ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-หนุ่ม นศ.เหยื่อฝรั่งกระหน่ำทุบหัวชิงทรัพย์กลางเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติและจุดชมวิวอุทยานฯดอยสุเทพ เผย ตร.ยังมืดแปดด้านตามหาตัวคนร้าย เหตุมีผู้เสียหายคนเดียวที่เห็นหน้า แทบไม่มีพยาน
ความคืบหน้ากรณีนายธีรภัทร แสนอินทร์ อายุ24ปี นักศึกษา มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งเมืองจังหวัดเชียงใหม่ประสบเหตุเฉียดตายระหว่างเดินทางท่องเที่ยวเพียงลำพังตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติและจุดชมวิวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จังหวัดเชียงใหม่ แล้วปรากฏว่าถูกคนร้ายเป็นฝรั่งผู้ชายก่อเหตุใช้ของแข็งกระหน่ำทุบทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสทั่วร่างกายชุ่มโชกไปด้วยเลือดและดวงตาพร่ามัวจนมองแทบไม่เห็น ต้องกระเสือกกระสนหนีตายไปหลบซ่อนและร้องขอความช่วยเหลือ จนถูกนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุได้ชิงทรัพย์สินเป็นกล้องถ่ายรูปและกระเป๋าเงินหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่12ก.พ.63ที่ผ่านมา
วันนี้(15ก.พ.63) รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่าในส่วนของการดำเนินคดี และติดตามหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุนั้น ทางพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ กำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี หลังจากที่วานนี้ได้เชิญตัว นายธีรภัทร ผู้เสียหาย ที่ได้รับบาดเจ็บ และอาการดีขึ้นจนสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ เข้าให้ปากคำแล้ว อย่างไรก็ตามในส่วนของเจ้าหน้าไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดอื่นใดเกี่ยวคดีได้ แต่ยอมรับว่าพยานและหลักฐานมีค่อนข้างจำกัด
ด้านนายธีรภัทร ซึ่งขณะนี้เดินทางกลับไปรักษาตัวที่จังหวัดแพร่ บ้านเกิด เปิดเผยว่าเบื้องต้นจากการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจยอมรับว่า จนถึงเวลานี้ ยังแทบไม่มีเบาะแส ในการที่จะติดตามหาตัวคนร้ายได้เลย เนื่องจากไม่มีพยานที่เห็นเหตุการณ์คนอื่นเลยนอกจากตัวเองเพียงคนเดียว ที่เห็น รูปร่างหน้าตาคนร้ายว่าเป็นฝรั่งชาวต่างชาติทรงผมสกินเฮดและมีเคราบางๆสีดำ แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็กำลังพยายามอย่างเต็มที่ในการที่จะติดตามหาตัวคนร้ายให้ได้ ซึ่งอยากวอนขอความช่วยเหลือจากผู้ที่อาจจะเห็นเหตุการณ์ช่วยแจ้งเบาะแสด้วย
นอกจากนี้ อยากขอความช่วยเหลือจากร้านรับซื้อหรือรับจำนำว่า หากมีผู้ใดนำกล้องถ่ายรูป ยี่ห้อ Sony รุ่น A6300 ไปขายหรือจํานําอยากขอให้ตรวจสอบ ให้แน่ชัดว่าเป็นกล้องที่ถูกขโมยไปหรือไม่และแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ทราบ เพื่อช่วยในการติดตามหาตัวคนร้าย สำหรับอาการบาดเจ็บ และสภาพจิตใจ ของตัวเองนั้น เวลานี้อาการดีขึ้นตามลำดับ แตกต่างจากวันเกิดเหตุที่รู้สึกหวาดกลัวมาก โดยเวลานี้กลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิดในจังหวัดแพร่กับครอบครัว และจะ เดินทางกลับจังหวัดเชียงใหม่เข้าพบพนักงานสอบสวนในช่วงสัปดาห์หน้า