ฉะเชิงเทรา - ใหญ่ฟัดใหญ่..อุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อพุ่งชนประสานงากันบนถนนเลี่ยงเมืองบางขวัญ (หลวงหลวงแผ่นดินสาย 365 เลี่ยงเมือง) จ.ฉะเชิงเทรา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1ราย
วันนี้ ( 12 พ.ย.)ได้เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อพุ่งชนประสานงากับรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อด้วยกันบนถนนสายเลี่ยงเมืองบางขวัญ (หลวงหลวงแผ่นดินสาย 365 เลี่ยงเมือง) ถนนฉะเชิงเทรา-บางน้ำเปรี้ยวมุ่งหน้าสามแยกสตาร์ไลท์ ต.ท่าไข่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตติดคาซากรถ ซึ่งหลังเกิดเหตุ ร.ต.ท.หญิง แพรวพรรณ บุญค้ำ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย
พบที่เกิดเหตุมีรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อซึ่งบรรทุกยี่ห้ออีซูซุ รุ่น GXZ320 หมายเลขทะเบียนหัวลาก 70-3887 สมุทรสาคร หมายเลขทะเบียนหางพ่วง 70-3888 สมุทรสาคณ ที่บรรทุกปูนซีเมนต์ผงสภาพถูกพุ่งชนอย่างจังที่บริเวณด้านหน้าตัวรถด้านขวาจนตัวรถส่วนหัวลากฉีกขาดเกือบทั้งคัน และที่บริเวณถังน้ำมันเชื้อเพลิงยังมีน้ำมันดีเซลไหลหยดลงพื้นอยู่ตลอดเวลา
ส่วนตัวรถพร้อมหางพ่วงอยู่ในสภาพบิดงอตกลงไปอยู่ในป่าหญ้าข้างทาง บริเวณส่วนหัวเก๋งคนขับพบร่าง นายเฉลิมพล ฮวบขุนทด อายุ 32 ปี นอนเสียชีวิตคาอยู่กับพื้นถนนสภาพร่างกายแหลกเหลว
ห่างออกไปประมาณ 80 เมตร พบรถบรรทุกแบบกึ่งพ่วงขนาด 22 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว รุ่น DECA หมายเลขทะเบียนหัวลาก 70-7831 ปทุมธานี หมายเลขทะเบียนหางพ่วง 70-9876 ปทุมธานี ซึ่งบรรทุกน้ำอัดลมชื่อดังมาเต็มคัน จอดค่อมเส้นแบ่งกลางถนนและยังพบร่องรอยการเหยียบเบรกเป็นทางยาวกว่า 20 เมตร โดยที่ขวดน้ำอัดลมได้แตกกระจายเกลื่อนพื้นเป็นจำนวนมาก
ภายในรถพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อคือ นายจำลอง ยงศักดิ์ อายุ 40 ปีได้รับบาดเจ็บที่สะโพกและมีบาดแผลถลอกตามร่างกายอาการไม่สาหัส
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยฉะเชิงเทรา ได้ทำการช่วยเหลือ ด้วยการใช้เครื่องมือตัดถ่างนำผู้ได้รับบาดเจ็บออกจากซากรถเพื่อนำตัวส่งรักษายังโรงพยาบาลพุทธโสธร
จากการสอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า เส้นทางสายเลี่ยงเมืองบางขวัญเป็นถนนเลนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุได้มีรถยนต์กระบะสีแดงหยุดจอดเพื่อรอเลี้ยวเข้าซอย โดยที่มีรถบรรทุกน้ำอัดลมขับตาม หลังมาและไม่หยุดรอให้รถคันหน้าเลี้ยวเข้าซอยไปก่อน แต่กลับพยายามที่จะเบี่ยงออกไปยังเลนด้านขวา
และเป็นจังหวะเดียวกันกับที่รถพ่วงบรรทุกปูนซีเมนต์วิ่งสวนมาจึงเป็นให้พุ่งชนประสานงากันอย่างจัง ทำให้คนขับรถปูนซีเมนต์เสียชีวิตคาที่ ส่วนคนขับรถคันก่อเหตุได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
