พิจิตร - ไฟเขียวตั้งมูลนิธิวัดหลวงพ่อเงินฯ คุมเงินบริจาคนับร้อยล้าน เตรียมแบ่งฝากก้อนใหญ่ให้ใช้แต่ดอกผล ที่เหลือฝากถอนสร้างศาลา 3 ชั้น 70 ล้านที่คาราคาซังมาตั้งแต่ปี 53 พร้อมรอเปิดกุฏิอดีตเจ้าอาวาส คาดมีพระเครื่องอีกมหาศาล
ความคืบหน้ากรณีพิพาทขัดแย้งของวัดหิรัญญาราม หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร ที่ส่วนหนึ่งสาธุชนเชื่อว่ามาจากเรื่องเงินเรื่องทอง ซึ่งยืดเยื้อยาวนานเกือบ 10 ปี เป็นคดีขึ้นโรงขึ้นศาลแทบไม่ถ้วน ล่าสุดนายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดพิจิตรได้อนุมัติให้วัดหิรัญญารามจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิหลวงพ่อเงินวัดบางคลานเข้ามาดูผลผลประโยชน์ภายในวัดแล้ว
โดยมีการตั้งกรรมการดำเนินงานที่มีทั้งฝ่ายสงฆ์และฝ่ายฆราวาส เช่น พ.อ.วีรวัฒน์ วิวัฒน์วานิช รอง ผอ.รมน.จว.พิจิตร, พ.ต.อ.สุชีพ สุทธิราช ผกก.สภ.โพทะเล, นายพร ปั้นเพ็ง กรรมวัดบางคลาน, พลโทฉลวย แย้มโพธิ์ใช้, นายกมล โฉมเกิด อดีต ผอ.ร.ร.ชุมชนบ้านบางคลาน, นางสมปอง พรธาดาวิทย์ กำนันตำบลบาลคลาน ฯลฯ
พระราชสิทธิเวที เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และพระครูพิสุทธิวรากร รักษาการเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม ได้จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการมูลนิธิวัดหลวงพ่อเงินบางคลานเป็นครั้งแรกเมื่อ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุม ร.ร.พิบูลธรรมเวทวิทยา ต.บางคลาน อ.โพทะเล ประกาศและระเบียบของข้อบังคับนายทะเบียนมูลนิธิจังหวัดพิจิตร ตามใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ ลงวันที่ 16 ตุลาคม 2562
ทั้งนี้มีการรายงานในที่ประชุมว่า มูลนิธิหลวงพ่อเงินวัดบางคลานมีสำนักงานตั้งอยู่ที่วัดหิรัญญาราม “วังตะโก” เลขที่ 71 หมู่ 5 ต.บางคลาน อ.โพทะเล วัตถุประสงค์ของมูลนิธิฯ มีทั้งสิ้น 9 ข้อ เช่น เพื่อบูรณปฏิสังขรณ์ปูชนียสถานถาวรวัตถุ เสนาสนะ อารามภายในวัดและวัดทั่วไป, ส่งเสริมการศึกษาและเผยแผ่ศาสนา, สงเคราะห์ภิกษุอาพาธ คนเจ็บป่วย คนชรา และคนทุพพลภาพ, เพื่อกิจการสาธารณประโยชน์อื่นๆ, เพื่อสนับสนุนการศึกษา-อาชีพแก่ประชาชนในพื้นที่, ไม่ดำเนินการเกี่ยวข้องกับการเมืองแต่ประการใด
พระครูพิสุทธิวรากร รักษาการเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม กล่าวด้วยว่า ขณะนี้วัดหลวงพ่อเงินมีเงิน 100 ล้านบาทเศษ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสจึงจะนำเงิน 60-70% ฝากประจำยังธนาคารของรัฐห้ามใครแตะต้องเงินต้น จะใช้เงินได้ก็ต่อเมื่อมีดอกเบี้ยหรือดอกผลเท่านั้น
ส่วนอีก 30-40% จะนำเงินฝากในบัญชีเผื่อเรียก-ออมทรัพย์ เพื่อที่จะได้สะดวกแก่การฝาก-ถอนเงิน นำเงินส่วนนี้ไปสร้างศาลาทรงไทยเฉลิมพระเกียรติสูง 3 ชั้น มูลค่าประมาณ 70 ล้านบาท ที่ก่อสร้างมาตั้งแต่ พ.ศ. 2553 แต่คาราคาซังไม่แล้วเสร็จเสียที ซึ่งชั้นล่างเป็นห้องประชุมขนาดใหญ่ ชั้นสองเป็นห้องรับรองพระผู้ใหญ่ และแสดงประวัติหลวงพ่อเปรื่อง อดีตเจ้าอาวาสที่สร้างชื่อเสียงให้แก่วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ผู้ทำพิธีปลุกเสกหลวงพ่อเงินรุ่น 15 ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ชั้นสามจะเป็นห้องแสดงประวัติหลวงพ่อเงิน ฯลฯ รวมถึงห้องสมุดและห้องเรียนของพระภิกษุสงฆ์
พร้อมกันนั้น ก็ยังจะได้ปรับปรุงภูมิทัศน์เพื่อเตรียมจัดงานสมโภชหลวงพ่อเงิน กอบกู้ชื่อเสียงของหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน-เทพเจ้าผู้มีวาจาสิทธิ์แห่งเมืองพิจตร ให้กลับคืนมา รวมถึงจะได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของชาวพิจิตร และของประเทศไทยต่อไป
รายงานเพิ่มเติมในเชิงลึกทรัพย์สินของวัดหลวงพ่อเงินบางคลานยังคงถูกเก็บอยู่ในกุฏิของอดีตเจ้าอาวาสที่มีการล็อกกุญแจปิดประตูไว้อย่างแน่นหนารอคำบังคับคดีของกรมบังคับคดีที่จะสั่งให้ส่งมอบทรัพย์สินที่ยังเหลืออยู่ รักษาการเจ้าอาวาสบอกว่าภายในกุฏิหลังนั้นยังมีพระเครื่อง และวัตถุมงคลตั้งแต่ พ.ศ 2540 ที่ทำเอาไว้แล้วยังไม่ได้จำหน่าย ถ้าเปิดออกมายิ่งกว่ากรุแตก
เพราะว่าพระเครื่องพระบูชาที่ยังเหลืออยู่มูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งถ้าเปิดกุฏิหลังนี้เมื่อไหร่ก็จะมีการเปิดจำหน่ายวัตถุมงคลเพื่อเปลี่ยนมาเป็นเงินแล้วจะนำมาใช้พัฒนาบูรณะวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่ายังมีทรัพย์สินวัดหลวงพ่อเงินบางคลานบางส่วนถูกเก็บอยู่ในกุฏิของอดีตเจ้าอาวาสที่มีการล็อกกุญแจปิดประตูไว้อย่างแน่นหนารอกรมบังคับคดีสั่งให้มีการส่งมอบ ซึ่งเชื่อกันว่าภายในกุฏิหลังนี้มีพระเครื่อง และวัตถุมงคล ที่ทำเอาไว้แล้วยังไม่ได้จำหน่าย และถ้าเปิดกุฏิเมื่อใดอาจจะยิ่งกว่ากรุแตก เพราะว่าพระเครื่องพระบูชาที่ยังเหลืออยู่น่าจะมีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท
