เรื่อง ‘ข่มขืน’ เป็นธรรมเนียมปฏิบัติ

อินเดียดินแดนแห่งวัฒนธรรมยาวนานหลาย 1,000 ปีมีความหลากหลายด้านภาษาและชนกลุ่มต่างๆ สื่อสารกันมากกว่า 200 ภาษาและเป็นประเทศหนึ่งซึ่งมีความต่างชั้น วรรณะ ความเชื่อด้านลัทธิศาสนามีความขัดแย้งมีพลเมืองยากจนหลายร้อยล้านคน

ยังได้ชื่อว่าเป็นประเทศประชาธิปไตยขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย มีทั้งศักยภาพด้านอาวุธนิวเคลียร์ ขีดความสามารถในการขยายฐานพัฒนาด้านเทคโนโลยี จัดว่าเป็นประเทศซึ่งจะมีฐานผู้บริโภคชนชั้นกลางสำหรับสินค้าผลิตในประเทศและนำเข้า

เพียงแต่ว่าการพัฒนาได้ช้าเพราะปัญหาหลากหลาย ต้องใช้งบประมาณมาก

อินเดียมีภาพลักษณ์ด้านดีหลายประการแต่ช่วงหลังกำลังถูกมองว่าได้มีวัฒนธรรมใหม่ซึ่งสร้างความฉาวโฉ่ไปทั่วโลก นั่นคือ “วัฒนธรรมการข่มขืน” ย่ำยีสตรีเพศมีทั้งรุมข่มขืนหมู่และฆ่าเหยื่อทิ้งด้วยวิธีการโหดเหี้ยมเช่นจุดไฟเผา เป็นต้น

กลุ่มสตรีอินเดียและกลุ่มอื่นๆ ในหลายประเทศได้ร่วมรณรงค์ต่อต้านการย่ำยีทางเพศในอินเดียการไม่เห็นความสำคัญของสตรีเพศ รวมถึงการคุกคามทางเพศต่างๆ จนถึงการลงโทษถึงขั้นจำคุกยาว ประหารชีวิตสำหรับนักข่มขืนแล้วฆ่าหลายราย

แต่ก็ยังไม่มีผลทำให้การรุมข่มขืนเลิกราเพราะหลายกรณีเกิดขึ้นในชุมชนห่างไกล

สตรีอินเดียมองว่าตนเองยังอยู่ในกลุ่มเสี่ยงภัย โดยมาตรการทางกฎหมายไม่สามารถป้องกันความเสี่ยงได้เต็มที่ ดังนั้นกลุ่มสตรีต้องเดินขบวนเรียกร้องเสมอเมื่อมีคดีฉาว

สัปดาห์ที่ผ่านมา มีกรณีข่มขืนและฆาตกรรมอีกคดี เป็นข่าวดังทั่วประเทศ

เป็นคดีชาย 4 คน ได้รุมข่มขืนเหยื่อซึ่งเป็นสัตวแพทย์วัย 27 ปี หลังจากเลิกงานพบว่ารถมอเตอร์ไซค์ของเธอยางแบน มีชาย 2 คนเสนอตัวให้ความช่วยเหลือ ไม่กลับไม่ใช่พลเมืองดี หนึ่งในนั้นเป็นคนปล่อยลมยางรถมอเตอร์ไซค์แบบสกู๊ตเตอร์ของเธอ

จากนั้นชายโฉด 3 คนได้ช่วยกันฉุดลากเธอเข้าไปในป่าใกล้บริเวณนั้น และผลัดกันข่มขืนเธอ เมื่อหนำใจแล้วก็บีบคอเหยื่อเพื่อปิดปาก เอาตัวเธอขึ้นรถไปไกลอีก 20 กม. เอาร่างเธอไปทิ้งใต้ถนนยกระดับ จุดไฟเผาร่างของเธอเพื่อกลบร่องรอยหลักฐาน

เหตุร้ายนี้เกิดขึ้นในด้านนอกเมืองด้านใต้ของไฮเดอราบาด มีคนพบซากไหม้ดำของเหยื่อการข่มขืน ตำรวจจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้ง 4 ราย มีข้อหาข่มขืนและฆ่าคนตายโดยเจตนา ความรุนแรงของเหตุได้นำไปสู่การเดินขบวนประท้วงโดยกลุ่มสตรีอีกครั้งหนึ่ง

ผู้หญิงได้รวมตัวเดินขบวนประท้วงเหตุร้ายในกรุงนิวเดลี เมืองหลวงเมื่อวันที่ 1 ที่ผ่านมา เรียกร้องให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาให้สาสมกับการกระทำความผิด การสตรีเดินขบวนลุกลามไปหลายเมือง จากไฮเดอราบาด เมืองใกล้เคียง เรียกร้องให้ประหารชีวิต

เป็นอารมณ์โกรธแค้นซึ่งสตรีในอินเดียถูกข่มขืนแล้วฆ่าทิ้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า!

