ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - หนุ่ม นศ.เผยนาทีชีวิต ถูกฝรั่งผู้ชายดักซุ่มในป่าก่อนย่องกระหน่ำทุบหัวเลือดอาบหวิดดับชิงทรัพย์ บนจุดชมวิวทางขึ้นขุุนช่างเคี่ยน เส้นทางศึกษาธรรมชาติดอยสุเทพ-ปุย หอบสังขารกระเสือกกระสนหนีตาย
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า พบผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์บอกเล่าเรื่องราวเตือนภัยและขอความช่วยเหลือให้รุ่นน้องคนหนึ่งที่ประสบเหตุสะเทือนขวัญจากการเดินทางท่องเที่ยวเพียงลำพังตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติและจุดชมวิวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จังหวัดเชียงใหม่ แล้วปรากฏว่าถูกคนร้ายเป็นฝรั่งผู้ชาย ก่อเหตุใช้ของแข็งที่คาดว่าน่าจะเป็นก้อนหินกระหน่ำทุบทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั่วร่างกายชุ่มโชกไปด้วยเลือด และดวงตาพร่ามัวจนมองแทบไม่เห็น ต้องกระเสือกกระสนหนีตายออกไปร้องขอความช่วยเหลือ ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุได้ชิงทรัพย์สินเป็นกล้องถ่ายรูปและกระเป๋าเงินหลบหนีไปในป่า
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบทราบว่า ผู้เสียหายที่ถูกทำร้ายและชิงทรัพย์นั้น คือ นายธีรภัทร แสนอินทร์ อายุ 24 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งยังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โดยเปิดเผยว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ก.พ. 63 ตัวเองได้ขี่จักรยานยนต์จากตัวเมืองเชียงใหม่ขึ้นไปท่องเที่ยวและถ่ายภาพบนดอยสุเทพ-ปุย เพียงลำพัง จนกระทั่งไปถึงบริเวณจุดชมวิวดอยหัวหมู ซึ่งอยู่เลยวัดพระธาตุดอยสุเทพขึ้นไปอีก โดยที่บริเวณนี้จะต้องจอดรถไว้แล้วเดินเข้าไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ
นายธีรภัทรเล่าว่า ระหว่างที่กำลังตั้งกล้องถ่ายรูปบนเส้นทางศึกษาธรรมชาติซึ่งทั่วบริเวณมีตัวเองอยู่เพียงคนเดียวนั้น ปรากฏว่าจู่ๆ ก็มีของแข็งกระแทกที่หัวอย่างแรงจนมึนงง ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นกิ่งไม้ตกลงมาใส่ แต่ปรากฏว่าหลังจากนั้นปรากฏว่ายังคงถูกกระแทกอีกหลายครั้งไม่หยุด และเหลือบไปเห็นเป็นฝรั่งผู้ชายคนหนึ่งที่กระหน่ำทุบใส่ตัวเองอย่างไม่ยั้งเหมือนจะเอาชีวิต จนตัวเองแทบจะทรุดลงกองกับพื้น ตัวเองได้ตั้งสติแล้วรีบวิ่งหนีเข้าไปในป่าข้างทางที่มีความลาดชันและเสียหลักกลิ้งตกลงไปอยู่ในพงหญ้า จึงพยายามหลบซ่อนตัวและนิ่งเงียบที่สุดเพราะกลัวคนร้ายจะตามมาทำร้ายอีก โดยที่ตัวเองอยู่ในสภาพที่เลือดโชกทั่วตัว พอตั้งสติได้ก็ได้นำมือถือของตนเองออกมาพยายามหาคลื่นโทรศัพท์ และช่วงนั้นก็ได้ถ่ายรูปตัวเองไว้เพื่อดูบาดแผลจึงต้องตกใจว่ามีบาดแผลหนักที่หัวจนเลือดไหลอาบเต็มหน้า
หลังจากนั้นพักใหญ่พอแน่ใจว่าปลอดภัยแล้วจึงพยายามตะเกียกตะกายขึ้นมาตามทางลาดชันยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งพบว่ากล้องถ่ายภาพ ขาตั้งกล้อง กระเป๋าเป้ที่มีเลนส์อีก 2 ตัว และกระเป๋าเงินหายไปแล้ว จากนั้นพบว่ามีนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น ตัวเองจึงตะโกนขอความช่วยเหลือ บางคนก็ตกใจจากสภาพที่เห็นตัวเองมีเลือดไหลอาบร่าง จนกระทั่งมีนักท่องเที่ยว 2 คนที่เข้ามาช่วยเอาน้ำให้ดื่ม และห้ามเลือดและเรียกรถพยาบาลซึ่งต้องรอนานเกือบ 1 ชั่วโมง จึงสามารถลงมาที่โรงพยาบาลได้ พบว่านอกจากบาดแผลถลอกตามร่างกายแล้ว ที่หัวมีบาดแผลลึกถึง 6 แผลจากการที่ถูกของแข็งทุบ ตอนนี้ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
เบื้องต้นได้แจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมืองฯ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุแล้ว เวลานี้รอออกจากโรงพยาบาลจะไปให้ปากคำกับตำรวจเพิ่มเติม และอาจจะต้องกลับบ้านที่จังหวัดแพร่ เพื่อไปรักษาตัว ทั้งนี้วอนขอความร่วมมือจากผู้ที่อาจจะอยู่ในเหตุการณ์หรือพบคนร้ายที่อาจจะนำทรัพย์สินของตนเองไปขายช่วยกันแจ้งเบาะแสต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย