MGR Online - พนักงานไฟแนนซ์ร้องกองปราบปราม ลูกหนี้หลังยึดรถค้างชำระงวดเกือบปี แต่ถูกกรณีใช้มีดแทง อ้างรู้จัก “ผกก.แป๊ะ”
วันนี้ (11 พ.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 09.40 น. นายสมเจตน์ เหล่าสอน อายุ 34 ปี พนักงานบริษัทไฟแนนซ์แห่งหนึ่ง พร้อมเพื่อนพนักงานรวม 3 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ทรงพล หมอกกลั่น สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. เพื่อแจ้งความเอาผิดต่อนายพรประเสริฐ แก้วตา อายุ 58 ปี ผู้ที่ขับรถยนต์คันที่ค้างชำระค่างวดรถกับทางบริษัทไฟแนนซ์ จำนวน 9 งวด ทำร้ายร่างกายโดยการใช้อาวุธมีดแทงจนได้รับบาดเจ็บ หลังไปทำการติดตามทวงค่างวดรถที่ติดค้าง โดยนำภาพคลิปวิดีโอขณะเกิดเหตุ และใบรับรองแพทย์มามอบให้เพื่อประกอบการพิจารณา
นายสมเจตน์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ระหว่างตนและพนักงานบริษัทไฟแนนซ์ กำลังขับรถไปตามถนนในซอยกำนันแม้น 13 แยก 31 ได้พบกับรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีน้ำตาล ทะเบียน สฮ 4102 กรุงเทพมหานคร ที่ค้างชำระค่างวดมาแล้ว 9 ครั้ง โดยบังเอิญ จึงแสดงตัวขอยึดรถ แต่นายพรประเสริฐ ผู้ขับไม่พอใจและอ้างว่าไม่ใช่เจ้าของรถ แต่เป็นรถที่จำนำไว้ ก่อนจะชกต่อยและใช้มีดพับจ้วงแทงตนจนบาดเจ็บเอ็นนิ้วชี้ซ้ายขาด เย็บ 5 เข็ม ท้ายทอยอีก 5 เข็ม รวมถึงแผลที่หน้าท้อง กระทั่งเพื่อนพนักงานคนอื่นๆ เห็นท่าไม่ดีจึงช่วยกันล็อกตัวผู้ก่อเหตุไว้แล้วใส่กุญแจมือ เพราะเกรงว่าอาจจะทำร้ายร่างกายตนจนถึงแก่ชีวิต
นายสมเจตน์กล่าวต่อว่า เมื่อนายพรประเสริฐสงบสติอารมณ์ได้ ตนก็ขอให้เขาติดต่อเจ้าของรถตัวจริงมาพูดคุยกัน แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จากนั้นนายพรประเสริฐก็ได้ยื่นโทรศัพย์ให้ตนพูดคุยกับนายชื่อ “ผู้กำกับแป๊ะ” โดยบุคคลดังกล่าวมีการอ้างข้อกฎหมายว่า หากไม่มีคำสั่งศาลก็ไม่สามารถยึดรถได้ แต่ในความเป็นจริงตามหลักสัญญาเช่าซื้อแล้ว ไฟแนนซ์สามารถยึดได้หากยกเลิกสัญญาไปแล้ว แต่ด้วยเกรงว่าหากจะยึดรถคืนในวันนั้นอาจทำให้เหตุการณ์บานปลายได้จึงไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.บางขุนเทียน ก่อนจะขอตัวไปรักษาบาดแผลที่ รพ.ใกล้เคียง ก่อนเข้าแจ้งความดำเนินคดีอีกครั้ง แต่ด้วยความที่เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคู่กรณีอ้างว่ารู้จักกับตำรวจใหญ่ จึงตัดสินใจมาร้องขอความเป็นธรรมที่กองปราบปรามดังกล่าว
เบื้องต้น พ.ต.ท.ทรงพลได้สอบปากคำผู้แจ้งไว้ พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานที่นำมาเพื่อประกอบการพิจารณาคดี ก่อนรายงานผู้บังคับบัญชาสั่งการต่อไป