ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-เจ้าของ“เจ้าโบ้”พาย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว หลังเพื่อนบ้านขึ้นป้ายใหญ่ขับไล่พ้นหมู่บ้านเพราะพุดเดิ้ลสุดที่รักถูกกัด ยืนยันไม่ได้บุกเข้าไปกัดถึงในบ้านตามที่คู่กรณีบอกและแสดงความรับผิดชอบแล้ว แถมตัวเองโดนกัดด้วย
จากกรณีที่เจ้าของบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านจัดสรรชื่อดังในอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ทำการติดตั้งป้ายไวนิลขนาดใหญ่บริเวณรั้วบ้านของตัวเอง มีข้อความตำหนิสุนัขตัวหนึ่งที่ชื่อ “เจ้าโบ้” ที่เป็นของเพื่อนบ้านหลังที่อยู่ไม่ห่างกันนัก ด้วยถ้อยคำรุนแรงและขับไล่ให้ออกไปจากหมู่บ้าน โดยตามรายงานข่าวทางเจ้าของบ้านระบุว่าเนื่องจาก “เจ้าโบ้” ไปกัดสุนัขพันธุ์พุดเดิ้ลชื่อ “แมมมอธ” ของเจ้าของบ้านจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเจ้าของ “เจ้าโบ้”ไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวได้มีการนำไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย และมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา
วันนี้(1 ส.ค.61) ที่หมู่บ้านดีญ่า วาเล่ย์ ตำบลหนองผึ้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุดังกล่าว พบป้ายไวนิลขนาดใหญ่ดังกล่าวยังคงถูกติดตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 555/135 ขณะที่จากการพูดคุยกับนายวีรชัย ศรีพลอยรุ่ง อายุ 33 ปี เจ้าของ “เจ้าโบ้” ที่อยู่บ้านเลขที่ 555/133 ซึ่งตั้งอยู่ถัดกันไปไม่กี่หลัง ยอมรับว่า “เจ้าโบ้” กัดสุนัขพุดเดิ้ลชื่อ “แมมมอธ” ของเจ้าของบ้านที่มีการติดตั้งป้ายดังกล่าวจริง โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางวันของวันที่ 20 ก.ค.61 อย่างไรก็ตามยืนยันว่าเหตุเกิดที่บริเวณหน้าบ้านของตัวเอง ไม่ใช่ “เจ้าโบ้” บุกเข้าไปกัด “แมมมอธ” ในบ้านอย่างที่มีคนให้ข้อมูลไปก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ในช่วงก่อนเกิดเหตุเห็น “แมมมอธ” หลุดออกมาจากบ้านและมายืนอยู่หน้าบ้านของตัวเอง ซึ่ง “เจ้าโบ้” ที่อยู่ในรั้วบ้านได้เห่าไล่แต่ออกไปไม่ได้เพราะปิดประตูไว้ จากนั้นตัวเองไปอาบน้ำและออกมาเห็นว่า “แมมมอธ” ไม่อยู่แล้ว จึงได้ปล่อย “เจ้าโบ้” ออกไปวิ่งเล่นที่สนามหญ้าใกล้ๆ ต่อมาได้ยินเสียงสุนัขกัดกันจึงออกมาดู และเห็น “เจ้าโบ้” กำลังไล่กัด “แมมมอธ” จึงรีบเข้าไปห้ามโดยการจับ “แมมมอธ” อุ้มขึ้นมา เพื่อไม่ให้ถูกกัดและยับยั้งเหตุไว้ได้ แต่ทำให้ตัวเองถูก “แมมมอธ”กัดเข้าที่มือจนเป็นแผลและเลือดไหล จากนั้นได้นำ “แมมมอธ” กลับไปไว้ที่บ้าน ส่วนตัวเองได้ออกไปขายของที่ตลาดนัดตามปกติและไปหาหมอในช่วงค่ำหลังจากที่ขายของเสร็จเพราะจำเป็นต้องหาเลี้ยงชีพ
