พิษณุโลก - พ่อเฮียตี๋-นักธุรกิจหนุ่มเจ้าของเต็นท์รถมือสองพิษณุโลก ไม่เชื่อลูกชายหนี้รุมจนคิดสั้นฆ่าตัวตายยกครัว 5 ศพ พร้อมสุนัขคู่ใจรวม 11 ชีวิต ยันมีปัญหาเงินทองล้านสองล้านก็หยิบยื่นให้ตลอด ขณะที่เจ้าหนี้นับสิบหอบหลักฐานเข้าพบ ตร.
ความคืบหน้าเหตุสลด นายกัณตภณ แป้นวงศ์ หรือเฮียตี๋ อายุ 39 ปี เจ้าของเต็นท์รถยนต์มือสองกัณตภณออโต้ อ.เมืองพิษณุโลก กินยาพิษ-ตั้งเตาอั้งโล่รมควันฆ่าตัวตาย พร้อม นางสุนิสา แป้นวงศ์ อายุ 60 ปี มารดาเฮียตี๋ น.ส.สุธิพร แป้นวงศ์ อายุ 45 ปี พี่สาวเฮียตี๋ นางยอดขวัญ แป้นวงศ์ อายุ 41 ปี ภรรยา และ ด.ช.รชฏ แป้นวงศ์ อายุ 13 ปี บุตรชาย รวม 5 ศพยกครัว พร้อมสุนัขอีก 6 ตัว เป็นพันธุ์บีเกิล 2 ตัว ชิห์สุ 3 ตัว ปอเมอร์เรเนียน 1 ตัวนั้น
ล่าสุดวันนี้ (22 ก.พ.) น.ส.อัจฉรา พานนาค อายุ 43 ปี ปลัดอำเภอเมืองพิษณุโลก (พี่สาวของ นางยอดขวัญ แป้นวงศ์ ภรรยาเฮียตี๋) ก็ได้เก็บเถ้ากระดูกสุนัขทั้ง 6 ตัวของครอบครัวเฮียตี๋ ที่ทำพิธีเผาที่วัดเขื่อนขันธ์ ต.อรัญญิก อ.เมืองพิษณุโลก ตามความต้องการของญาติเมื่อเย็นวานนี้ (21 ก.พ.) เพราะครอบครัวเฮียตี๋รักสุนัขทั้ง 6 ตัวนี้มาก
น.ส.อัจฉราเปิดเผยว่า กำลังจัดเตรียมเอกสารต่างๆ เพื่อเดินทางไปขอรับศพผู้เสียชีวิตทั้ง 5 รายที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลพุทธชินราช คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงเย็นนี้ (22 ก.พ.) จากนั้นจะมีการพูดคุยเรื่องกำหนดการวันสวดพระอภิธรรมอีกครั้งหนึ่ง ส่วนเรื่องคดีความนั้นจะต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจสรุปสาเหตุหรือแรงจูงใจของการฆ่าตัวตายอีกครั้ง ซึ่งทุกคนยังอยู่ในความโศกเศร้าเสียใจ ไม่พร้อมที่จะพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้เรียกสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 3 ปาก ซึ่งก็ได้ข้อมูลมามากพอสมควร ว่าครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้กู้เงินจากธนาคารใดบ้าง ส่วนเงินกู้นอกระบบนั้นก็เป็นกลุ่มของเพื่อนฝูงที่รู้จักกัน รวมๆ แล้วมากกว่า 10 ล้านบาท มีการเสียดอกเบี้ยต่อเดือนถึงหลักแสน จึงอาจจะทำให้หมุนเงินทางธุรกิจหลายอย่างที่เพิ่งลงทุนไปไม่ทัน เช่น เต็นท์รถยนต์มือสอง สถานตรวจสภาพรถเอกชน ร้านกาแฟ ธุรกิจส่งน้ำแข็ง เป็นต้น จึงมุ่งไปที่ประเด็นการฆ่าตัวตายจากปัญหาหนี้สิน
ส่วนผลชันสูตรของแพทย์ระบุว่า ครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้งหมดสูดดมสารพิษเข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่มาก ซึ่งส่วนใหญ่คนที่เสียชีวิตตามธรรมชาติทั่วไปแผ่นหลังจะมีเลือดตกสีดำคล้ำ แต่ถ้ามีสารพิษเข้าสู่ร่างกายที่แผ่นหลังจะมีเลือดตกเป็นสีแดงสด จึงสอดคล้องกับหลักฐานทางนิติเวชในที่เกิดเหตุ
ขณะที่เพื่อนสนิทของเฮียตี๋ที่ประกอบธุรกิจเต็นท์รถยนต์มือสองเช่นกันเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ธุรกิจเต็นท์รถยนต์มือสองของเฮียตี๋ถือว่าดี ขายได้ถึง 10-20 คันต่อเดือน กระทั่งระยะหลังเศรษฐกิจไม่ดี ขายรถยากขึ้น แต่เฮียตี๋ก็ขายไปยังเต็นท์รถของกลุ่มเพื่อนในราคาถูกเพื่อเอาเงินไปหมุนจ่ายเงินที่กู้ยืมมา เพิ่งมาทราบว่ามีหนี้สินไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเห็นเฮียตี๋เล่าเรื่องส่วนตัวให้ใครฟัง และไม่คิดว่าจะคิดสั้นฆ่าตัวตาย
วันเดียวกันนี้ กลุ่มเจ้าหนี้ของนายกัณตภณ แป้นวงศ์ หรือเฮียตี๋ จำนวนกว่า 10 คน ได้รวมตัวกันนำหลักฐานเอกสารและข้อมูลเกี่ยวกับการกู้เงินของเฮียตี๋ไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองพิษณุโลกเพื่อเป็นหลักฐาน
นายภิชาติ อมรรุ่งรัศมี ซึ่งเป็นหนึ่งในญาติของเฮียตี๋ กล่าวว่า ตนนำเงินมาลงทุนร่วมกับนายกัณตภณ หรือเฮียตี๋ และให้ยืมเงินมาตลอด พร้อมโน้ตเอาไว้ด้วยว่า ยืม-คืนเงินเมื่อไร นอกจากนี้ น้องสาวของเฮียตี๋ก็ไปขอยืมด้วย มีหลักฐานการยืมเงินกว่า 8 ล้านบาท ซึ่งตนและเพื่อนที่เป็นเจ้าหนี้เฮียตี๋อยากให้สบายใจ จึงนำหลักฐานมาแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อเจ้าหน้าที่
นายธงชัย แป้นวงศ์ หรือตี๋สั้น อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74/1 หมู่ 1 ต.พลายชุมพล อ.เมืองพิษณุโลก ซึ่งเป็นพ่อของนายกัณตภณ ที่ได้เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมขอเอกสารเพื่อนำไปประกอบในการรับศพผู้เสียชีวิตทั้งหมดที่นิติเวช โรงพยาบาลพุทธชินราช และนำไปบำเพ็ญกุศล
นายธงชัยกล่าวว่า ตนยังไม่ปักใจเชื่อสาเหตุการตายของลูกชายและครอบครัว ซึ่งอาจมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง จะต้องมีการผ่าพิสูจน์จากแพทย์นิติเวชให้ชัดเจนอีกครั้ง เพราะลูกชายก็จบเตรียมทหารมา ไม่น่าจะคิดสั้นแบบนี้ ซึ่งแม้ว่าลูกจะแยกครอบครัวแล้วแต่ก็ติดต่อกันตลอดเวลา ที่ผ่านมาพอลูกชายมีปัญหาเรื่องหนี้สิน 1-2 ล้านตนก็หยิบยื่นให้ เพราะการทำธุรกิจก็ต้องมีเงินหมุนเวียนเป็นเรื่องธรรมดา แต่จะมาบอกว่าลูกชายติดหนี้สินนับ 10 ล้านบาท ตนไม่เชื่อ