xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษยันพบป่วยโควิด-19 แล้ว 4 ราย ล่าสุดเป็น นศ.สาวไปทำงานเสิร์ฟ กทม.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศรีสะเกษ - ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษยืนยันพบผู้ป่วยโควิด-19 แล้ว 4 ราย ล่าสุดเป็นสาวนักศึกษาวัย 19 ปี ไปทำงานเสริมเป็นพนักงานเสิร์ฟที่กรุงเทพฯ ขณะ ผอ.รพ.ศรีสะเกษเน้นย้ำกลุ่มเสี่ยงกักตัวเองที่บ้านคือความปลอดภัยสูงสุดต่อส่วนรวม

วันนี้ (29 มี.ค.) ที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก นายแพทย์ วราวุธ ชื่นตา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ถึงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของ จ.ศรีสะเกษ ณ วันที่ 28 มีนาคม พบว่ามีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพิ่มขึ้นอีก 1 ราย รวมสะสมจํานวน 4 ราย รักษาหายให้กลับบ้านแล้วจํานวน 1 ราย และยังคงนอนพักรักษาที่โรงพยาบาลจํานวน 3 ราย และจากการคัดกรองกลุ่มเสี่ยง พบกลุ่มเสี่ยงรายใหม่ที่ต้องเฝ้าระวังภายใน 14 วัน เพิ่มขึ้น 6 ราย รวมยอดสะสม 287 ราย


ทั้งนี้ บุคคลที่ได้มีการเฝ้าระวังครบ 14 วันและไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จํานวน 210 ราย และยังอยู่ในระยะที่ต้องเฝ้าระวัง (ยังไม่ครบ 14 วัน) จํานวน 89 ราย สําหรับผู้สัมผัสที่มีความเสี่ยงสูง ประกอบด้วย ผู้สัมผัสผู้ป่วย และบุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง มีจํานวน 19 ราย นอนสังเกตอาการในโรงพยาบาลจํานวน 3 ราย และสังเกตอาการที่บ้านจํานวน 16 ราย จากข้อมูลของกรมการปกครอง พบว่ามีข้อมูลการเดินทางของประชาชนจากนอกพื้นที่ (กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล) เข้ามายังจังหวัดศรีสะเกษ จํานวน 10,662 คน

สําหรับผู้ป่วยรายที่ 4 เป็นผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 19 ปี อาชีพนักศึกษา มีอาชีพเสริมเป็นพนักงานเสิร์ฟร้านอาหารเขตสุขุมวิท กรุงเทพมหานคร เริ่มป่วยด้วยไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย มาตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2563 และเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 253 บิดาของผู้ป่วยได้ขับรถแท็กซี่เดินทางไปรับผู้ป่วยที่กรุงเทพมหานครเพื่อกลับภูมิลําเนาที่อําเภอราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ซึ่งผู้ป่วยยังคงมีไข้อ่อนเพลีย และได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลราษีไศล ซึ่งได้มีการส่งต่อผู้ป่วยไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ โดยเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2563 ได้รับการยืนยันผลตรวจพบว่าผู้ป่วยมีการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และขณะนี้ผู้ป่วยยังคงรับการรักษาที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ

จากสถานการณ์ดังกล่าว ตนพร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ได้ลงพื้นที่เขตตําบลด่าน อําเภอราษีไศล เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2563 เพื่อตรวจเยี่ยมและสร้างขวัญกําลังใจแก่เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่ปฏิบัติงานในการดําเนินการคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยง และผู้สัมผัสผู้ป่วย เป็นการสร้างความเชื่อมั่น ลดความตระหนกแก่ประชาชนในชุมชน รวมถึงการหยุดการแพร่กระจายเชื้อ พร้อมทั้งประชุมร่วมหารือกับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ถึงมาตรการแนวทางการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการติดเชื้อไม่ให้มีการระบาดเพิ่มมากขึ้น

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ได้ออกสอบสวนโรคค้นหาผู้สัมผัสผู้ป่วย ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่ต้องเฝ้าระวัง จํานวน 6 คน คือ ผู้ที่ร่วมเดินทาง ผู้สัมผัสในบ้าน คนเก็บขยะ และเพื่อนที่กรุงเทพมหานคร ได้มีการติดตามแจ้งพร้อมให้คําแนะนําสังเกตอาการดูแลตนเองแก่เพื่อนจํานวน 1 ราย กักกันตัวที่บ้าน 4 ราย และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล 1 ราย มีการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในบ้านผู้ป่วย และรอบบ้านผู้ป่วย รัศมี 100 เมตร พร้อมทั้งได้ให้ความรู้แก่ประชาชนในหมู่บ้านเรื่องการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันการป่วยด้วยโรค COVID-19


ทางด้าน แพทย์หญิง เพิ่มศิริ เลอมานุวรรัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น ขอให้ดูแลตนเองด้วยการกินร้อน ช้อนส่วนตัว แยกภาชนะไม่รับประทานอาหารร่วมกัน ล้างมือบ่อยๆ สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าเมื่อออกนอกบ้าน พร้อมทั้งให้ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงได้รายงานการวัดอุณหภูมิร่างกายส่งทางระบบไลน์แก่เจ้าหน้าที่ทีมควบคุมโรคโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลทุกวัน และเน้นย้ำให้กลุ่มเสี่ยงปฏิบัติตามหลักสุขอนามัย และลดการแพร่กระจายเชื้อโรค โดยกักกันตนเองแยกจากบุคคลอื่นอย่างเคร่งครัดเป็นเวลา 14 วัน หากทุกคนได้ปฏิบัติต่อตนเอง และสังคมรอบข้างอย่างเคร่งครัด ก็จะไม่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มขึ้น ดังนั้นกลุ่มเสี่ยงจะต้องกักตัวเองที่บ้าน 14 วันคือความปลอดภัยสูงสุดต่อส่วนรวม


กำลังโหลดความคิดเห็น