มีสถิติจากหน่วยงานด้านอาชญากรรมแสดงให้เห็นว่ามีผู้หญิงเป็นเหยื่อของการถูกข่มขืนมากถึง 100 รายต่อวันทั่วอินเดีย ในปี 2017 มีเหยื่อการข่มขืนมากถึง 32,000 ราย แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าตัวเลขจริงยังจะสูงกว่านี้มาก เพราะเหยื่อไม่กล้าแจ้งความ

การทำให้เป็นเรื่องถือว่าเป็นความน่าอับอายในสังคมอินเดีย ดังนั้น ถ้าไม่ถึงกับเสียชีวิตเหยื่อมักเก็บเป็นความลับ ทำให้การล่วงละเมิดทางเพศเป็นปัญหาใหญ่

มาตรการต่างๆ ไม่ได้ผลในการทำให้คดีความรุนแรงทางเพศลดลง

คดีข่มขืนในไฮเดอราบาดล่าสุดได้เกิดขึ้น 2 สัปดาห์ก่อนวันระลึกถึงการครบรอบคดีคล้ายกันในวันที่ 12 ธันวาคม 2012 ซึ่งนักศึกษากายภาพบำบัดวัย 23 ปีถูกข่มขืนในกรุงนิวเดลี เป็นประเด็นทำให้มีคนชุมนุมเดินขบวนประท้วงทั่วประเทศเช่นกัน

ในเดือนกันยายน 2013 ตำรวจสามารถจับกุมชาย 4 คนเป็นผู้ต้องหา ศาลตัดสินประหารชีวิตทั้ง 4 ราย และศาลสูงพิพากษายืนในปี 2017 ทั้ง 4 รายยังรอการประหารอยู่ยังมีผู้ต้องหาอีกรายหนึ่งขณะกระทำความผิดเป็นเยาวชนจึงได้รับโทษไม่หนัก

ผู้ต้องหาอีกรายหนึ่งเสียชีวิตในขณะถูกจองจำรอคำพิพากษา ขณะที่การรณรงค์เรียกร้องโดยกลุ่มสตรีและกลุ่มอื่นๆ ยังมีต่อเนื่อง กลับไม่มีผลคืบหน้าในการลดจำนวนอาชญากรรมทางเพศหลังจาก 7 ปีผ่านไป ซึ่งเหยื่อมีทั้งสตรีทั่วไปและที่ยังอยู่ในวัยเด็ก

คดีที่เกิดขึ้นในไฮเดอราบาด เป็น 1 ใน 7 เหตุรุนแรงเกี่ยวกับทางเพศในประเทศ ที่ร้ายกว่านั้น มีเหตุสะเทือนขวัญเมื่อเด็กหญิงวัย 6 ขวบถูกข่มขืนและรัดคอตายด้วยเข็มขัดของเธอเองในวันเสาร์ที่ผ่านมา ในหมู่บ้านนอกเมืองชัยปุระ ตอนเหนือของรัฐราชฐาน

ผู้ต้องหาอาชญากรรมเป็นชายวัย 38 ปี มึนเมาสุราพูดล่อลวงให้เด็กออกไปจากโรงเรียนโดยเอาขนมมาล่อ เด็กจำหน้าชายผู้ข่มขืนได้ จึงถูกฆ่าปิดปาก ต่อมาถูกจับกุมและตั้งข้อหาข่มขืนและฆาตกรรม เหตุร้ายครั้งนี้อยู่ห่างจากไฮเดอราบาดไปกว่า 1 พันกม.

อีกรายเป็นหญิงวัย 40 ปี ถูกทุบโดยเครื่องมือทำสวน ในเมืองเพรัมบาวูรในรัฐเกรละตอนใต้ของอินเดีย เสียชีวิตเพราะอาการบาดเจ็บจากการถูกทุบและข่มขืน ชายวัย 28 ปีถูกจับกุม ไม่ได้รับการประกันตัว แต่ละครั้งของคดีข่มขืนจะมีคนชุมนุมไว้อาลัยเหยื่อ

ไม่กี่วันก่อนหน้านี้หญิงวัย 25 ปีถูกรุมข่มขืนกระทำชำเราโดยกลุ่มชาย 12 คน ในแคว้นจาร์คาห์น เหตุเกิดขึ้นขณะที่หญิงเคราะห์ร้ายนั่งอยู่กับเพื่อนชาย ซึ่งถูกรุมทำร้าย จากนั้นก็ช่วยกันฉุดลากเธอเข้าไปในสถานที่ลับตา และผลัดกันข่มขืน ตำรวจจับกุมตัวได้ยกแก๊ง

คดีข่มขืนที่ผ่านมาถูกมองว่าเป็นปัญหาเกี่ยวกับสังคม และวัฒนธรรมมากกว่าความกังวลด้านการรักษาความปลอดภัยและการบังคับใช้กฎหมาย ในสายตาของสังคมอินเดีย เรื่องการกดขี่ ทำร้ายสตรียังต้องได้รับการยกระดับเพื่อให้ได้ผลด้านป้องปราม

นักกฎหมายในสภาผู้แทนเรียกร้องให้ลงโทษอย่างหนัก นอกเหนือจากการประหารชีวิต คือการรุมประชาทัณฑ์ในที่สาธารณะ หรือจับตอน แต่ยังไม่มีผลอะไร

ในปี 2017 มีคดีข่มขืนค้างคาอยู่ 117,451 คดี มีเพียง 28,750 ได้ถูกพิจารณา