กรมปศุสัตว์สั่งด่วน! เฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสกาฬโรคในม้าทั่วประเทศ

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ สั่งการด่วนให้หน่วยงานภูมิภาคทั่วประเทศเฝ้าระวังโรคในม้า

นายสัตวแพทย์สรวิศ กล่าวว่า ตามที่กรมปศุสัตว์ได้รับแจ้งจากผู้เลี้ยงม้าที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 มีนาคม ที่ผ่านมา จึงได้ส่งชุดปฏิบัติการสอบสวนและควบคุมโรค ลงพื้นที่ตรวจสอบโดยเร่งด่วน เมื่อวันที่ 26 มีนาคม พร้อมทั้งสั่งการด่วนให้เฝ้าระวังโรคในม้าทั่วประเทศ จากการลงพื้นที่สอบสวนโรค พบว่ามีม้าป่วยจำนวน 11 คอก โดยม้าป่วยแสดงอาการมีไข้สูงมากกว่า 39 องศาฯ ซึม ไม่กินอาหาร มีน้ำมูก น้ำตาไหล หายใจลำบาก หอบถี่ มีจุดเลือดออกบริเวณเยื่อบุตา เหงือกซีดและเหลือง ร่างกายอ่อนแรง หน้าบวม ตายเฉียบพลัน และได้เก็บตัวอย่างสัตว์ป่วยส่งตรวจวินิจฉัยโรคทางห้องปฏิบัติการ โดยสาเหตุมาจากการติดเชื้อโรคติดเชื้อไวรัสกาฬโรคในม้า

กรมปศุสัตว์ให้หน่วยงานในพื้นที่จัดตั้งหน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคในพื้นที่ โดยทำการบันทึกสั่งกักสัตว์ป่วยทุกตัว พร้อมทั้งแยกม้าที่ป่วยจากม้าร่วมฝูง และสั่งตั้งด่านควบคุมการเคลื่อนย้าย โดยระงับการเคลื่อนย้ายม้าเข้าและออกพื้นที่โดยเด็ดขาดในรัศมี 150 กิโลเมตร รวมทั้งให้คำแนะนำการป้องกันโรค ได้แก่ ป้องกันแมลงพาหะดูดเลือดโดยติดตั้งมุ้ง และทำลายมูลม้า แหล่งเพาะพันธุ์แมลง กำจัดแมลงดูดเลือด ทำลายเชื้อโรคยานพาหนะที่เข้าและออกฟาร์ม หลีกเลี่ยงการนำม้าไปอาบน้ำในแหล่งน้ำสาธารณะ หรือนำน้ำจากแหล่งน้ำสาธารณะมาเลี้ยงม้า ไม่นำม้าจากที่อื่นเข้ามาเลี้ยงใหม่ในฟาร์ม แยกคนเลี้ยงและอุปกรณ์ต่างๆ ระหว่างม้าป่วยและม้าร่วมฝูง และทำลายเชื้อโรค

อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ได้เน้นย้ำให้เจ้าของ หมั่นสังเกตอาการม้าที่เลี้ยงอย่างใกล้ชิด หากพบม้าแสดงอาการผิดปกติ ให้รีบแจ้งสัตวแพทย์ที่ปรึกษาฟาร์ม และแจ้งสำนังานปศุสัตว์จังหวัด หรือสำนักงานปศุสัตว์อำเภอ หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ 063-225888 และแอปพลิเคชัน DLD4.0 เพื่อดำเนินการตรวจสอบและควบคุมโรคอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ยืนยันว่าสถานการณ์การระบาดของโรคที่เกิดขึ้น ไม่ใช่โรคติดต่อระหว่างสัตว์และคน และไม่ใช่โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา COVID-19) แต่อย่างใด และกำชับให้เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์เฝ้าระวังโรคระบาดในสัตว์อย่างเข้มงวด พร้อมทั้งได้รับฟังแนวแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ ส่วนกลางเตรียมความพร้อมด้านเวชภัณฑ์และกำลังพลในการสนับสนุนหน่วยงานในภูมิภาคเพื่อเป็นการป้องกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว