เลย - สถานการณ์น้ำเลยน่าห่วง เหตุน้ำต้นทุนมีจำกัด สั่งจับตาใช้น้ำทุกกรณี มุ่งสงวนน้ำผลิตน้ำประปา เพื่ออุปโภคบริโภค สั่งงดใช้น้ำทำการเกษตรโดยเด็ดขาด พบยังมีผู้ลักลอบสูบน้ำไปใช้ปลูกพืชหน้าแล้ง ขอความร่วมมือประชาชนใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า
วันนี้ (20 ม.ค. 63) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดเลย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ประชุมร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ถึงสถานการณ์น้ำในจังหวัดเลย ที่ปริมาณน้ำต้นทุนมีจำกัด สั่งจับตาการใช้น้ำในทุกกรณี รวมถึงมาตรการรับมือภัยแล้ง พร้อมกับแถลงข่าวสถานการณ์และมาตรการป้องกันภัยแล้งในจังหวัดเลย
นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เปิดเผยว่า สถานการณ์ภัยแล้งในจังหวัดเลยขณะนี้ยังไม่น่าเป็นห่วง ต้องให้ทุกคนให้ความร่วมมือร่วมกันประหยัดน้ำ สถานการณ์น้ำขณะนี้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ขณะนี้ได้งดการใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำน้ำหมาน เนื่องจากปริมาณเหลือน้อย ให้เปลี่ยนมาใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำน้ำเลย ที่ อ.ภูหลวง แทน เน้นใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นหลัก ส่วนการทำเกษตรให้ปลูกพืชใช้น้ำน้อยแทน โดยน้ำในอ่างน้ำหมานให้สำรองไว้หากเกิดภัยแล้งเท่านั้น
ทั้งนี้ ได้สั่งการไปยังปลัดจังหวัดเลยเพื่อจัดการประสานกับอำเภอต้นทางที่มวลน้ำเลยไหลผ่าน มุ่งจัดการสงวนน้ำไปเพื่อผลิตน้ำประปา และให้งดการนำน้ำเลย สูบไปใช้ทำการเกษตร เช่น อ้อย หรือพืชอื่นซึ่งต้องใช้น้ำมาก จุดสำคัญเพื่อสงวนน้ำที่มีอยู่จำกัด ให้มีน้ำหล่อเลี้ยงคนทั้งจังหวัดเลย ก่อนที่ฝนจะตกลงมาในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้
ด้านนายชัยยันต์ สุรสรณ์ นายช่างชลประทานอาวุโส โครงการชลประทานเลย กล่าวว่าทางชลประทานจังหวัดเลย มีข้อสังเกตแม่น้ำเลยในช่วง 4วัน ระหว่างวันที่ 16-20 มค.ที่ผ่านมา น้ำในแม่น้ำเลยได้หายไปเป็นจำนวนมาก ก่อนที่มวลน้ำจะมาถึงตัวจังหวัดเลย ทั้งนี้อ่างเก็บน้ำเลย ได้ปล่อยน้ำมาวันละ 75,000-100,000 ลบ.ม./วัน อย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อน้ำไหลผ่านพื้นที่ ต.แก่งศรีภูมิ, ต.หนองคัน อ.ภูหลวง เดิมน้ำที่เคยไหลวันละ 96,000 ลบ.ม. กลับเหลือน้ำไหลเพียง 34,000 ลบ.ม./วัน
แสดงว่า อบต.หรือส่วนงานอื่นๆ ได้เดินเครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้าไปใช้การเกษตรหรือไม่ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนมติ จ.เลย ที่ระบุว่าไม่ให้ใช้น้ำเพื่อการเกษตร ขณะเดียวกันเมื่อน้ำไหลผ่าน ต.ทรายขาว, ต.ผาบิ้ง ถึงตัวอำเภอวังสะพุง เหลือน้ำเพียง 30,000 ลบ.ม./วัน ถือว่ายังเป็นปกติ ไม่มีการสูบน้ำไปใช้อย่างอื่น แต่เมื่อน้ำไหลผ่าน ต.ปากปวน, ต.นาโป่ง, ต.นาอาน เดิมน้ำที่เคยผ่านตัวเมืองเลยไหลวันละ 200,000 ลบ.ม. ตอนนี้เหลือน้ำไหลเพียง 43,000 ลบ.ม./วัน แสดงว่า อบต.เดินเครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้าไปใช้การเกษตร ฝ่าฝืนมติ จ.เลยเช่นกัน
โดยสรุปหากประชาชนในพื้นที่ยังฝ่าฝืนไม่ทำตามมติจังหวัดเลย โดยงดการสูบน้ำจากแหล่งน้ำสาธารณะโดยเฉพาะแม่น้ำเลย ดึงน้ำไปใช้การปลูกพืชฤดูแล้งจะส่งผลกระทบต่อการใช้น้ำทั้งจังหวัด จะไม่มีน้ำใช้กระทั่งพ้นช่วงแล้งนี้ได้