อุดรธานี-สสจ.แจงข้อปฏิบัติและย้ำขอความร่วมมือจากญาติผีน้อย 33 ช่วยดูแลขณะที่ลูกหลานกักตัวเฝ้าดูอาการโควิด-19 อย่างเคร่งครัดตลอด 14วัน เผยทุกครอบครัวไม่มีปัญหาเรื่องสถานที่กักตัว ส่วนใหญ่ใช้กระท่อมนานอกหมู่บ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 20.00 น. วันที่ 13 มีนาคม 2563 ที่ กองร้อย อส.จ.อุดรธานี ที่ 1 ถ.นิตโย เทศบาลตำบลหนองบัว อ.เมือง ที่ จ.อุดรธานี ซึ่งจังหวัดอุดรธานีที่ใช้เป็นจุดพักและคัดแยกบุคคลที่เดินทางทางมากจากประเทศพื้นที่เสี่ยง โรคโควิด 19 แรงงานไทย หรือ “ผีน้อย” จำนวน 32 คน ได้ถูกส่งตัวโดยรถโดยสารที่เดินทางมาจากศูนย์กักกันโรคอ่าวดงตาล ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี ก่อนกระจายเดินทางกลับไปยังภูมิลำเนาของตนเอง
โดยมีนายธวัชชัย ศรีทอง รอง ผวจ.อุดรธานี นายอุเทน หาแก้ว รอง สสจ.อุดรธานี พร้อมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการณ์โต้ตอบภาวะฉุกเฉิน สนง.สาธารณสุข จ.อุดรธานี สาธารณสุขอำเภอต่าง ๆ ญาติ มาร่วมรอรับแรงงาน
แรงงานไทย จำนวน 32 คน ได้เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง โรคโควิด 19 จาก 4 ประเทศ คือ จีน เกาหลีใต้ อิตาลี และ อิหร่าน เป็นชาย 15 คน และ หญิง 17 คน หลังจากญาติรับกลับไปกักตัวที่บ้าน ให้ครบ 14 วัน
โดยญาติของแรงงานบางคน เตรียมอาหารสด เนื้อสัตว์ต่าง ๆ และ ผลไม้ มาด้วย ผีน้อยและแรงงานทั้ง 32 คน มีญาติพี่น้องมารับกลับครบทุกคน ไม่มีผู้ใดตกค้าง ซึ่งในเวลา 04.00 น. จะมีผีน้อยเดินทางมายังจุดพักและบริการบุคคลที่เดินทางทางมากจากประเทศพื้นที่เสี่ยง ก่อนที่จะกระจายเดินทางกลับไปยังภูมิลำเนาของตนเอง แห่งนี้อีก 3 คน เป็นรถโดยสารที่มาจาก อ.สัตหีบ ส่งผีน้อยและแรงงาน ตามเส้นทางต่าง ๆ ตั้งแต่ จ.สระบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี ปลายทางที่ จ.บึงกาฬ
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการณ์โต้ตอบภาวะฉุกเฉิน สนง.สาธารณสุข จ.อุดรธานี ได้ชี้แจงให้พ่อแม่ ญาติพี่น้องของผีน้อยและแรงงาน ที่มารอรับลูกหลาน ให้เข้าใจถึงการปฏิบัติตัวกับลูกหลานที่จะต้องกักตัว ไม่ได้ออกไปไหนให้ครบ 14 วัน ที่ทุกครอบครัวไม่มีปัญหาเรื่องสถานที่กักตัว เพราะส่วนใหญ่จะใช้กระท่อมนานอกหมู่บ้าน รวมทั้งปัญหากับคนในชุมชน ที่เข้าใจในการกักตัวเองที่บ้าน
อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่ทำการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ภายในรถ และท้ายรถกระบะ โดยผู้ที่นำรถเก๋งมารับ ต้องเปิดกระจกห้ามเปิดเครื่องปรับอากาศ นำตัวญาติเดินทางกลับ ห้ามสัมผัสร่างกาย อย่างเด็ดขาด