จากนั้นเมื่อกลับมาบ้านได้ไปที่บ้านของ “แมมมอธ” เพื่อแจ้งให้เจ้าของบ้านทราบว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น และขอโทษที่เกิดเรื่องขึ้น โดยที่ตัวเองไมได้เรียกร้องหรือเอาเรื่องที่ตัวเองโดนกัดแต่อย่างใด ซึ่งแฟนหนุ่มของเจ้าของบ้านที่ขึ้นป้ายยังได้ขอบคุณตัวเองด้วยที่ช่วยไม่ให้ “แมมมอธ” ซึ่งตัวเล็กถูกกัดมากกว่านี้ อย่างไรก็ตามต่อมาทางเจ้าของบ้านดังกล่าวได้ไปแจ้งความกรณีที่เกิดขึ้น ที่สถานีตำรวจภูธรสารภี จึงต้องไปไกล่เกลี่ยตกลงกันที่สถานีตำรวจ กระทั่งตกลงกันได้ว่าตัวเองจะชดใช้ค่าเสียหายให้จำนวน 2,000 บาท เป็นค่ารักษาพยาบาล “แมมมอธ” และให้ย้าย “เจ้าโบ้” ออกไปอยู่ที่อื่น โดยนัดพบกันที่สถานีตำรวจในวันที่ 17 ส.ค.61 เพื่อบันทึกหลักฐานตกลงยอมความกัน
โดยนายวีรชัย บอกว่า ล่าสุดวันนี้(1 ส.ค.61) ได้ย้าย “เจ้าโบ้” ไปฝากเลี้ยงไว้ที่บ้านสวนของญาติที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ตามที่ตกลงกันไว้ แม้จะรู้สึกอาลัยเพราะมีความรักความผูกพันกับ “เจ้าโบ้” มาก เนื่องจากเก็บมาเลี้ยงได้จนตอนนี้อายุได้ 1 ปีกว่าแล้ว อย่างไรก็ตามยอมรับว่าไม่เข้าใจว่าเหตุใดเจ้าของ “แมมมอธ” ยังมีการขึ้นป้ายดังกล่าวอีก ซึ่งทำให้ตัวเองรู้สึกว่าถูกเพื่อนบ้านรายอื่นๆ มองด้วยสายตาแปลกประหลาด โดยหากเป็นไปได้อยากให้เอาป้ายลงและมองว่าหากมีข้อติดใจสงสัยใดๆ ควรจะพูดคุยกัน เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องทางตัวเองได้พยายามเจรจาพูดคุยด้วยตลอด แต่เหมือนไม่ค่อยได้รับการตอบสนองใดๆ ทั้งนี้ยืนยันว่าแม้ตัวเองจะรัก “เจ้าโบ้” แต่ยอมย้ายมันไปอยู่ที่อื่น เพราะต้องการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้านไว้มากกว่า จึงอยากให้เข้าใจและเห็นใจกันด้วย
นอกจากนี้นายวีรชัย ระบุว่า ในส่วนของค่ารักษาพยาบาลตัวเองที่ถูก“แมมมอธ”กัด และต้องรักษาตัวต่อเนื่องเพราะต้องฉีดยาตามแพทย์นัดนั้น ตัวเองไม่เคยเรียกร้องใดๆ และทางเจ้าของ “แมมมอธ” ก็ไม่เคยแสดงความรับผิดชอบหรือท่าทีใดๆ ซึ่งตัวเองไม่ได้ติดใจ แต่ยอมรับว่าไม่เข้าใจว่าเหตุใดเจ้าของ “แมมมอธ” เอาแต่พูดถึงค่ารักษาพยาบาลของสุนัขตัวเองเท่านั้น ไม่พูดถึงเรื่องที่ตัวเองโดน “แมมมอธ” กัดบ้าง สำหรับ “เจ้าโบ้” นั้น ยอมรับว่าที่ผ่านมาอาจจะเคยก่อความเดือดร้อนรำคาญให้เพื่อนบ้านบ้าง จากการส่งเสียงเห่าและวิ่งไล่รถที่ขับผ่านไปมา แต่ยืนยันว่าไม่เคยกัดคนทั้งเด็กหรือคนแก่ตามที่มีเผยแพร่ข้อมูลไป อย่างไรก็ตามจากนี้ไปคงจะไม่มีปัญหาจาก “เจ้าโบ้” แล้ว เพราะย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว.