กาฬสินธุ์ - ชาวนาตำบลเขาพระนอน อำเภอยางตลาดนำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้งสูบน้ำบาดาลที่อยู่ลึกกว่า 60 เมตรขึ้นกู้ชีพต้นข้าวที่กำลังถอดรวงแห้งตายหลังเจอฝนทิ้งช่วงนานกว่า 2 เดือน เผยแห้งตายแล้ว 3 ไร่ เสียดายโอกาสไม่มีข้าวเปลือกขาย
วันนี้ (5 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการประกอบอาชีพของชาวนาที่ จ.กาฬสินธุ์ ในช่วงเตรียมตัวลงมือเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปี โดยจะเริ่มลงมือตั้งแต่กลางเดือนนี้เป็นต้นไป ถือเป็นช่วงที่อายุข้าวหรือเมล็ดข้าวเปลือกกำลังแก่พอดี ทั้งนี้พบว่าในเขตชลประทานและพื้นที่ราบลุ่มรวงข้าวกำลังเต็มรวงและรอวันเก็บเกี่ยว ขณะที่ในส่วนพื้นที่สูง นอกเขตชลประทาน กลับพบว่ามีชาวนาหลายรายกำลังประสบความเดือดร้อน
เนื่องจากข้าวขาดน้ำ ต้นข้าวไม่สมบูรณ์ เมล็ดลีบและแห้งตายคารวง จนต้องนำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้งเพื่อสูบน้ำบาดาลใต้ดินที่อยู่ลึกกว่า 60 เมตรขึ้นมาหล่อเลี้ยงต้นข้าวที่กำลังจะถอดรวงและกำลังจะแห้งตาย หลังประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงนานกว่า 2 เดือน
นายสมศรี ภูพาที อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 81 หมู่ 9 บ้านหนองกุง ต.เขาพระนอน จ.กาฬสินธุ์ บอกว่า ตนมีพื้นที่นาทั้งหมด 10 ไร่ ปลูกข้าวเหนียวทั้งหมด เนื่องจากอยู่นอกพื้นที่ใช้น้ำชลประทาน การทำนาต้องอาศัยน้ำฝนเป็นหลัก จึงประสบปัญหาภัยแล้ง น้ำไม่เพียงพอต่อการหล่อเลี้ยงต้นข้าว ราว 2 ปีก่อนจึงได้ลงทุนขุดเจาะบ่อบาดาลลึก 60 เมตร พอที่จะดึงน้ำขึ้นมาบรรเทาภัยแล้ง โดยต่อท่อไหลลงสู่แปลงนา และสวนดอกมะลิที่ปลูกเป็นอาชีพเสริม
นายสมศรีเล่าอีกว่า ช่วงต้นปีประสบภัยแล้ง และมีฝนตกในช่วงหนึ่ง ทำให้เกิดน้ำป่าไหลบ่าลงมาอย่างแรง พัดคันนาเสียหายไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ได้ พอถึงช่วงต้นข้าวตั้งท้องถอดรวง ประกอบกับฝนทิ้งช่วงไปนาน 2 เดือน ความชื้นในดินหมดไป จึงทำให้ต้นข้าวไม่สมบูรณ์ เมล็ดลีบ และยืนต้นแห้งตายอย่างสิ้นเชิง 3 ไร่ ส่วนที่เหลือ 7 ไร่ก็เหี่ยวเฉา ผลผลิตคงได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเพราะน้ำไม่เพียงพอ คงได้ข้าวเปลือกลดลงกว่าทุกปีไม่น้อยกว่า 70%
“เมื่อได้ผลผลิตน้อยก็คงจะเก็บไว้กินในครัวเรือน คงไม่เหลือพอที่จะแบ่งขาย ถ้าขายก็คงจะต้องซื้อข้าวกิน และราคาสูงกว่าราคาขาย จึงเสียดายโอกาสที่ไม่มีข้าวเปลือกขาย เพราะทราบว่าตลาดรับซื้อข้าวทั่วไป โดยเฉพาะข้าวเหนียวนั้น ในช่วงที่ผ่านมาให้ราคาสูงถึง กก.ละ 20 บาท” นายสมศรีกล่าว และว่า
ตนเคยตั้งความหวังไว้สูงว่าจะแบ่งข้าวเปลือกไปขายได้เงินมาใช้หนี้ ธ.ก.ส. และใช้จ่ายในครัวเรือน แต่เมื่อข้าวตายแล้งจึงได้แต่รู้สึกเสียดาย และนำเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำใส่แปลงนาเพื่อประทังชีวิตให้ต้นข้าว โดยหวังว่าจะเป็นความหวังสุดท้ายก่อนที่ข้าวจะยืนต้นตายหมด