อุดรธานี - โรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี มอบแอลกอฮอล์ 13,000 ลิตร ให้แก่หน่วยงานรัฐ สถานพยาบาล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี กระจายสู่ทุกครัวเรือนนำไปใช้ฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19
วันนี้ (31 มี.ค.) ที่โรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี ต.คำบง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี นายทรงพล ประดิษฐ์ด้วง ปลัดอาวุโส อ.บ้านผือ นำตัวแทนสถานพยาบาล องค์กรปกครองท้องถิ่น และประชาชนจาก 21 หมู่บ้าน ใน ต.คำบง ต.หนองหัวคู อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี รับมอบแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ 75 เปอร์เซ็นต์ จากนายไกรสร สามเสน ผอ.ฝ่ายผลผลิต โรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี นายผดุงศักดิ์ ชัยรุ่งเรืองศิลป์ รอง ผอ.ฝ่ายสายงานผลิต และนายพินิจ ภัคพล นายกสมาคมชาวไร่อ้อยอีสานเหนือ เพื่อนำไปใช้ต่อสู้เชื้อไวรัสโควิด-19
นายไกรสร สามเสน ผอ.ฝ่ายผลผลิต โรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี เปิดเผยว่า กลุ่มน้ำตาลไทย มีแผนมอบแอลกอฮอล์ให้ชาวอุดรธานีในช่วงนี้รวม 13,000 ลิตร ในส่วนชองชุมชนรอบโรงงาน ต.คำบง และ ต.หนองหัวคู โรงงานได้แจกจ่ายไปก่อน 2,000 ลิตร จากนั้นจะทยอมมอบให้หน่วยงานราชการในพื้นที่ อ.บ้านผือ 1,000 ลิตร ส่วนอีก 10,000 ลิตร ที่กำลังมาจะมอบให้ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี นำไปใช้ประโยชน์ในภาพรวมของจังหวัด
ด้าน นายผดุงศักดิ์ ชัยรุ่งเรืองศิลป์ รอง ผอ.ฝ่ายสายงานผลิต โรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของ “โควิด-19” ถือว่ามีความรุนแรง ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทางกลุ่มน้ำตาลไทย มีความห่วงใยต่อสุขภาพ จึงจัดโครงการ “มอบแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อให้แก่สถานพยาบาล ชุมชน และหน่วยราชการ” เป็นแอลกอฮอล์ผลิตจากกากน้ำตาลที่ได้จากโรงงานน้ำตาลแห่งนี้ นำไปผลิตที่โรงงานใน จ.กาญจนบุรี ส่งมาเป็นแอลกอฮอล์ 95 เปอร์เซ็นต์ แล้วนำมาเจือลงเหลือ 75 เปอร์เซ็นต์
กลุ่มน้ำตาลไทยนอกจากกิจการโรงงานน้ำตาล ยังมีโรงงานผลิตเอทิลแอลกอฮอล์ รวมทั้งมีผลิตภัณฑ์เจลแอลกอฮอล์ แต่เนื่องจากวัตถุดิบผลิตเจลแอลกอฮอล์ขาดแคลน จึงมอบแอลกอฮอล์ให้ในครั้งแรก หากผลิตเจลได้จะมอบให้ในโอกาสต่อไป วันนี้เป็นการส่งมอบให้อำเภอ สาธารณสุขอำเภอ รพ.สต. ส่วนชุมชนมอบผ่านท้องถิ่น สามารถแจกจ่ายได้หลังคาเรือนละ 300 ซีซี โดยประชาชนจะต้องหาภาชนะมาใส่
ขณะที่นายทรงพล ประดิษฐ์ด้วง ปลัดอาวุโส อ.บ้านผือ กล่าวว่า หน่วยงานต่างๆในพื้นที่ อ.บ้านผือ ได้ร่วมบูรณาการนำมาตรการของรัฐบาลและผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี มาบังคับใช้อย่างเข้มงวด มีการตั้งจุดคัดกรองคนเดินทาง 24 ชม. ไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย การขึ้นทะเบียนกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง เพื่อแนะนำและติดตามให้มีการกักตัว 14 วัน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้ติดเชื้อในพื้นที่