เลย - “วราวุธ” วางมาตรการเข้มฟื้นคืนผืนป่าภูกระดึง เผยปิดการท่องเที่ยว 6 เดือน ตั้งแต่ เม.ย.-ก.ย. 63 มุ่งให้ธรรมชาติฟื้นคืน พร้อมบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ด้านโครงการสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึงจะนำข้อมูลสู่ที่ประชุม ครม.พิจารณา
วันนี้ (2 มี.ค. 63) ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว (วังกวาง) บนยอดภูกระดึง อ.ภูกระดึง จ.เลย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ และคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางตรวจราชการพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตรวจพื้นที่ถูกไฟป่าเผาเสียหาย 3,400 ไร่ ร่วมทำแนวกันไฟ และประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กิจกรรมวันที่สองของโครงการตรวจราชการครั้งนี้ ได้เดินเท้าไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น จากนั้นร่วมกิจกรรมขยะคืนถิ่น มอบขยะให้นักท่องเที่ยวนำกลับลงจากยอดภูกระดึง กิจกรรมรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วในอุทยานแห่งชาติภูกระดึง กิจกรรมทำแนวกันไฟบริเวณหลังองค์พระพุทธเมตตา หลังจากนั้นได้ประชุมผู้บริหารระดับสูงหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2563 ณ บริเวณบ้านสนสามพันปี
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ชื่นชม จนท.และ พนง.บุคลากรฝ่ายต่างๆ ที่ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมไฟป่าลงได้ สาเหตุ 99.99% เกิดจากฝีมือมนุษย์ เห็นแก่ตัว ความมักง่ายของคนบางคน ทำให้ป่าได้รับความเสียหายบนภูกระดึงไป 10% โดยแนวทางฟื้นฟูนั้นจะปิดภูกระดึง 6 เดือนตั้งแต่ เม.ย.-ก.ย. 63 หรือ 6 เดือน ปกติแต่ละปีจะปิด 4 เดือน/ปี เพื่อให้ธรรมชาติบนภูกระดึงฟื้นคืน ซึ่งไฟป่าที่เกิดขึ้นถือว่าหนักสุดในรอบ 20 ปี
อย่างไรก็ตาม ขอฝากไปถึงประชาชนให้ช่วยกันดูแลทรัพยากรธรรมชาติให้ดีที่สุดเพื่อส่งต่อไปยังลูก-หลานในอนาคต ส่วนมาตรการเข้ม จะได้จัดกำลังลาดตระเวนและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ไม่ไว้หน้าใครแม้กลุ่มอิทธิพลผู้มีอำนาจ และขอขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกะทรวงกลาโหม ที่ให้เฮลิคอปเตอร์ MI 17 พร้อมทหารมาช่วยยกแทรกเตอร์ รถกระบะ พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อดับไฟป่าและทำแนวกันไฟ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวถึงโครงการกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึงว่า มีการผลักดันมานานนับสิบปีแล้ว เมื่อวานมีประชาชนมาเรียกร้องด้วย จำเป็นต้องฟังเสียงฝ่ายที่เห็นชอบและฝ่ายที่เห็นต่างเพื่อความยั่งยืน หากทำแล้วเกิดปัญหากับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำให้ป่าเสื่อมโทรมลงก็ไม่ทำ จึงได้เก็บข้อมูลนำไปเสนอต่อทุกฝ่ายในคราวประชุมต่อไป และที่สำคัญยังตอบไม่ได้ว่าจะปิดโครงการหรือไม่
