xs
xsm
sm
md
lg

เจออีก!! ม้าป่วยตายตัวที่ 10 ระดมทีมปศุสัตว์ลงเจาะเลือดสอบสวนโรค

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประจวบคีรีขันธ์ - เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เขต 7 จังหวัดนครปฐม พร้อมทีมสัตวแพทย์สำนักงานศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคตะวันตก ราชบุรี ทีมปศุสัตว์อำเภอหัวหิน และส่วนของปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงพื้นที่สอบสวนโรคและเก็บตัวอย่างเลือดม้ากลุ่มเสี่ยง 20 ตัวอย่างส่งตรวจ หลังจากพบวันนี้มีม้าหัวหินป่วยตายเป็นตัวที่ 10

วันนี้ (1 เม.ย.) คืบหน้ากรณีพบม้าป่วยตายในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน 8 ตัว ล่าสุด วันนี้เจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอหัวหิน ได้รับแจ้งจากเจ้าของม้าว่าม้าชื่อ โซดา ได้เกิดมีอาการป่วยตายเฉียบพลัน ในซอยหัวหิน 94 หลังจากรับแจ้งแล้วจึงรายงานให้สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และสำนักงานปศุสัตว์เขต 4 จังหวัดนครปฐม รับทราบ รวมทั้งสำนักงานศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคตะวันตก จังหวัดราชบุรี

หลังจากนั้น นายจำลอง วรศรี ผอ.ส่วนสุขภาพสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์เขต 7 จังหวัดนครปฐม นายสัตวแพทย์จามร ศักดินันท์ หัวหน้ากลุ่มสุขภาพสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด นายสัตวแพทย์พิทยา คณะมะ ปศุสัตว์อำเภอหัวหิน พร้อมทีมสัตวแพทย์สำนักงานศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคตะวันตก จังหวัดราชบุรี และเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่บริเวณจุดที่พบม้าชื่อโซดา เพศผู้ ป่วยตาย พร้อมทั้งพูดคุยกับเจ้าของม้าถึงอาการ

โดยช่วงสายม้ามีอาการสั่น รวมทั้งบริเวณสะโพกหลังด้วย และมีอาการกระตุก หลังจากนั้นเพียงประมาณ 1 ชั่วโมงก็ตาย โดยตรวจพบว่าที่ขมับศีรษะบวม และพบจุดเลือดออก โดยม้าตัวที่ป่วยตายไม่ได้ออกไปให้เช่าที่ชายหาดมานานหลายเดือนแล้ว หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ได้เก็บตัวอย่างเลือดเพื่อส่งไปตรวจหาสาเหตุการตาย รวมทั้งม้าอีก 3 ตัวในคอกเดียวกันไปด้วย และให้เจ้าของได้ทำการขุดหลุมฝังม้าและทำการฆ่าเชื้อตามระเบียบที่ปฏิบัติทันที ส่วนม้าในคอกดังกล่าว 3 ตัว ก็สั่งห้ามเคลื่อนย้ายเด็ดขาด

หลังจากนั้น นายจำลอง วรศรี ผอ.ส่วนสุขภาพสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์เขต 7 จังหวัดนครปฐม ได้แบ่งทีมเจ้าหน้าที่ออกเป็น 2 ทีมไปทำการสอบสวนโรคในรัศมีห่างจากจุดที่พบม้าป่วยตาย 2 กิโลเมตร และทำการเก็บตัวอย่างเลือดม้าในกลุ่มเสี่ยงในบริเวณใกล้เคียง

