รายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (24 มี.ค.) นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มีหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ดำเนินการควบคุมเฝ้าระวัง โรคโควิด-19 ในชุมชนและหมู่บ้าน โดยให้นายอำเภอ เป็นหัวหน้า แจ้งกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และประธานกรรมการชุมชน ปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน และลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคเข้าสู่หมู่บ้านชุมชน
"ให้ดำเนินการเข้มข้น ทั้งติดตาม ค้นหาผู้ที่เดินทางเข้ามายังหมู่บ้าน ชุมชน ทุกราย รวมถึงจัดทำบัญชีรายชื่อผู้มายังหมู่บ้านชุมชน เพื่อรายงานนายอำเภอ ตามแนวทางที่กำหนด ทั้งนี้ ให้ประชาสัมพันธ์ ผ่านหอกระจายข่าว วิทยุประจำจังหวัด ทุกวัน"
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานศูนย์อำนวยการและประสานงานการเฝ้าระวังและการป้องกัน โควิด-19 กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับผู้บริหารกรมการปกครอง ประชุมผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกลไปยังปลัดจังหวัดและนายอำเภอ ทั่วประเทศ เพื่อเน้นย้ำการดำเนินการมาตรการป้องกันและลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคเข้าสู่หมู่บ้าน/ชุมชน
"มีการเน้นย้ำให้ปลัดจังหวัด และนายอำเภอ สั่งการกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ดำเนินการค้นหา และเฝ้าระวังผู้เสี่ยงต่อการติดเชื้อทุกแห่งในพื้นที่ รวมถึงดำเนินตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อเข้าสู่หมู่บ้าน/ชุมชน โดยเน้นบูรณาการความร่วมมือของบุคลากรในหมู่บ้าน/ชุมชุนทุกภาคส่วน อาทิ คณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) อปท. อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ฯลฯ ร่วมค้นหา คัดกรองผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยง ผู้ที่เดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ และต่างประเทศ แล้วให้ทำบัญชีรายชื่อเฝ้าผู้ติดตามสังเกตอาการ ให้ขอความร่วมมือผู้นั้นงด หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ นอกหมู่บ้าน/ชุมชนไว้ก่อน และพักอาศัยอยู่แต่ในบ้านเรือนเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน และให้ส่งข้อมูลให้อำเภอทราบเพื่อบันทึกข้อมูลเข้าระบบรายงาน"
สำหรับมาตรการการป้องกันและเฝ้าระวังโรคติดต่อไปในหมู่บ้าน/ชุมชน กรณีมีผู้ที่เป็นหรือมีเหตุอันควรสงสัยเป็นโรคติดเชื้ออยู่ในบ้าน ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทราบทันที เพื่อดำเนินการตามมาตรการคัดกรอง แยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกต พร้อมทั้งงดกิจกรรมนอกบ้าน และงดการไปในที่ชุมชน
กรมการปกครอง ยังได้พัฒนาระบบ Thai QM ขึ้น เพื่อสนับสนุนการจัดทำฐานข้อมูลผู้ที่เดินทางกลับเข้าหมู่บ้าน/ชุมชน เนื่องจากอำเภอถือเป็นกำลังสำคัญ และเป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ โดยข้อมูลต่าง ๆ ถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับสนับสนุนการตัดสินใจเชิงนโยบาย กำหนดมาตรการต่างๆให้แม่นยำที่สุด
"ขอให้นายอำเภอ กำชับผู้ปฏิบัติงาน หรือปลัดอำเภอ ให้ความสำคัญการลงข้อมูลให้ถูกต้อง โดยสามารถบันทึกข้อมูลผ่านระบบสื่อสารของกรมการปกครอง"
