xs
xsm
sm
md
lg

"กักตัวสายธรรมชาติ" ตัวอย่างดีๆ ถึง "ผีน้อย" เวลาเที่ยวมีอีกเยอะ รับผิดชอบสังคมก่อน!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



 
สังคมไทยชื่นชม! “นี่แหละแบบอย่างน่าทำตาม” สาวไทยกลับจากเกาหลีใต้ ตัดสินใจกักตัวเองในบ้านสวน 14 วัน แถมอัปเดตโซเชียลฯ รีวิวชีวิตแต่ละวัน พรวนดิน-ปลูกต้นไม้-ทำสวน-ทำกับข้าว แบบเรียบง่าย แม้ลำบากแต่ต้องรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมฝากถึง “ผีน้อย” บางคน กักตัวก่อนดีไหม มีเวลาให้เที่ยวอีกเยอะแยะ!!

ส่องชีวิต 14 วัน พลิกวิกฤตเป็นโอกาส

“ตอนแรกก็รู้สึกงงๆ ฉันมาทำอะไรตรงนี้ แต่คือต้องพลิกวิกฤตเป็นโอกาส อยู่คนเดียวไม่มีอะไรทำก็ไปทำสวนค่ะ ตอนแรกกะว่าจะมากักตัวอยู่เฉยๆ แต่อยู่เฉยๆ ไม่ได้ เพราะอากาศที่เมืองไทยร้อนมากก็เลยไปนั่งใต้ต้นไม้ เห็นว่าทำไมต้นไม้มันเสื่อมโทรมจังก็เลยจัดการซะเลย”

“นก - ชไมพร เดชยศดี” สาวไทยผู้โด่งดังเพียงข้ามคืน หลังกลับจากประเทศเกาหลีใต้ เพราะสิ้นสุดสัญญาจ้างงาน นับตั้งแต่มาถึงสนามบินไทยก็เลือกที่จะกักตัวเองจากผู้อื่น 14 วัน เธอเปิดใจกับทีมข่าว MGR Live ถึงความรู้สึกแรกหลังเดินทางกลับสู่บ้านเกิดใน จ.สระบุรี เป็นคืนแรก ซึ่งยอมรับว่าค่อนข้างลำบากอยู่เหมือนกัน

“ที่นกต้องกลับมาไทย เพราะสัญญาจ้างหมดพอดีค่ะ กลับมาพัก 3 เดือนแล้วต้องไปต่อ ตอนอยู่ที่เกาหลีนกทำงานที่โรงงานอุตสาหกรรมที่ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ค่ะ ทำได้ 4 ปี 7 เดือนแล้ว ไปผ่านกระทรวงแรงงานค่ะ แบบถูกกฎหมาย




 
ตอนแรกก็ว่าจะมาเซอร์ไพรส์ที่บ้านค่ะ แต่เหตุการณ์ไวรัสมันรุนแรงขึ้น ยอดผู้ป่วยติดเชื้อก็เพิ่มขึ้นจำนวนมาก เราก็กลัว ดูข่าวที่ไทยก็กลัว ที่เกาหลีก็เยอะเลยตัดสินใจโทร.บอกแม่ว่าจะเอายังไงดี ตอนที่อยู่เกาหลีก็ดูข่าวเมืองไทยเห็นว่านักท่องเที่ยวที่เข้ามา เขาป่วย ต้องถูกกักตัวในโรงพยาบาล

เรากลัวว่าจะมาติดที่บ้าน เราดูข่าวก็เห็นว่าเขาป้องกันยังไง เราก็จำมาค่ะ มาคุยกับที่บ้านว่าเราอยากจะป้องกัน เราไม่รู้ว่าตัวเรามี หรือไม่มี แต่แยกไว้ดีกว่าค่ะ พ่อก็ทำห้องน้ำ ทำครัว ทำอะไรให้หมดเลยค่ะ พร้อมที่จะอยู่เลย กลับมาวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ตอนกลางคืน

