xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ กาญจน์ออกคำสั่ง โรงแรม รีสอร์ตเปิดรับบริการได้ หวั่นกระทบเศรษฐกิจระยะยาว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรี - ผู้ว่าฯ กาญจน์ ออกคำสั่งโรงแรม รีสอร์ตเปิดรับบริการได้ หวั่นกระทบเศรษฐกิจระยะยาว ส่วนร้านมือถือที่อยู่ในห้าง เปิดให้บริการได้ด้วยเช่นกัน แต่ต้องปฏิบัติตามสุขอนามัย ป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด หากฝ่าฝืนเจอโทษทั้งจำทั้งปรับ  
 
               
วันนี้ (27 มี.ค.) นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 1302/2563  เรื่อง ผ่อนผันการบังคับตามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี
 
               
ระบุว่า อนุสนธิคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 1294/2563 ลงวันที่ 26 มีนาคม 2563 เรื่องการป้องกันการแพร่ของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี (เพิ่มเติม ครั้งที่ 3) นั้น
               
               
เนื่องจากมีผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม และรีสอร์ต รวมถึงสถานที่ที่มีลักษณะคล้ายกันได้รับผลกระทบและเกิดความเสียหายอย่างมากต่อธุรกิจ หากมีการบังคับใช้คำสั่งโดยเคร่งครัด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจในอนาคต  และเพื่อให้ผู้ที่มีหน้าที่จำเป็นจะต้องมาปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งผ่านการคัดกรองของกระทรวงสาธารณสุขแล้วจะได้มีที่พักแรม
 
               
ประกอบกับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาผลกระทบต่อประชาชน จากการปิดห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ ทำให้ศูนย์บริการโทรศัพท์มือถือที่ตั้งอยู่ในห้างทั่วไปต้องปิดไปด้วย จึงมีประชาชนร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถไปใช้บริการเมื่อโทรศัพท์มือถือมีปัญหา โดยเฉพาะกรณีซิมโทรศัพท์เสีย (ซิมดับ) หรืออุปกรณ์โทรศัพท์มือถือชำรุด จึงผ่อนผันดังนี้
 
               
1.ให้ผู้ประกอบการที่มีผู้มาพักแรมหรือเช่าที่พักโดยต่อเนื่องระยะยาวดำเนินการต่อไป ตามควรแก่การระงับการสูญเสียของกิจการ ทั้งนี้ ให้มีการปฏิบัติตามมาตรการและข้อปฏิบัติด้านสุขอนามัย ในเรื่องการคัดกรองผู้ติดเชื้อ การล้างมือ การสวมหน้ากากอนามัย หรือหลักการของ Social   Distancing  ที่ชัดเจน
 
               
2.ให้ศูนย์บริการโทรศัพท์มือถือหรือระบบสื่อสารในห้างสรรพสินค้า เปิดให้บริการประชาชนได้ โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการการคัดกรองของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
 
               
3.เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน หรือผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้งตามมาตรา 30 วรรค 2 (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539
 
               
ทั้งนี้ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ โดยไม่มีเหตุอันสมควรจะมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ.2563 ไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
กำลังโหลดความคิดเห็น