ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ชาวบ้านเจ้าของธุรกิจที่พัก “ม่อนแจ่ม” พร้อมมวลชน 300 คนรวมตัวยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม เหตุเดือดร้อนหนัก ทั้งพื้นที่ถูกรื้อถอนเสาสัญญาณโทรศัพท์, ระงับสัญญาณอินเทอร์เน็ต รวมทั้งตัดไฟฟ้าและน้ำประปา เพื่อจัดระเบียบ
เช้าวันนี้ (18 ก.พ. 63) ที่องค์การบริหารส่วนตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มผู้ประกอบการที่พักและมวลชนในพื้นที่ม่อนแจ่มประมาณ 300 คน นำโดยนายวิชิต เมธาอนันต์กุล ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนแจ่ม รวมตัวแสดงความไม่พอใจเนื่องจากความเดือดร้อน พร้อมยื่นหนังสือทวงถามเรียกร้องขอความเป็นธรรมกรณีที่มีการรื้อถอนเสาสัญญาณโทรศัพท์, ระงับสัญญาณอินเทอร์เน็ต รวมทั้งตัดไฟฟ้าและน้ำประปา ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการจัดระเบียบพื้นที่ม่อนแจ่ม และการที่อำเภอแม่ริมมีหนังสือคำสั่งลงวันที่ 15 ม.ค. 63 ให้ผู้ประกอบการยุติประกอบธุรกิจภายใน 30 วัน และรื้อถอน เนื่องจากผิด พ.ร.บ.โรงแรม อีกทั้งมีการตรวจสอบพบว่ามีการรุกพื้นที่ป่าสงวนด้วย โดยนายวีระพันธ์ ดีอ่อน ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับหนังสือดังกล่าว และประชุมหารือร่วมกันเพื่อหาทางออก
สำหรับการจัดระเบียบดอยม่อนแจ่ม แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในพื้นที่ตำบลแม่แรมและตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ นั้น ก่อนหน้านี้กรมป่าไม้ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล พบมีบ้านพักและรีสอร์ตทั้งหมดจำนวน 64 ราย ในจำนวนนี้ตรวจพบมีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริมกว่า 30 ไร่ จึงได้แจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว 7 ราย ประกอบด้วย ม่อนใจโฮมสเตย์, ม่อนดอยลอยฟ้า, บ้านท่าจันทร์, ม่อนจ้อ, ม่อนม่วน, ไร่นาย และม่อนแสงสิริจันทรา ซึ่ง 3 ใน 7 รายนี้มีกลุ่มทุนต่างชาติเข้ามาร่วมทุนอยู่ด้วย นอกจากนี้ยังพบอีก 11 รายที่เป็นของชาวบ้าน มีการบุกรุกป่าเพื่อขยายพื้นที่เพิ่มเติม อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ และยังพบลานกางเต็นท์อีก 8 แห่งที่เข้าข่ายเป็นสิ่งปลูกสร้าง อยู่ระหว่างการตรวจสอบเช่นกันว่าจะต้องรื้อถอนหรือไม่
โดยเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 63 อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ออกประกาศให้ผู้ประกอบธุรกิจที่พักโดยมีค่าตอบแทน ซึ่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นไม่สามารถออกใบอนุญาตหรือรับแจ้งได้ตามกฎหมาย ระงับหรือยุติการประกอบธุรกิจ ลงนามโดยนายกฤตพล รชตเมธานนท์ ปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ) รักษาราชการแทนนายอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยเนื้อหาระบุว่า ตามที่ได้มีประชาชน ซึ่งอยู่อาศัยในพื้นที่ตำบลแม่แรม และตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ จำนวนมากได้ประกอบธุรกิจโรงแรมหรือจัดสร้างสถานที่พัก ทั้งที่มีลักษณะอาคารถาวร หรือชั่วคราว เพื่อให้บริการโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการที่พักอาศัยโดยคิดค่าบริการ อันเป็นลักษณะหรือวัตถุประสงค์ด้านธุรกิจ โดยสถานที่พักชั่วคราวดังกล่าวตั้งอยู่ในพื้นที่ ซึ่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นไม่สามารถออกใบอนุญาตหรือรับแจ้งได้
ทั้งนี้ การประกอบธุรกิจการให้ที่พักในรูปแบบและลักษณะต่างๆ เกี่ยวข้องกับการรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนหรือสภาพแวดล้อม ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมต้องได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2543 ดังนี้ อำเภอแม่ริมจึงขอให้ผู้ที่ได้ประกอบธุรกิจโรงแรมหรือสถานที่พักทั้งที่มีลักษณะอาคารถาวร หรือชั่วคราว เพื่อให้บริการที่พักชั่วคราวสำหรับคนเดินทางหรือบุคคลอื่นใดโดยมีค่าตอบแทน “โดยได้สร้างสถานที่พักในพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่ห้ามไม่ให้ผู้ใดยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียสภาพที่ดิน” ซึ่งมีกฎหมายลงโทษผู้กระทำการฝ่าฝืน ซึ่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นไม่สามารถออกใบอนุญาตหรือรับแจ้งได้
โดยไม่เข้าการได้รับการยกเว้นโทษทางอาญาตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม กฎหมายว่าด้วยการผังเมือง หรือกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 6/2562 สั่ง ณ วันที่ 12 มิถุนายน 2562 เรื่อง มาตรการส่งเสริมและพัฒนามาตรฐานการประกอบธุรกิจโรงแรมบางประเภท ให้ระงับหรือยุติการประกอบธุรกิจดังกล่าว ภายใน 30 วัน (นับแต่วันประกาศ)