ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เหยื่อแก๊งล่อซื้อจับสินค้าลายการ์ตูนรีดทรัพย์เข้าแจ้งความต่อ ตร.โคราชแล้ว 38 ราย “รอง ผบ.ตร.” ย้ำให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายเป็นรายบุคคลอย่างละเอียดและชัดเจนเพื่อนำไปสู่การดำเนินคดี เผยตั้ง กก.สอบ ตร.มีเอี่ยวลั่นฟันไม่เลี้ยง ระบุบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ยันไม่ได้มอบให้เรียกเงินเหยื่อและต้องแจ้งทุกครั้งก่อนดำเนินการใดๆ แฉ “ประจักษ์” แหกกฎข้อตกลง
วันนี้ (7 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ นายประจักษ์ โพธิผล กับพวก อ้างเป็นตัวแทนบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมาเข้าจับกุมเยาวชนวัย 15 ปี ขณะส่งมอบกระทงอาหารปลาพิมพ์ลายการ์ตูนการ์ฟิลด์ และรีลัคคุมะ ซึ่งทำการล่อซื้อผ่านเฟซบุ๊ก โดยเรียกค่าเสียหาย 50,000 บาท แต่ได้เจรจากันเหลือ 5,000 บาท นอกจากนี้ยังพบเหยื่อถูกล่อซื้อสินค้าลายการ์ตูน แล้วถูกจับกุมและเรียกค่าเสียหายแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดีในลักษณะเดียวกันอีกหลายราย และเมื่อวานนี้ (6 พ.ย.) ได้รวมตัวกันแสดงตัวเพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้อ้างเป็นตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์ดังกล่าวที่ สภ.เมืองนครราชสีมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีเพียงเยาวชนอายุ 15 ปีที่ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเป็นรายแรกไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้เดินทางมาอำนวยการสั่งการในการรับแจ้งความร้องทุกข์และสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตนเอง ซึ่งในวันนี้มีผู้ได้รับความเสียหายเดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนรวมจำนวน 38 ราย โดยมีสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมามาร่วมในการสอบปากคำ ขณะที่ทางตำรวจได้ระดมพนักงานสอบสวนจัดห้องตั้งโต๊ะเพื่อทำการสอบปากคำผู้ที่ได้รับความเสียหายจากกรณีดังกล่าวเป็นรายบุคคล เพื่อพิจารณารับแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีตามกฎหมายเป็นรายกรณีๆ ไป
ทั้งนี้ พล.ต.อ.วิระชัยได้กล่าวย้ำต่อผู้เสียหายทุกคนว่า ขอให้ทุกคนให้ปากคำแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะให้เน้นเรื่องการดำเนินการในการผลิตสินค้าลายการ์ตูนที่ละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าวว่า เป็นการสั่งซื้อเพื่อให้ผู้เสียหายผลิตและนำมาส่งหรือไม่ หรือผู้เสียหายมีการผลิตสินค้าที่เป็นรูปลายการ์ตูนละเมิดลิขสิทธิ์ไว้ก่อนแล้วและนำออกมาจำหน่ายหรือไม่เพื่อให้เกิดความกระจ่าง และให้มีการระบุวัน เวลาสถานที่ที่มีการตกลงจ่ายค่าเสียหายให้ชัดเจน รวมถึงพนักงานสอบสวนที่ดำเนินการแจ้งความในวันดังกล่าวด้วย
พล.ต.อ.วิระชัยชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสอบถามไปยังเจ้าของลิขสิทธิ์ ซึ่งรูปการ์ตูนการ์ฟิลด์เป็นลิขสิทธิ์ของบริษัท พอส์-อิงค์ จำกัด สหรัฐอเมริกา และรูปการ์ตูนรีลัคคุมะเป็นลิขสิทธิ์ ของบริษัทซาน-เอ็กซ์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น โดยทั้ง 2 บริษัทได้มอบให้บริษัท เวอริเซ็ค จำกัด โดยนายภควรรษก์ ศรีสำราญ เป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ และนายภควรรษก์ได้มอบอำนาจให้ นายประจักษ์ โพธิผล เป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ต่อ
ส่วนกรณีที่นายประจักษ์ดำเนินการล่อซื้อสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์และเรียกรับเงินดังกล่าวนั้น ทางนายริชาร์ด ผู้บริหาร บริษัท พอส์-อิงค์ ได้ยืนยันว่า ทางบริษัทไม่มีนโยบายในการที่จะให้ตัวแทนลิขสิทธิ์ออกไปเรียกรับค่าเสียหายแต่อย่างใด และหากพบการละเมิดลิขสิทธิ์รูปการ์ตูนดังกล่าวของบริษัทจริงให้มีการแจ้งต่อบริษัทก่อนที่จะดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งกรณีการเข้าไปล่อซื้อกระทงลายรูปการ์ตูนละเมิดลิขสิทธิ์จากเด็กหญิงอายุ 15 ปีชาวจังหวัดนครราชสีมานั้นทางบริษัทยืนยันว่านายประจักษ์ไม่ได้แจ้งให้ทางบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ทราบก่อน ถือเป็นการผิดกฎและข้อตกลงของทางบริษัทด้วย
ขณะเดียวกัน ตำรวจจะทำการสอบสวนไปถึงกรณีอื่นๆ และขอตรวจสอบใบอนุญาตการเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ ของนายประจักษ์ ว่าสิ้นอายุหรือไม่
“ขณะที่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องแล้วว่ามีใครเกี่ยวข้องหรือมีส่วนสนับสนุนกับกลุ่มตัวแทนลิขสิทธิ์หรือไม่ หากพบว่าตำรวจนายใดมีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องถูกดำเนินการอย่างเด็ดขาด” พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวในตอนท้าย
ทางด้าน นายพรเทพ เจริญพงศ์อนันต์ ประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ขณะนี้มีกลุ่มผู้เสียหายทยอยเดินทางเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนแล้ว ล่าสุดมียอดผู้เสียหายที่ถูกจับกุมละเมิดลิขสิทธิ์การ์ตูนดังกล่าวมาให้รายละเอียดต่อทนายความจำนวน 36-38 คน มูลค่าที่ถูกเรียกค่าเสียหายไปรวมกว่า 700,000 บาท ทั้งนี้ หากผู้เสียหายรายใดต้องการปรึกษาด้านคดีหรือต้องการเข้าแจ้งความสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือมาได้ที่สภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา