นักธุรกิจเดนมาร์ก แจ้งจับ “จารึก สีอ่อน” ส.ส.อนาคตใหม่ จันทบุรี ขายรถ BMW ซีรีส์ 7 เลขไมล์ 60,000 กม. ราคา 1.45 ล้าน ใช้ไปซ่อมไปปีกว่า จึงนำเข้าศูนย์และทราบว่าถูกโกงเลขไมล์ ที่แท้จริงคือ 4 แสน กม. ติดต่อขอเงินดาวน์คืนกลับโดนเบ่งใส่ อ้างเป็น ส.ส.ทำอะไรตนไม่ได้
วันนี้ (13 พ.ย.) ที่กองปราบปราม นายแคสเปอร์ บาร์โธดิ อายุ 34 ปี นักธุรกิจชาวเดนมาร์ก พร้อมด้วย น.ส.ศิรินภา ขุมทอง พี่สะใภ้ และนายนุกูล นุกูลกิจ ทนายความ เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.หญิง พรพิมล ดอกไม้ รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อนายจารึก สีอ่อน ส.ส.จันทบุรี พรรคอนาคตใหม่ นายจิรวัฒน์ กิจสมานมิตร พี่ชายนายจารึก และบริษัท ไทยธนายนตการ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 26/32 ม.13 ถ.ปิ่นเกล้า-นครไชยศรี แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กทม. ในข้อหาขายของโดยการหลอกลวง ตามมาตรา 271 หลังซื้อรถยนต์มือสองจากบริษัทดังกล่าว แต่กลับได้รถไม่ได้คุณภาพตามที่ลงประกาศขายไว้
น.ส.ศิรินภากล่าวว่า เมื่อเดือน พ.ค. 2561 นายแคสเปอร์ได้พบเห็นนายจารึก โพสต์ประกาศขายรถยนต์ยี่ห้อ BMW รุ่นซีรีส์ 7 ปี 2011 เลขไมล์การใช้งาน 60,000 กม. สภาพพร้อมใช้งาน ลงในเว็บไซต์แห่งหนึ่ง จึงเกิดความสนใจและให้ น.ส.ดวงใจ ภรรยาติดต่อสอบถาม และนัดดูรถที่เต็นท์รถมือสองย่านกาญจนาภิเษก ก่อนจะมีการตกลงราคารถกันที่ 1,450,000 บาท นายแคสเปอร์และภรรยาจึงได้จ่ายเงินดาวน์รถไว้ในเบื้องต้น 650,000 บาท เพื่อนำรถกลับไปใช้ แต่ระหว่างที่กำลังขับรถคันดังกล่าวออกจากเตนท์รถเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านที่ จ.ชลบุรี กลับปรากฏว่ารถเกิดเสียที่บริเวณถนนมอเตอร์เวย์ จึงติดต่อเต็นท์รถให้นำกลับไปซ่อม
น.ส.ศิรินภากล่าวต่อว่า ตั้งแต่ซื้อรถคันดังกล่าวมาใช้ระยะเวลากว่า 1 ปี ผ่อนชำระไปแล้วเป็นเงินกว่า 4 แสนบาท แต่ต้องซ่อมรถไปแล้ว 3 ครั้ง เสียเงินค่าซ่อมไปกว่า 3 แสนบาท รวมเงินที่ต้องจ่ายต่างๆ จากรถคันนี้เป็นเงินเกือบ 1.4 ล้านบาท โดยครั้งล่าสุดนำรถเข้าศูนย์ที่ จ.ชลบุรี โดยตรง จนมีการตรวจสอบพบว่าเลขไมล์การใช้งานจริงๆ ของรถสูงถึง 400,000 กิโลเมตร ไม่ใช่ 60,000 กิโลเมตร ตามที่กล่าวอ้าง เชื่อว่ารถน่าจะถูกกรอเลขไมล์ก่อนนำมาประกาศขาย จึงได้ติดต่อกลับไปยังนายจารึกเพื่อขอเงินดาวน์รถและเงินค่าผ่อนรถคืนรวม 1 ล้านบาท แต่ทางนายจารึกจะยอมจ่ายให้เพียงแค่ 3 แสนบาท แต่ทางเราไม่ยอมจึงต้องการเข้าแจ้งความ ทางนายจารึกจึงพูดเชิงข่มขู่ว่าทำอะไรตนไม่ได้ เป็น ส.ส. ไม่กลัว ด้วยเหตุนี้จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้มายังกองปราบปราม
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องไว้เพื่อสอบปากคำพร้อมตรวจสอบหนังสือสัญญาและเอกสารหลักฐานต่างๆ ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
