ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้ปกครอง 3 เด็กชาย ป.4-6 โคราช รุมอนาจารข่มขืนเด็กหญิง ป.1 โรงเรียนเดียวกันในห้องน้ำโรงเรียน พร้อมถ่ายคลิปเผยแพร่โซเชียลฯ เผยเสียใจและขอโทษ วอนสังคมให้โอกาส อ้างเด็กทำไปเหตุรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และสภาพจิตใจบอบช้ำหนัก
วันนี้ (20 ก.พ.) ความคืบหน้ากรณีนายโชติ (นามสมมติ) อายุ 41 ปี ชาว จ.นครราชสีมา พ่อของน้องนิ่ม (นามสมมติ) อายุ 7 ขวบ เด็กนักเรียนหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 (ป.1) โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา นำบุตรสาวเข้าร้องเรียนต่อมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เพื่อขอความเป็นธรรมเนื่องจากบุตรสาวถูกรุ่นพี่เป็นเด็กชายชั้น ป.4-6 จำนวน 3 คน โรงเรียนเดียวกัน ลวงไปทำอนาจารข่มขืนในห้องน้ำของโรงเรียนหลังช่วงเลิกเรียนและถ่ายคลิปเผยแพร่ลงในโลกโซเชียลมีเดีย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2563 ที่ผ่านมา หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยมีการร้องเรียนไปยังทางโรงเรียนและผู้อำนวยการเรียนเรียกทั้ง 2 ฝ่ายไปเจรจากันกัน ซึ่งมารดาของเด็กหญิงได้เรียกค่าเสียหายเพื่อยอมความไม่แจ้งความดำเนินคดี โดยให้ผู้ปกครองของเด็กฝ่ายกระทำ ชดใช้ค่าเสียหายรายละ 30,000 บาท รวมเป็น 90,000 บาท และหายหน้าไปกับแฟนใหม่ ขณะที่บิดาของเด็กหญิงซึ่งเลิกรากับภรรยาแล้วได้ไปเยี่ยมลูกจนทราบเรื่องและไม่ยินยอมจึงเข้าร้องเรียนกับทางมูลนิธิฯ และได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ครบุรี เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อดำเนินคดีต่อเด็กชายทั้ง 3 คนอย่างถึงที่สุดนั้น
ล่าสุดวันนี้ ทางผู้ปกครองของเด็กนักเรียนผู้ก่อเหตุได้ออกมาแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับกล่าวแสดงความขอโทษกับสิ่งที่เด็กได้กระทำลงไป และอยากให้สังคมให้โอกาสเด็กๆ บ้าง เพราะสิ่งที่ทำไปเพราะเด็กรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อีกทั้งตอนนี้สภาพจิตใจของเด็กกำลังบอบช้ำอย่างหนัก
นางแก้ว (นามสมสมติ) มารดาของเด็กนักเรียนชายชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หนึ่งในผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า หลังจากที่ลูกชายก่อเหตุและเรื่องทราบถึงตนก็รู้สึกว่าลูกชายมีอาการเครียดอย่างหนักเนื่องจากรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป ตนในฐานะผู้เป็นแม่ไม่อยากที่จะไปซ้ำเดิมให้สภาพจิตใจของลูกบอบช้ำมากไปกว่านี้ ในส่วนของตนก็รู้สึกผิดและเสียใจ กับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมาก อยากขอโทษทางผู้เสียหายแทนลูกชายด้วย
ขณะที่นางแดง (นามสมมติ) ยายของเด็กนักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้ก่อเหตุอีกราย เปิดใจว่า ไม่คาดคิดว่าหลานชายจะก่อเรื่องเช่นนี้ขึ้นเพราะเคยเห็นว่าเด็กกลุ่มนี้จะเล่นด้วยกันเป็นประจำ บ้านก็อยู่ใกล้เคียงกัน ไม่นึกว่าจะถึงขั้นมากระทำอนาจารและถ่ายภาพเอาไว้อย่างนี้ และหลังจากที่ข่าวเรื่องนี้แพร่สะพัดออกไป หลานชายรู้สึกเสียใจและเก็บกดอย่างมาก เอาแต่เก็บตัวอยู่ภายในบ้านไม่กล้าออกไปไหน ตนรู้สึกกังวลใจว่าหลานชายอาจจะคิดสั้น จึงอยากวอนให้สังคมช่วยให้โอกาสหลานชายด้วย เพราะคิดว่าสิ่งที่หลานชายทำลงไปเป็นเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ส่วนในเรื่องของการเจรจาเพื่อขอเยียวยาความเสียหายจากสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ทางผู้ปกครองของเด็กนักเรียนผู้ก่อเหตุยืนยันว่ามีการเจรจาชดใช้ค่าเสียหายจริง โดยผู้ปกครองของเด็กชายทั้ง 3 รายเจรจายินยอมจ่ายเงินให้กับแม่ของเด็กหญิงเพื่อยุติเรื่องราวรวมกันเป็นเงินจำนวน 70,000 บาท ซึ่งแม่เด็กหญิงรับเงินไปและรับปากว่าจะไม่เอาเรื่อง เพราะเห็นว่าเด็กทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ทางด้านศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพื่อรายงานให้ทางกระทรวงศึกษาธิการทราบ และทางโฆษกกระทรวงศึกษาธิการจะเป็นผู้ชี้แจงในรายละเอียดต่อไป ขณะที่ในเรื่องของการดำเนินคดีทางพนักงานสอบสวน สภ.ครบุรี ยังอยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพื่อเตรียมที่จะเชิญตัวผู้ถูกกล่าวหามาสอบปากคำ จะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป