จันทบุรี - ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ภัยแล้งจันทบุรี เดินหน้าปล่อยน้ำเขื่อนคิรีธาร เพิ่มอีก 5 แสน ลบ.ม. ตามแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง พร้อมขอความร่วมมือเกษตรกรงดสูบน้ำที่ปล่อยผ่านเพื่อให้การประปามีน้ำต้นทุนในการผลิตน้ำอุปโภคบริโภคตลอดฤดูกาล
วันนี้ (22 ม.ค.) นายอลงกรณ์ แอคะรัจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้นำคณะกรรมการส่วนอำนวยการ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดจันทบุรี (ภัยแล้ง) จังหวัดจันทบุรี และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งผู้นำชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่บริเวณคลองระบายน้ำ สำนักงานเขื่อนพลังน้ำคิรีธารจังหวัดจันทบุรี เพื่อดูการระบายน้ำป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งก่อนวางแผนบริหารจัดการน้ำจากเขื่อนคิรีธารให้เหมาะสมต่อปริมาณน้ำต้นทุนที่จะต้องใช้ตลอดฤดูกาล
โดยในวันนี้เป็นการปล่อยน้ำจากเขื่อนคิรีธาร เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาภัยแล้งเพิ่มขึ้นจากปกติที่เคยปล่อวันละ 1.5 แสน ลบ.ม. เป็น 6.5 แสน ลบ.ม. เพื่อจัดสรรน้ำไปทางลุ่มน้ำเวฬุ อ.ขลุง 30 เปอร์เซ็นต์ อ.มะขาม และแม่น้ำจันทบุรีอีก 70 เปอร์เซ็นต์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค. ถึงวันที่ 27 พ.ค.2563
"ในส่วนของฝั่งลุ่มน้ำจันทบุรี น้ำที่ปล่อยลงมาเพิ่มเติมในทุกวันพุธ ทางจังหวัดได้ขอความร่วมมือไปยังเกษตรกร และผู้ที่อยู่ใกล้เส้นทางน้ำผ่านงดสูบน้ำ หรือกักเก็บน้ำเกินปริมาณที่น้ำจะไหลผ่านเพื่อให้ปริมาณน้ำต้นทุนจากเขื่อนคิรีธาร สามารถไหลลงมาถึงหน้าฝายยาง อ.เมืองจันทบุรี เพื่อให้มีน้ำเพียงพอต่อการผลิตน้ำประปา ส่วนวันอื่นๆ เกษตรกรสามารถสูบน้ำได้ตามปกติ"
รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ยังเผยอีกว่า คณะกรรมการป้องกันแก้ไขปัญหาภัยแล้ง จ.จันทบุรี จะได้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดและพร้อมปรับแผนเพื่อรักษาสมดุลปริมาณน้ำต้นทุนให้เพียงพอต่อการใช้ตลอดฤดูกาล
ขณะที่ นายสุเทพ มีกระโดน ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.ขลุง ได้นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ดูสวนผลไม้ตัวอย่างของเกษตรกรที่ยึดแนวทางพระราชดำริ เกษตรทฤษฎีใหม่มาปรับใช้เพื่อให้เป็นสวนผลไม้ที่พึ่งพาตัวเอง ป้องกันแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ด้วยการแบ่งพื้นที่การเพาะปลูกและมีสระเก็บน้ำในพื้นที่ให้เพียงพอต่อความต้องการของผลผลิต ป้องกันผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้งในอนาคต