ตอนแรกที่บ้านจะเอารถเก๋งมา แต่เปลี่ยนแผนค่ะ เขาบอกว่ากลัวเหมือนกันเลยเอารถกระบะมา แล้วบอกว่านกต้องนั่งหลังนะก็เลยนั่งข้างหลังมา เราก็เต็มใจด้วย อยากจะป้องกัน ถ้าเกิดเรามีเชื้อขึ้นมา คนที่บ้านเราติด แล้วคนที่บ้านเราก็ออกไปข้างนอกอีก มันจะเป็นปัญหาใหญ่ รับผิดชอบไม่ไหวด้วยค่ะ”

แม้ระยะเวลา 14 วัน เหมือนเป็นช่วงเวลาไม่นาน แต่การต้องอยู่ลำพังในบ้านสวน ซึ่งไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ รวมถึงไร้ไฟฟ้าเข้าถึงใน 3 วันแรก ก็ต้องนับถือในความเด็ดเดี่ยวและกล้าหาญของเธออยู่พอสมควร ทั้งนี้เธอก็ได้เล่าชีวิตในแต่ละวันให้ฟังด้วยว่าต้องหากิจกรรมทำให้ไม่รู้สึกเบื่อ

“ตื่นนอนอันดับแรกจะไปรดน้ำต้นไม้ค่ะ เพราะช่วงสายมาน้ำจะไม่ค่อยไหล ตอนเช้าจะไปรดน้ำผัก ให้อาหารไก่ หลังจากนั้นมาทำกับข้าว กินข้าวเสร็จก็มาพักนิดหน่อย บ่ายๆ ก็ไปหาปลูกต้นไม้ พรวนดิน เพราะถ้านั่งอยู่บนเตียงมันจะร้อนมากค่ะ ต้องไปอยู่ใต้ต้นไม้


 
ช่วงเย็นก็เหมือนเดิมค่ะ รดน้ำผักอีกรอบ รดเช้า รดเย็น เพราะมันร้อนมาก ที่เห็นเอาผลไม้มากิน ที่สวนมีบางส่วน บางส่วนแม่ก็ซื้อเข้ามาให้ค่ะ แม่จะมาส่งอาหารเช้ากับเย็น เป็นอาหารสดบ้าง อาหารสำเร็จบ้าง

ในสวนจะมีมะละกอ มะม่วงหาวมะนาวโห่ มีผักบางชนิดค่ะ ส่วนมากแม่จะซื้อเป็นของสดเข้ามาแล้วแช่ในถังน้ำแข็งค่ะ แม่ก็จะแขวนไว้หน้าประตูค่ะ ไม่ก็เดินเข้ามานิดหนึ่ง วางไว้ แล้วแม่ก็ไป

วันนี้เข้าวันที่ 8 สำหรับการกักตัว เริ่มชินแล้วค่ะ แต่ 2-3 วันแรกทรมานอยู่ค่ะ มันร้อน ไม่มีเพื่อนคุยด้วยค่ะ อยู่คนเดียวไม่รู้จะทำอะไรเลย ตื่นเช้ามาก็เลยลงโซเชียลฯ นิดหนึ่ง เผื่อเพื่อนมาเห็นแล้วมาคอมเมนต์จะได้มีเพื่อนคุย ไม่ได้คิดว่าคนจะสนใจขนาดนี้”

ความรับผิดชอบต่อสังคมต้องมี!!
 
“ที่จริงแล้วการที่จะเป็นผีน้อย ถ้าจะกลับมาเมืองไทย นกคิดว่าประชาชนชาวไทยก็ไม่รังเกียจหรอกค่ะ แต่ถ้ามาทำพฤติกรรมแบบนี้ ยิ่งทำให้คนมองคำว่า ผีน้อย แย่ลงไปกว่าเดิม
บางคนเขาก็ไม่ได้เลวร้าย เขาเป็นผีน้อยก็จริง เขากลับมากักตัวก็มี แต่ที่เราเห็นในโซเชียลฯ อาจจะมีบางส่วน ก็อยากจะขอความร่วมมือจริงๆ ค่ะ”

ในฐานะที่เธอแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยการกักตัวเองก็ได้สะท้อนความเห็นหลังมีข่าวเกี่ยวกับการเดินทางกลับไทยของคนไทยในเกาหลี และผู้ที่ลักลอบไปแบบผิดกฎหมาย ซึ่งถูกเรียกว่า “ผีน้อย” ไม่ยอมกักตัวเอง 14 วัน หรือที่เลวร้ายกว่านั้นคือมีการเดินทางไปท่องเที่ยว หรือไปทานอาหารตามร้านต่างๆ ในไทย

