ศูนย์ข่าวศรีราชา - เปิดปฏิบัติการดับไฟป่าภาคตะวันออกในพื้นที่ จ.ตราด สระแก้ว จันทบุรี ท่ามกลางการประสานงานจากทุกหน่วยทำสถานการณ์เริ่มดีขึ้น โดยเฉพาะเขตชายแดนตราด หลัง ทร.ส่งซีฮอว์กดับไฟทั้ง 13 จุด คาดแล้วเสร็จวันนี้ ขณะที่ มท.2 นำคณะลงพื้นที่ดูเหตุการณ์
จากเหตุการณ์ไฟป่าบนเทือกเขาบรรทัดที่ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านและเจ้าของสวนพริกใน จ.ตราด หลังกลุ่มควันไฟปกคลุมท้องฟ้าในหลายอำเภอ จนทำให้ประชาชนต้องหาหน้ากากอนามัยสวมใส่เพื่อป้องกันการสูดดมควันพิษ กระทั่งล่าสุด กองทัพเรือ ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ "ซีฮอว์ก" จาก อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ไปยังหน่วยเฉพาะกิจชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 3 เขาล้าน (ชค.3) ต.ไม้รูด อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เพื่อปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าบนเทือกเขาบรรทัด บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ตราด ในเบื้องต้นจำนวน 2 จุด จาก 13 จุด
เช่นเดียวกับไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่อุทยานแห่งชาติปางสีดา จ.สระแก้ว ที่ในวันนี้ยังลุกไหม้ป่าไม้จนได้รับความเสียหายแล้วกว่า 500 ไร่ ส่วนสถานการณ์ไฟป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองเครือหวาย จ.จันทบุรี ขณะนี้สถานการณ์เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่หน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์เพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลามขึ้นอีกนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (26 ก.พ.) นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ พร้อมด้วย นายธีระ สลักเพชร อดีต ส.ส.ตราด ได้เดินทางเข้ารับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ชายแดน ที่ศาลากลางจังหวัดตราด โดยมี ว่าที่ ร.ต.พิเชียน ลิมป์หวังอยู่ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด รายงานสถานการณ์ว่า ไฟป่าใน จ.ตราด เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2562 ที่ผ่านมา
โดยสาเหตุมาจาการเผาป่าเพื่อทำการเกษตรของประเทศเพื่อนบ้านจนทำให้มีกลุ่มควันลอยเข้ามาในพื้นที่ และยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นในวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา เมื่อไฟป่าได้ลุกลามเข้ามายังพื้นที่ 4 ตำบลใน อ.เมืองตราด และอีก 2 ตำบลใน อ.คลองใหญ่ จนทำให้ป่าธรรมชาติได้รับความเสียหายและมีกลุ่มควันลอยเข้ามาปกคลุมในพื้นที่ ซึ่งทางจังหวัดได้ประกาศให้พื้นที่ อ.เมือง อ.คลองใหญ่ และ อ.บ่อไร่ เป็นพื้นที่ภัยพิบัติ รวมทั้งสนับสนุนงบประมาณในการช่วยเหลือประชาชน
นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์จากกองทัพเรือ ในการนำน้ำดับไฟตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ และดำเนินการดับไฟป่าแล้วทั้งสิ้น 13 จุด ซึ่งในวันนี้จะดำเนินการต่อเนื่องจนไฟป่าดับทั้งหมด เนื่องจากตลอดแนวเขาบรรทัดที่มีความยาว 162 กิโลเมตร เป็นจุดที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเดินเท้าเข้าไปดับไฟได้ เนื่องจากยังมีทุ่นระเบิดที่ยังไม่สามารถเก็บกู้ได้หลงเหลืออยู่จำนวนมาก ขณะที่อธิบดีกรมฝนหลวง ยังแจ้งว่าจะดำเนินการทำฝนหลวงเพื่อเพิ่มความชื้นสัมพัทธให้เหมาะสมอีกด้วย
ไฟป่าสระแก้ว ยังโหมลุกไหม้พื้นที่ป่าสูงในเขตอุทยานแห่งชาติปางสีดา เสียหายกว่า 500 ไร่
และในวันเดียวกันนี้ ผู้สื่อข่าวยังรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ จ.สระแก้ว ว่า หลังจากที่ นายบุญเชิด เจริญสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติปางสีดา นายธีรพล ศรีโมลา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสระแก้ว นายประสิทธิ์ โฉมศรี รวมทั้ง นายทวีศักดิ์ บัวพา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระแก้ว ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์การดับไฟป่าตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้นั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถควบคุมไฟป่าได้
นอกจากนั้น ยังมีรายงานว่า ตลอดช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา หลังเกิดไฟป่าขึ้นในพื้นที่อุทยานแห่งชาติปางสีดา ต.โคกปี่ฆ้อง พบว่า มีป่าไม้ถูกไฟไหม้เสียหายแล้วกว่า 500 ไร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งทำแนวกันไฟด้านล่างได้แล้ว เหลือเพียงบริเวณด้านบนเขาทางทิศเหนือ ที่ยังคงมีไฟป่าไหม้ลุกลามไปบนแนวสันเขาต่อเนื่อง ทำให้ต้องใช้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ และเจ้าหน้าที่ควบคุมไฟป่า เดินเท้าเข้าไปดับไฟและทำแนวกันไฟด้านบนเขาต่อเนื่องทุกวัน
ไฟป่านอกเขตอุทยานฯ รอยต่อ อ.มะขาม-โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี กลับสู่ภาวะปกติแล้ว
ส่วนไฟป่าที่ลุกไหม้บนเขามาบคล้า ซึ่งอยู่นอกเขตอุทยานแห่งชาติรอยต่อระหว่างเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองเครือหวาย จ.จันทบุรี ขณะนี้สถานการณ์เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยนายอำเภอมะขาม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และหน่วยควบคุมไฟป่าเขาสอยดาว รวมทั้งเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลฉมัน อส. จิตอาสา และชาวบ้านในพื้นที่ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟป่าเกิดขึ้นอีกครั้ง
ขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจันทบุรี ได้ติดตามคุณภาพอากาศ หรือ PM 2.5 โดยอ้างอิงภาพถ่ายทางดาวเทียมจากสถานีตรวจวัดค่าคุณภาพอากาศใน ต.ตะพง อ.เมืองระยอง และสถานีตรวจวัดค่าคุณภาพอากาศใน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พบว่า คุณภาพอากาศ หรือ PM 2.5 อยู่ในระดับปานกลาง หรือเป็นสีเหลือง คือไม่เกิน 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร