สระบุรี - "น้องนก" แรงงานไทยชาวสระบุรี ที่กักตัวเองหลังกลับจากเกาหลี ชาวเน็ตต่างชื่นชม พร้อมให้กำลังใจ ล่าสุด สิ้นสุดเวลากักตัวเอง แพทย์วินิจฉัยโรค แจ้งไม่มีอาการไข้ ไม่มีอาการผิดปกติ ทำให้ 2 แม่ลูกดีใจ เป็นการสวมกอดกันเป็นครั้งแรก
กรณีที่มีกระแสข่าวในโลกโซเชียล โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ MissyNok Chamaiporn ชาวโซเชียลต่างเช้ามาชื่นชม หลังเดินทางกลับจากประเทศเกาหลี เมื่อวันที่ 29 ก.พ. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีพ่อแม่มารับที่สนามบินเดินทางกลับอำเภอเมืองสระบุรี ซึ่งเจ้าของเฟซบุ๊กเป็นแรงงานสาวไทย (ถูกกฎหมาย) ในเกาหลีใต้ โรงงานชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ทำงานมาประมาณ 4 ปี 7 เดือน แล้วหมดสัญญาว่าจ้าง
หลังจากลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ ไม่ได้สวมกอดพ่อแม่ ต้องนั่งท้ายรถกระบะ และกลับถึงบ้านก็ไม่ได้เข้าบ้านที่เคยพักอาศัยมาตั้งแต่เด็ก ต้องไปพักกักตัวเองในบ้านหลังน้อย (ดูเหมือนกระต๊อบ) เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ที่มีรั้วรอบขอบชิด ไฟฟ้าไม่มีเข้า (ปัจจุบันมีแล้ว) ห้องน้ำก็ไม่มี กลางวันแดดก็ร้อนมาก ต้องปรับสภาพตัวเองทุกอย่าง ในยามว่างก็เก็บสิ่งของทำความสะอาด เลี้ยงไก่ รดน้ำ ปลูกต้นไม้ ซึ่งสาวแรงงานไทยคนนี้กลับมีแนวคิดและเป็นแบบอย่างให้แก่สังคมที่ต้องมีสำนึกและรับผิดชอบร่วมกันในสภาวะการระบาดของเชื้อโควิด-19
ล่าสุด วันนี้ (16 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านไม่มีเลขที่ ม.3 บ้านโคกหนามแท่ง ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี ไปพบกับ น.ส.ชไมพร เดชยศดี หรือ น้องนก อายุ 27 ปี สาวแรงงานไทย หลังทราบว่า น.ส.ชไมพร จะเดินทางมาตรวจร่างกายเพื่อหาเชื้อโควิด-19 และใบแสดงความเห็นแพทย์จากทางโรงพยาบาลพระพุทธบาท จ.สระบุรี
จากการสังเกต น.ส.ชไมพร มีสภาพร่างกายแข็งแรง มีความสดใสร่าเริงดี และ ได้สอบถามถึงสาเหตุที่ต้องไปตรวจ เพราะว่าอยากให้พ่อแม่ รวมไปถึงญาติพี่น้องและคนในสังคมมีความความสบายใจและยืนยันหลังกักตัวเองเป็นเวลา 16 วัน และขอขอบคุณเพื่อนๆ ทางโซเชียลที่คอยให้กำลังใจมาตลอด รวมไปถึงหน่วยงานราชการที่ให้คำแนะนำ โดยมีนางเทียน เดชยศดี อายุ47 ปี แม่ได้ขับรถยนต์กระบะมีหลังคามารับที่บ้านหลังน้อย โดยให้ น.ส.ชไมพร นั่งท้ายกระบะเช่นเดิมเหมือนตอนที่เดินทางกลับมาครั้งแรก
จากนั้นได้ติดต่อขอตรวจร่างกายจากเจ้าหน้าที่พยาบาลฝ่ายคัดกรอง โรงพยาบาลพระพุทธบาท โดยเจ้าหน้าที่มีการซักถามประวัติและวัดความดัน พร้อมทั้งให้คำแนะนำหลังจากผ่านพ้นการกักตัวเองแล้วควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในกลุ่มที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมาก สวมหน้ากากอนามัย และล้างมือทุกครั้งหากมีการหยิบจับหรือสัมผัสสิ่งของและสัตว์เลี้ยง หลังจากนั้น ประมาณ 20 นาที เจ้าหน้าที่พยาบาลฝ่ายคัดกรอง ได้นำใบแสดงความเห็นแพทย์ การวินิจฉัยโรค ไม่มีอาการไข้ ไม่มีอาการผิดปกติ ทำให้ 2 แม่ลูกดีใจเป็นอย่างมากและได้สัมผัสการสวมกอดกันระหว่างแม่กับลูกเป็นครั้งแรกอย่างอบอุ่น หลังจากที่เดินทางกลับมาจากประเทศเกาหลี
โดย น.ส.ชไมพร เผยว่า รู้สึกโล่งใจมาก หลังจากกักตัวเองมาหลายวัน วันนี้ก็จะได้ออกไปข้างนอกแล้ว ส่วนนางเทียน รู้สึกโล่งสบายใจขึ้น ที่ผ่านมารู้สึกกังวลใจ แต่ผ่านมาแล้ว 14 วัน ไม่มีไข้ ไม่มีไอ ก็ได้ผ่านพ้นไปแล้ว