กาญจนบุรี - ผู้ว่าฯ กาญจน์ ยกเลิกใช้อุโมงค์ฆ่าเชื้อโควิด-19 ด้วยรังสีอัลตราไวโอเลต หลังประชาชนวิจารณ์อย่างหนัก ส่วนกาชาดกาญจน์ แจ้งเปลี่ยนกิจกรรมการแจกข้าวสารและข้าวกล่องให้ผู้นำชุมชนสำรวจความเดือดร้อนและเป็นตัวแทนมารับของ พร้อมแจกหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
วันนี้ (29 มี.ค.) นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ทางจังหวัดกาญจนบุรีได้นำเรื่องอุโมงค์ซีทีจี 5 สู้โควิด-19 ไปพิจารณาอย่างรอบด้าน ภายหลังจากประชาชนร่วมแสดงความคิดเห็นและแสดงข้อมูลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ โดยทางจังหวัดคำนึงถึงสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ จึงขอยกเลิกการนำอุโมงค์ดังกล่าวมาใช้งาน
อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า ทางจังหวัดกาญจนบุรี มีความปรารถนาดีและมีความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเต็มที่และเต็มกำลังความสามารถ และกำลังทำทุกวิถีทางที่จะปกป้องชีวิตของประชาชนเท่าที่จะสามารถทำได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับอุโมงค์ฆ่าเชื้อรังสีอัลตราไวโอเลตนี้ สูง 2 เมตร กว้าง 1.50 เมตร คลุมด้วยพลาสติกสีขาว ติดหลอดไฟรังสียูวีด้านในอุโมงค์ข้างละ 1 หลอด ด้านล่างปูด้วยพื้นไม้อย่างหนา และติดหลอดไฟรังสียูวีอีก 1 หลอด
ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรีไม่ได้ใช้งบประมาณแม้แต่บาทเดียว เนื่องจากได้รับมอบมาจากบริษัทพยัคฆ์ภูมิ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด และศิษย์เก่าอุเทนถวาย 54 ออกแบบโดยวิทยาลัยเทคนิคชุมแพ
ขณะเดียวกัน ทางด้านเหล่ากาชาดกาญจน์ ได้แจ้งเปลี่ยนกิจกรรมการแจกข้าวสารและข้าวกล่อง เป็นการให้ผู้นำชุมชนสำรวจความเดือดร้อนและเป็นตัวแทนมารับของ พร้อมแจกหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
โดยนางรชยา ภูมิสวัสดิ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากที่สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรีจะมีการนำข้าวสาร ข้าวกล่องให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ขาดรายได้ในการดำรงชีวิตในครอบครัว เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของพ่อแม่พี่น้องที่ประสบปัญหาการดำรงชีวิตรายวัน
โดยกำหนดจะตั้งจุดแจกในวันที่ 30 มีนาคม 2563 ที่ถนนหลักเมืองนั้น เนื่องจากได้มีประชาชนได้แสดงความคิดเห็นและเสนอแนะ มีข้อห่วงกังวลว่าจะมีการรวมตัวของประชาชน เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี จึงได้ปรับเปลี่ยนการแจกข้าวสารและข้าวกล่อง โดยจะให้ผู้นำชุมชนสำรวจความเดือดร้อน และเสนอชื่อมายังสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี ว่า เป็นผู้มีความเดือดร้อน ยากไร้ พิการ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องการความช่วยเหลือโดยด่วน
ในขั้นตอนการรับของจะให้ผู้นำชุมชนในแต่ละชุมชนเป็นตัวแทนมารับของ โดยจะแจกให้ชุมชนละ 20 ครัวเรือนต่อชุมชนต่อวัน ในส่วนของท้องถิ่น อำเภอทุกอำเภอ เทศบาล ตำบล หมู่บ้านต่างๆ ภายในจังหวัดกาญจนบุรี ทางท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีได้ขอความร่วมมือจากท้องถิ่น เริ่มดำเนินการแจกของในวันที่ 2 เมษายน 2563 นี้
ทั้งนี้ เนื่องจากสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี ไม่มีกำลังพอที่จะแจกทั่วทุกครัวเรือนที่ได้รับความเดือดร้อน และขอขอบคุณสำหรับความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้แนะนำมา ขอเรียนชี้แจงว่า ทางเหล่ากาชาดมีความปรารถนาดีต่อพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนในครั้งนี้ เราคิดหาวิธีและทุกหนทางเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในสภาวะวิกฤตเช่นนี้ เพื่อเราจะผ่านพ้นไปด้วยกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี ยังได้ออกแจกหน้ากากอนามัยแบบผ้าให้แก่พ่อค้าแม่ค้า ประชาชนในตลาด และชุมชน เพื่อใช้ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19