รวมทั้งคอกม้าขนาดใหญ่ของบริษัทเอกชนรายนึ่งซึ่งเป็นม้าพันธุ์ เป็นม้าที่ใช้แข่งขันโปโล โดยคอกนี้จะเคลื่อนย้ายมาจากทางภาคตะวันออก และนำมาพักฟื้น ซึ่งวันนี้มีม้าอยู่ในคอกรวม 91 ตัว โดยมีการเก็บตัวอย่างเลือดไปถึง 10 ตัวอย่าง แต่จากการสอบถามผู้ดูแล พบว่า ยังไม่พบม้าที่มีอาการเซื่องซึมหรืออาการป่วยแต่อย่างใด โดยคอกม้าดังกล่าวมีการฉีดพ่นยาฆ่าแมลงดูดเลือดในทุกเย็น ซึ่งตัวอย่างเลือดม้าม้าทั้งหมดที่เก็บในวันนี้จำนวน 20 ตัวอย่าง จะส่งไปตรวจที่สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ พร้อมทำการแจ้งให้เจ้าของทั้งหมดรับทราบว่าหากพบมีม้าป่วยตายห้ามเจ้าหน้าที่และทุกคนทำการผ่าซากโดยเด็ดขาด ให้ดำเนินการแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เข้าสอบสวนโรคเก็บตัวอย่างเลือด และทำการฝังกลบตามหลักวิชาการทันที

นายสอาด บุญเจือ อายุ 54 ปี หนึ่งในเจ้าของม้าหัวหินซอย 6 บ้านหัวนา บอกยอมรับว่า กลัวม้าที่อยู่ก็มีอาการป่วยตายต่อเนื่องในขณะนี้ อีกทั้งผลการตรวจพิสูจน์ก็ยังไม่ออก ตอนนี้ยอมรับว่าเจ้าของม้าส่วนใหญ่เริ่มกลัว โดยเฉพาะในช่วงนี้เจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่สอบสวนโรคตามคอกม้าต่างๆ ซึ่งเจ้าของม้าอยากให้เจ้าหน้าที่มีการสวมชุดป้องกัน เพราะหวังว่าจะติดไปทำให้ม้าตัวเองป่วยตาย เนื่องจากเจ้าหน้าที่จะต้องเข้าไปชันสูตรและสอบสวนโรคในจุดที่พบว่าม้าป่วยตาย

เบื้องต้น รถของเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ รวมทั้งรถของสื่อมวลชนที่เข้าไปตามคอกม้าต่างๆ ทางเจ้าหน้าที่จะมีการใช้น้ำยาพ่นฆ่าเชื้อที่บริเวณล้อรถยนต์ทั้ง 4 ด้านเพื่อป้องกันโรคติดต่อ ซึ่งตัวอย่างเลือดที่เก็บส่งไปตรวจสอบยังสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ คาดว่าน่าจะออกในสัปดาห์นี้อย่างแน่นอน ทางเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ม้าที่ป่วยตายอย่างฉับพลันในพื้นที่หัวหิน และได้เร่งหาข้อมูลว่าก่อนหน้าที่จะพบม้าป่วยตายในพื้นที่หัวหิน มีการเคลื่อนย้ายม้าจากพื้นที่อื่นเข้ามาในหัวหินหรือไม่

ดังนั้น ในช่วงนี้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ จึงได้ทำการพูดคุยแนะนำให้แก่คอกม้าต่างๆ ในหัวหิน ให้คอยหมั่นสังเกตอาการม้าอย่างต่อเนื่อง หากพบมีอาการผิดปกติให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่อำเภอหัวหินทันที รวมทั้งหากเป็นไปได้ให้ทำมุ้งล้อมคอกม้าเพื่อป้องกันแมลงดูดเลือดเข้าไปกัด ส่วนกรณีม้าโซดาที่ป่วยตายล่าสุด วันนี้เจ้าหน้าที่ยอมรับอาการป่วยเหมือนกับตัวอื่นที่ตาย อย่างไรก็ตามเจ้าของม้าบางรายพบว่ายังมีม้าที่มีอาการป่วยอีก 1-2 ตัว

ล่าสุด นายสัตวแพทย์ยุษฐิระ บัณฑุกุล ปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ผลจากสถาบันสุภาพสัตว์แห่งชาติ แจ้งออกมาแล้วว่า ม้าที่หัวหินป่วยตาย เนื่อง จากกาฬโรคแฟริกาในม้า เป็นโรคติดเชื้อในตระกูลม้า ลา ล่อ ม้าลาย สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัสอาร์เอ็นเอ ชนิดไม่มีเปลือกหุ้มชื่อ Reoviridae genus Orbivirus โดยทำให้ม้าลาล่อ ม้าลายมักแสดงอาการมีไข้สูง มีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจแล้วตายโดยฉับพลัน









กำลังโหลดความคิดเห็น