นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า จากการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์สั่งการให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจแก้ไขและบรรเทาผลกระทบปัญหาภัยแล้ง ปี 2562/2563 เพื่อหาแนวทางแก้ไขวิกฤตภัยแล้งและบูรณาการให้ความช่วยเหลือประชาชนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงมอบหมายให้สำนักงานชลประทานในพื้นที่ที่มีน้ำต้นทุนน้อยตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจแก้ไขและบรรเทาผลกระทบปัญหาภัยแล้งในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อเป็นศูนย์ประสานการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวัง ติดตาม ประเมินวิเคราะห์แนวโน้มของสถานการณ์น้ำ รวมทั้งแจ้งเตือนภัยให้แก่ประชาชน รวมถึงประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับสถานการณ์และแนวทางลดผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดตั้งที่สำนักงานชลประทานที่ 6 เป็นแห่งแรก เนื่องจากเป็นพื้นที่ตอนกลางของภาค ปริมาณฝนตกปี 2562 ต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ย ทำให้น้ำต้นทุนน้อยจำเป็นต้องมีศูนย์ฯ ดูแลพื้นที่เสี่ยง 5 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด ซึ่งได้ย้ำให้บริหารจัดการน้ำตามแผนอย่างเคร่งครัด เพื่อให้มีน้ำเพียงพอใช้ตลอดฤดูแล้ง ที่สำคัญที่สุด คือ น้ำอุปโภค-บริโภคต้องไม่ขาดแคลน ล่าสุดผันน้ำจากเขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ สนับสนุนการผลิตน้ำประปาเลี้ยงอำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม ที่ใช้น้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น แต่เขื่อนอุบลรัตน์มีน้ำน้อยมากต้องนำน้ำก้นเขื่อนมาใช้ การผันน้ำจากเขื่อนลำปาวซึ่งมีน้ำมากมาเก็บกักไว้หน้าเขื่อนวังยาง จังหวัดมหาสารคาม เพื่อใช้ผลิตน้ำประปา จึงช่วยลดการระบายน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์ได้
