พิษณุโลก - เจ้าหน้าที่ พม.-ตำรวจ ปคม.ลงพื้นที่ตามหาเด็ก นร.หญิงวัย 14 ขวบ เหยื่อครูหื่นกามข่มขืนหลายครั้ง พอเรื่องเริ่มแดงให้ผู้นำท้องที่พาไกล่เกลี่ยจ่ายเงินไป 3 แสนบาทหวังจบ จนเด็กหญิงผู้ถูกล่วงละเมิดผวาไม่กล้าไปเรียน
วันนี้ (5 ธ.ค.) นางอัญชรินทร์ กลิ่นศิริ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพิษณุโลก กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, ร.ต.อ.เดชชัย จำปาทอง รองสารวัตรกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ตำรวจสอบสวนกลาง เดินทางไปพบผู้ปกครองและเด็ก ที่บ้านพักตำบลดินทอง หลังปรากฏข่าวทางโซเชียลมีเดียแฉพฤติกรรม “ครู” รายคนหนึ่งของโรงเรียนชุมชน ในตำบลดินทอง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ข่มขืนเด็กนักเรียน แต่พ่อ-แม่ และเด็กนักเรียน ปิดบ้านไม่มีใครอยู่ คาดว่าพาเด็กหายออกจากบ้าน เพราะเกรงสื่อมวลชนทำข่าว
อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจ ปคม.และเจ้าหน้าที่ พม.ได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันกับ ร.ต.อ.กล้าณนงค์ จันทรมณี ร้อยเวร สภ.วังทอง ไว้เป็นหลักฐานแล้ว เนื่องจากเด็กมีอายุเพียง 14 ปี ต้องอยู่ในความคุ้มครองและกรณีที่เกิดขึ้นก็เป็นเรื่องที่ยอมความไม่ได้
นางอัญชรินทร์ กลิ่นศิริ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า มาพบครอบครัวของน้องผู้หญิง เพื่อให้การช่วยเหลือตามภารกิจบ้านพักเด็กและครอบครัว แต่พ่อแม่ได้พาเด็กหลบหนีไปก่อนที่จะเจ้าหน้าที่จะมาถึงบ้าน จึงติดต่อขอข้อมูลจากผู้ใหญ่บ้าน จากนั้นทำบันทึกเป็นหลักฐานไว้ที่ สภ.วังทอง เพราะเด็กมีอายุเพียง 14 ปี ต้องได้รับความคุ้มครองสวัสดิภาพ และทางบ้านพักเด็กฯ จะมาพบให้ปากคำกับทีมสหวิชาชีพอีกครั้ง
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวมีการระบุว่า ครูคนหนึ่งของโรงเรียนชุมชนฯ ซึ่งเป็นโรงเรียนขยายโอกาส สอนถึงระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 2 มีการข่มขืนเด็กนักเรียนของโรงเรียนหลายครั้ง ระหว่างวันที่ 11-15 พฤศจิกายน 62
กระทั่งมีข่าวแพร่สะพัดทั่วหมู่บ้าน ต่อมาได้จึงมีการเจรจายอมความ โดยมีผู้นำท้องที่คนหนึ่งเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย พร้อมครูผู้ปกครอง โดยมีข้อตกลงชดใช้ค่าเสียหายในวงเงิน 300,000 บาท จึงไม่มีการแจ้งความหลังเกิดเหตุ
หลังจากนั้นดูเหมือนว่าเรื่องน่าจะเงียบหาย แต่ชาวบ้านในพื้นที่ไม่ยอม เพราะแม้มีการเจรจาค่าเสียหายไปแล้ว แต่ครูที่ก่อเหตุข่มขืนเด็กนักเรียนนั้น ถูกย้ายไปสำนักเขตการศึกษาเท่านั้น และมีกระแสข่าวว่าจะย้ายกลับมาสอนที่โรงเรียนเดิมที่เด็กผู้เสียหายกำลังเรียนอยู่ด้วย ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม โดยชาวบ้านเห็นว่าควรจะต้องย้ายครูที่มีปัญหาออกไปไกลๆ
ขณะที่ครอบครัวเด็กผู้เสียหายก็ไม่สามารถทนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ได้ เด็กหญิงที่ถูกล่วงละเมิดก็ไม่กล้าไปโรงเรียน เพราะอับอายเพื่อนฝูง รวมทั้งครูไม่ยอมย้าย
ต่อมานายวิเชียรภักดี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.จ.)พิษณุโลก เขตอำเภอวังทอง และนายสำเริง เที่ยงอินทร์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 9 ตำบลดินทอง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก จึงได้นำผู้ปกครองและเด็กหญิงอายุ 14 ปี ที่ถูกครูโรงเรียนดังกล่าวล่วงละเมิดทางเพศ ไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายอุดม สายโท รักษาการรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลกเขต 2 ขอให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีข้าราชการครูคนหนึ่งล่วงละเมิดทางเพศ และให้ย้ายข้าราชการคนดังกล่าวออกนอกพื้นที่โดยด่วน เพราะทุกวันนี้ครูคนดังกล่าวไม่ได้ย้ายออกนอกพื้นที่ทำให้เด็กไม่กล้าไปโรงเรียน