 เม.ย.) น.ส.เสาวรส โมรา นายสัตวแพทย์ชำนาญการ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอหัวหิน และทีมสอบสวนโรค ลงพื้นที่บ้านหนองพรานพุก เลขที่ 343 หมู่ 1 ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งพบว่าเป็นจุดที่มีการแจ้งว่ามีม้าป่วยตายช่วงเย็นวันนี้ เป็นบ้านของนายพนม ทัพนาคา อายุ 53 ปี เจ้าของม้าที่ป่วยตาย โดยนายสัตวแพทย์ชำนาญการ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และทีมสอบสวนโรคได้ตรวจดูสภาพของม้าที่ป่วยตาย และเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อส่งไปตรวจที่สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติโดยที่ไม่มีการผ่าซากผ้าแต่อย่างใดตามคำสั่งของอธิบดีกรมปศุสัตว์
โดยเจ้าของม้าให้รายละเอียดว่า ม้าของตนเองอายุ 13 ปี ซึ่งเดิมเป็นม้าที่ใช้อยู่ในค่ายทหาร หลังจากมีการปลดระวางและตนเองได้ซื้อมาเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา และนำมาให้เช่าให้นักท่องเที่ยวขี่ที่ชายหาดหัวหิน มาถึง 3 ปีเต็ม แต่ก่อนม้าป่วยตายนั้นหยุดเอาไปให้นักท่องเที่ยวขี่ที่ชายหาดมาหลายเดือนแล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดีไม่มีนักท่องเที่ยว
จนกระทั่งก่อนหน้าม้าจะป่วยตาย เมื่อ 2 วันที่แล้วเริ่มพบว่าม้ามีอาการผิดปกติ เริ่มเซื่องซึม ไม่ค่อยกินอาหาร จนกระทั่งวันนี้ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ให้น้ำเกลือม้า จนช่วงเย็นพบอาการไม่กินอาหาร เริ่มมีอาการซึม สั่น กระตุก หลังจากนั้นก็เกิดอาการเหมือนช็อก และล้มลงทันที จึงได้โทรศัพท์แจ้งให้ทางปศุสัตว์อำเภอได้รับทราบ ยอมรับว่าเสียใจเพราะเมื่อเราสูญเสียไปก็เหมือนขาดเครื่องมือในการทำมาหากิน
ดังนั้น จึงฝากเตือนเพื่อผู้เลี้ยงม้าทุกคนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ นอกอาจต้องเจอกับโควิด-19 ที่ระบาดแล้ว ยังต้องมาเจอกับกาฬโรคม้าเกิดขึ้นอีก ดังนั้น จึงขอให้ทุกคนช่วยกันเฝ้าระวังดูแลม้าอย่างใกล้ชิด สิ่งสำคัญต้องรีบทำมุ้งคลุมม้าเพื่อป้องกันม้าของตนเองจากแมลงดูดเลือดที่เป็นพาหะนำโรค
น.ส.เสาวรส โมรา นายสัตวแพทย์ชำนาญการ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมทีมสอบสวนโรค และเจ้าหน้าที่ได้ดูการขุดหลุมฝังกลบเพื่อให้เป็นขั้นตอนตามระเบียบเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค พร้อมขอให้เจ้าของม้าในหัวหินซึ่งมีอยู่ 39 ราย จากจำนวน 99 ตัว ที่เป็นม้าให้บริการชายหาด ต้องดูแลม้าอย่างใกล้ชิด และช่วยกันทำมุ้งคลุมม้าเป็นการเร่งด่วนหลังจากพบว่าผลจากสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติยืนยันออกมาว่าเป็นกาฬโรคแอฟริกาในม้า
ทั้งนี้ นายสัตวแพทย์ยุษฐิระ บัณฑุกุล ปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ผลจากสถาบันสุภาพสัตว์แห่งชาติ แจ้งออกมาแล้วว่า หัวหินม้าป่วยตาย รวม 10 ตัว เกิดจากกาฬโรคแอฟริกาในม้า เป็นโรคติดเชื้อในตระกูลม้า ลา ล่อ ม้าลาย สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัสอาร์เอ็นเอชนิดไม่มีเปลือกหุ้มชื่อ Reoviridae genus Orbivirus โดยทำให้ม้า ลา ล่อ ม้าลายมักแสดงอาการมีไข้สูง มีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจแล้วตายโดยฉับพลัน
โรคนี้มีความรุนแรงทำให้ม้ามีโอกาสเสียชีวิตมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ และไม่มียารักษาโรคโดยเฉพาะ สำหรับอาการที่สำคัญที่มีการสอบถามและประมวลผลพบว่า ม้าที่ป่วยจะมีไข้สูง หายใจลำบาก มีน้ำมูก บวมน้ำบริเวณขมับ เปลือกตา แก้ม ริมฝีปาก ล้าน ขากรรไกร คอไหล่และหน้าอก จะมีจุดเลือดออกบริเวณลิ้น และเยื่อบุตา พาหะนำโรคคือแมลงดูดเลือด
พร้อมทั้งได้ออกประกาศกำหนดเขตโรคระบาดชั่วคราว ตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 ในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว โดยห้ามมิให้เจ้าของหรือบุคคลใดเคลื่อนย้ายสัตว์ป่วยจากบริเวณนั้น และให้แจ้งเจ้าหน้าที่ภายใน 12 ชั่วโมง หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เบื้องต้น ได้สั่งการให้ทีมปศุสัตว์แบ่งทีมลงพื้นที่อำเภอหัวหิน 2 ทีม ดำเนินการฉีดพ่นยาฆ่าแมลงดูดเลือด ตามคอกม้าในหัวหิน 33 ราย ที่เป็นม้าให้บริการขี่ชายหาดหัวหิน รวม 99 ตัว แต่ให้เจ้าของม้าทั้งหมดต้องติดตั้งมุ้งคลุมคอกม้าให้เสร็จก่อนที่จะมีการพ่นยา ส่วนอีกทีมลงพื้นที่สอบสวนโรคหาแหล่งต้นตอเพื่อทำลาย และเข้าค้นหาม้าป่วย เพื่อลดการสูญเสียและการแพร่โรค
อย่างไรก็ตาม หลังจากผลการตรวจออกจากสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ ออกมาแล้ว และมีการประกาศเขตโรคระบาดสัตว์ชั่วคราวในพื้นที่ และยังมีรายงานด้วยว่า ยังพบม้ากลุ่มเสี่ยงที่อาจจะมีอาการป่วยอีก 1-3 ตัว ขณะนี้ได้ให้เจ้าของม้าได้คอยสังเกตอาการ และหากพบว่าอาการไม่ดีก็ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอหัวหินทันที