กาฬสินธุ์-ผบช.ภ.4 แถลงปิดคดีฆ่าแทงร่างพรุนตัดอวัยวะเพศสารวัตรป้องกันปราบปรามสภ.ร่องคำ จังหวัดกาฬสินธุ์ ระบุหึงหวงผู้ตายพัวพันภรรยาเตือนแล้วไม่ฟัง เผยพฤติกรรมสุดโหดแทงไม่ยั้งเฉือนอวัยวะเพศก่อนเหยื่อสิ้นใจ พร้อมแจ้ง 3 ข้อหาหนัก
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้( 4 ก.พ.) ที่สภ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.มาโนช สุภาพพูล ผบก.สส.ภ.4 พ.ต.อ.ทวีรัชต์ ศรีธวัชพงศ์ รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.คะเชนทร์ ยืนยงค์ รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ภูมี อีคะละ ผกก.สภ.กมลาไสย พ.ต.ท.รณชัย ภาภิรมย์ รองผกก.(ป.) สภ.กมลาไสย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.กมลาไสย ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวนายอมรลัก จิตเกาะ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 231/1 ต.สงเปือย อ.เมืองกาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ในคดีฆ่าผู้อื่น หลังก่อเหตุฆ่า พ.ต.ท.จำรัส ดลเจือ อายุ 57 ปี สวป.สภ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์
โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้ขณะหลบหนีไปที่ อ.สีดา จ.นครราชสีมา ก่อนนำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุที่บ้านเรือนไทยน๊อกดาว์สองชั้นยกสูงไม่มีเลขที่ บ้านน้อยพัฒนา ต.กมลาไสย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์เมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา
ผู้ต้องให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ลงมือฆ่าพ.ต.ท.จำรัสนั้น เนื่องจากโกรธแค้นที่ผู้ตายมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับภรรยาและพยายามห้ามแล้วแต่ไม่ฟัง ทั้งนี้หลังจากทำแผนเสร็จแล้วเจ้าหน้าที่ได้นำตัวเข้าห้องขังที่สภ.กมลาไสย พร้อมจัดกำลังเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะเกิดความเครียด
พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามตามตัวผู้ต้องหารายนี้ได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ล่าสุดจากการสืบสวนสอบสวนและตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ พบว่า ผู้ต้องหามีความคับแค้นใจอย่างมากที่นายตำรวจคนนี้ไปมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับภรรยา ซึ่งเจ้าตัวเองให้การว่าที่ผ่านมาคอยห้ามคอยตักเตือนทั้งสองคนแล้วก็ไม่ฟัง
อีกทั้งยังหลอกให้เซ็นใบหย่าแก้เคล็ด ซึ่งในวันเกิดเหตุผู้ต้องหาได้ดื่มสุราย้อมใจจนเมาได้ที่ก่อนจะไปก่อเหตุ และยังรับด้วยว่าตั้งใจจะฆ่าให้ตายทั้งสองคน แต่ฝ่ายภรรยา ไหวตัวทันหนีไปได้ก่อน จึงทำให้ผู้ต้องหาฆ่าได้เพียงนายตำรวจคนเดียว
พล.ต.ท.เจริญวิทย์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนรวมรวบพยานหลักฐานยังทราบอีกว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาได้มีการวางแผนมาก่อนล่วงหน้า โดยเริ่มจากการเข้ามาจุดไฟเผารถยนต์ก่อน เพื่อล่อให้ผู้เสียชีวิตออกมาจากที่พัก ซึ่งตนเองหลบอยู่ใต้บันได ก่อนจะลงมือแทงและเยื้อแย่งมีดกัน จากนั้นผู้ต้องหาได้กระหน่ำแทงแบบไม่ยั้ง จนพ.ต.ท.จำรัส แน่นิ่งไป แต่ยังไม่เสียชีวิต ก่อนที่ผู้ต้องหาจะใช้มีดเฉือนอวัยวะเพศจนขาดแล้วไปโยนทิ้งใส่กองไฟ ด้วยความสะใจ
ทั้งที่ยังไม่เสียชีวิต ซึ่งจะทำให้เหยื่อได้รับความทรมาน ซึ่งการกระทำดังกล่าวทางพนักงานสอบสวน สภ.กมลาไสยเจ้าของคดี แจ้งทำการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมจากเดิม 1 ข้อหา คือฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เป็น 3 ข้อหา คือ 1.ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 2.ฆ่าผู้อื่นโดยทารุณโหดร้าย และ3.วางเพลิงเผาทรัพย์ ก่อนที่จะนำตัวไปฝากขัง ซึ่งอย่างช้าสุดในวันพรุ่งนี้และจะทำการคัดค้านการประกันตัว