บุรีรัมย์- ผอ.โรงเรียนนิคมสร้างตนเอง จ.บุรีรัมย์ ออกมาชี้แจงไม่ได้หักหัวคิวงาบงบฯค่าอาหารกลางวันตามที่ถูกกล่าวหา โบ้ยฝ่ายการเงินเป็นคนดูแลรับผิดชอบเรื่องการเบิกจ่าย มีเอกสารหลักฐานพร้อมให้ตรวจสอบวอนให้ความเป็นธรรม ขณะผู้รับจ้างทำอาหารยันทำตามสัญญาไม่เคยรู้อาหารไม่เพียงพอ
วันนี้ (13 ธ.ค.) ความคืบหน้ากรณีที่ชาวบ้าน ผู้ปกครองนักเรียน และเด็กนักเรียนโรงเรียนนิคมสร้างตนเอง 3 ต.บึงเจริญ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ กว่า 200 คน ได้รวมตัวกันถือป้ายประท้วงที่บริเวณหน้าอาคารเรียน เพื่อเรียกร้องให้ตรวจสอบการบริหารงานของ ผู้อำนวยการ (ผอ.) โรงเรียน โดยกล่าวหาว่า ผอ.มีพฤติกรรมหักหัวคิวเงินค่าอาหารกลางวันเด็กนักเรียน ที่ได้รับการอุดหนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหัวละ 20 บาท รวมเป็นเงินเฉลี่ยวันละ 3,720 บาท แต่จ่ายค่าทำอาหารกลางวันเพียงวันละ 2,000 บาทเท่านั้น จึงทำให้อาหารกลางวันไม่เพียงพอกับจำนวนนักเรียนที่มีอยู่ 186 คน จนเด็กพากันบ่นว่ากินไม่อิ่ม บางวันข้าวหมดคนที่มาทีหลังก็จะเหลือแต่น้ำแกงจืดให้กิน ซึ่งมีคลิปที่ผู้ปกครองถ่ายภาพน้ำแกงจืดไว้เป็นหลักฐานด้วย โดยชาวบ้าน ผู้ปกครองระบุว่าเป็นปัญหาแบบนี้มานานกว่า 2 ปีแล้วตั้งแต่ ผอ.คนดังกล่าวย้ายมาดำรงตำแหน่งที่โรงเรียนตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด น.ส.พิชณ์สินี ศรีทัพไทยเบญญาภา ผอ.โรงเรียนนิคมสร้างตนเอง 3 ได้เดินทางมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ปปช. และ ปปท.ภาค 3 ที่ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนภายหลังมีการร้องเรียน และ ผอ.ยังได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนด้วยว่า จากกรณีที่มีชาวบ้าน และผู้ปกครองออกมาประท้วงและร้องเรียนให้ตรวจสอบตนเอง โดยกล่าวหาว่ามีการหักหัวคิวเงินค่าอาหารกลางวันเด็กนักเรียนนั้น ขอชี้แจงว่าตนเองย้ายมาดำรงตำแหน่งที่โรงเรียนแห่งนี้ตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน ยืนยันว่าการทำงานหรือดำเนินการทุกอย่างตนยึดถือตามกฎระเบียบ อะไรที่ส่อไปทางทุจริต ล่อแหลม จะประชุมตักเตือนนิเทศกันตลอด ตนไม่รู้ว่าทำไมถึงมีการร้องเรียนกล่าวหาแบบนี้ แต่พร้อมให้ตรวจสอบทุกกระบวนการ แต่กระบวนการตรวจสอบก็ต้องมีความโปร่งใสและยุติธรรม
ส่วนการเบิกจ่ายเงินค่าอาหารกลางวันที่ได้รับการอุดหนุนจากทางเทศบาลหัวละ 20 บาทตามจำนวนนักเรียนนั้น ผอ.ชี้แจงว่า คนที่ดูแลรับผิดชอบก็เป็นครูการเงินเป็นผู้ดำเนินการ แต่ยอมรับว่ามีบางครั้งที่ ผอ.รับหน้าที่ไปเบิกเงินจากธนาคารให้ เนื่องจากตนเองมีบ้านพักอยู่ในตัวเมือง ซึ่งเป็นการดูแลช่วยเหลือกันเท่านั้น ยืนยันว่าไม่ได้มีการทุจริตตามที่ถูกกล่าวหาอย่างแน่นอน มีเอกสารหลักฐานพร้อมชี้แจงทุกอย่าง
ส่วนกรณีที่ว่าได้รับเงินอุดหนุนมาวันละ 3,720 บาท แต่ทำไมจ่ายค่ากับข้าว 2,000 บาท ชี้แจงว่า 2,000 บาท เป็นเพียงค่ากับข้าวหม้อละ 1,000 บาท สั่งมา 2 หม้อ 2,000 บาท ที่เหลือเป็นค่าข้าว ของหวาน และผลไม้ แต่หลังจากที่ได้รับทราบว่ากับข้าวไม่เพียงพอก็ได้ให้ทำเพิ่มจาก 2 หม้อ เป็น 3 หม้อ
ขณะที่ นายวันชาติ นาคะอุไร ผู้รับจ้างทำอาหารกลางวัน บอกว่า ตนเริ่มรับทำอาหารกลางวันให้กับทางโรงเรียนเมื่อปี 2561 ยอดเด็กนักเรียนขณะนั้น 202 คน ได้รับเงินค่าจ้างเหมาในการทำอาหารวันละ 4,040 บาท ในจำนวนเงินดังกล่าวจะทำกับข้าว 2 อย่างหรือ 2 หม้อแบบเผ็ด 1 อย่างจืด 1 อย่าง คิดเป็นหม้อละ 1,000 บาท ข้าวสารหุงสุกวันละ 10 กิโลกรัม ส่วนผลไม้ตามฤดูกาล และขนมหวานจะมีสัปดาห์ละ 2 วัน จะมีครูเวรคอยดูแล
ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนเรื่องอาหารน้อยไม่เพียงพอกับจำนวนนักเรียนนั้น ตนเองไม่เคยทราบและทางโรงเรียนก็ไม่เคยแจ้ง แต่ยืนยันว่าก็ทำสัญญาจ้างเหมาและตนเองก็ทำอาหารให้ตามอัตราที่ได้รับว่าจ้างเท่านั้น