“เท่าที่ได้คุยกับเพื่อนๆ ที่เจอกันในเกาหลี เป็นคนที่ไม่มีวีซ่านะคะ เราก็ได้สอบถามว่ารู้สึกยังไง เขาก็บอกว่าไม่ได้มีปัญหาเรื่องตั๋วเครื่องบินนะคะ เขายินยอมที่จะจ่ายเงินเอง นกคิดว่าน่าจะเป็นเฉพาะกลุ่มเล็กๆ ที่เรียกร้องส่วนนี้ คนส่วนมากเขาเต็มใจ และมีกำลังทรัพย์ที่จะซื้อตั๋วกลับมาค่ะ ที่สอบถามนะคะ


 
ส่วนผีน้อยที่กลับมาแล้วไม่กักตัว ก็อยากจะขอว่าให้ความร่วมมือกับทางสาธารณสุขค่ะ เรากักตัวเองดีกว่า สัก 14 วัน เรายังมีเวลาอีกเยอะที่จะไปกินหมูกระทะ หรือไปเที่ยว เราต้องรู้จักป้องกันตัวเองออกจากคนอื่น เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรค เราต้องเริ่มจากตัวเองก่อนอันดับแรกนะคะ

เราไม่มีทางที่จะรับผิดชอบไหวแน่นอน ถ้าคนอื่นติดเชื้อขึ้นมา มันจะเป็นปัญหาระดับประเทศค่ะ คนอื่นเขาก็จะได้รับความเดือดร้อน ถ้าเราไปกินหรือไปเที่ยว แล้วร้านเขาต้องปิด ต้องหวาดระแวงว่าจะมีเชื้อโรคหรือเปล่าก็อยากขอความร่วมมือนิดหนึ่งค่ะ

ทั้งนี้ การที่เธออัปเดตชีวิตกักตัวลงโซเชียลฯ จนหลายเสียงชื่นชมยกให้เป็นแบบอย่าง เธอเปิดใจว่าอยากให้เป็นแนวทางในการหากิจกรรมทำระหว่างเก็บตัวมากกว่า เพื่อลดความเครียดเพราะอยู่บ้านตลอดทั้งวัน แถมยังฝากทิ้งท้ายถึงผู้ที่เดินทางมาจากประเทศเสี่ยงด้วยว่า ควรนึกถึงส่วนรวมดีที่สุด

“คิดว่าน่าจะเป็นแนวทางให้คนอื่นได้อยู่นะคะ อย่างน้อยก็ได้รู้แนวทางว่าระหว่างที่กักตัว เราสามารถทำอะไรได้บ้าง ลดความเครียดที่ว่าเราต้องอยู่คนเดียวค่ะ เราต้องหาอะไรทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายนะคะ ถ้าอยู่บ้านอาจจะมีการทำกับข้าว หรือถักโคเชก็ได้ค่ะ

ส่วนคนที่มาจากประเทศเสี่ยง ถ้าไม่คิดถึงตัวคนอื่นก็ให้คิดถึงตัวครอบครัวของคุณนะคะ เพราะถ้าคุณมาคลุกคลีกับคนในครอบครัวคุณ อาจจะติดเชื้อจากคุณได้ โดยที่ไม่รู้ตัวว่ามีเชื้อหรือเปล่า เราต้องนึกถึงคนในครอบครัวอันดับแรก และคิดถึงสังคมด้วยนะคะ

นกก็อยากให้ทุกคนให้ความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขนะคะ ให้กักตัวก่อน ถึงเราจะมี ไม่มีก็ต้องกักไว้ก่อน กันไว้ดีกว่าแก้ค่ะ ถ้าในตัวเรามี เขาก็จะรักษาให้เราทันท่วงที ถ้าเราไม่กักตัวเอง เราอาจจะไปแพร่ให้คนอื่นอีก รักษาไม่ทันท่วงที อาจเสียชีวิต เราให้ความร่วมมือกับเขาดีกว่าค่ะ”
 
ข่าว MGR Live




** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **



กำลังโหลดความคิดเห็น