สำหรับแนวทางการให้บริการประชาชน ณ สำนักทะเบียนอำเภอให้จัดพื้นที่มีความเหมาะสม ลดความแออัดจุดให้บริการ และประชาสัมพันธ์ชะลอการทำธุรกรรมของประชาชนที่ไม่เร่งด่วน โดยขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่งดกิจกรรมนอกบ้าน งดเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งนอกจากเป็นการป้องกันตัวเองแล้ว ยังรับผิดชอบต่อสังคมด้วย
"ให้ดำเนินการเข้มข้น ทั้งติดตาม ค้นหาผู้ที่เดินทางเข้ามายังหมู่บ้าน ชุมชน ทุกราย รวมถึงจัดทำบัญชีรายชื่อผู้มายังหมู่บ้านชุมชน เพื่อรายงานนายอำเภอ ตามแนวทางที่กำหนด ทั้งนี้ ให้ประชาสัมพันธ์ ผ่านหอกระจายข่าว วิทยุประจำจังหวัด ทุกวัน"
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานศูนย์อำนวยการและประสานงานการเฝ้าระวังและการป้องกัน โควิด-19 กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับผู้บริหารกรมการปกครอง ประชุมผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกลไปยังปลัดจังหวัดและนายอำเภอ ทั่วประเทศ เพื่อเน้นย้ำการดำเนินการมาตรการป้องกันและลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคเข้าสู่หมู่บ้าน/ชุมชน
"มีการเน้นย้ำให้ปลัดจังหวัด และนายอำเภอ สั่งการกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ดำเนินการค้นหา และเฝ้าระวังผู้เสี่ยงต่อการติดเชื้อทุกแห่งในพื้นที่ รวมถึงดำเนินตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อเข้าสู่หมู่บ้าน/ชุมชน โดยเน้นบูรณาการความร่วมมือของบุคลากรในหมู่บ้าน/ชุมชุนทุกภาคส่วน อาทิ คณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) อปท. อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ฯลฯ ร่วมค้นหา คัดกรองผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยง ผู้ที่เดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ และต่างประเทศ แล้วให้ทำบัญชีรายชื่อเฝ้าผู้ติดตามสังเกตอาการ ให้ขอความร่วมมือผู้นั้นงด หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ นอกหมู่บ้าน/ชุมชนไว้ก่อน และพักอาศัยอยู่แต่ในบ้านเรือนเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน และให้ส่งข้อมูลให้อำเภอทราบเพื่อบันทึกข้อมูลเข้าระบบรายงาน"
สำหรับมาตรการการป้องกันและเฝ้าระวังโรคติดต่อไปในหมู่บ้าน/ชุมชน กรณีมีผู้ที่เป็นหรือมีเหตุอันควรสงสัยเป็นโรคติดเชื้ออยู่ในบ้าน ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทราบทันที เพื่อดำเนินการตามมาตรการคัดกรอง แยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกต พร้อมทั้งงดกิจกรรมนอกบ้าน และงดการไปในที่ชุมชน
กรมการปกครอง ยังได้พัฒนาระบบ Thai QM ขึ้น เพื่อสนับสนุนการจัดทำฐานข้อมูลผู้ที่เดินทางกลับเข้าหมู่บ้าน/ชุมชน เนื่องจากอำเภอถือเป็นกำลังสำคัญ และเป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ โดยข้อมูลต่าง ๆ ถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับสนับสนุนการตัดสินใจเชิงนโยบาย กำหนดมาตรการต่างๆให้แม่นยำที่สุด
"ขอให้นายอำเภอ กำชับผู้ปฏิบัติงาน หรือปลัดอำเภอ ให้ความสำคัญการลงข้อมูลให้ถูกต้อง โดยสามารถบันทึกข้อมูลผ่านระบบสื่อสารของกรมการปกครอง"
สำหรับแนวทางการให้บริการประชาชน ณ สำนักทะเบียนอำเภอให้จัดพื้นที่มีความเหมาะสม ลดความแออัดจุดให้บริการ และประชาสัมพันธ์ชะลอการทำธุรกรรมของประชาชนที่ไม่เร่งด่วน โดยขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่งดกิจกรรมนอกบ้าน งดเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งนอกจากเป็นการป้องกันตัวเองแล้ว ยังรับผิดชอบต่อสังคมด้วย