“เชียร์ ฑิฆัมพร” ฟิวส์ขาด แจ้งความดำเนินคดีเพื่อนบ้าน จวกควรมีจิตสำนึกดูแลสัตว์ให้มากกว่านี้ หลังปล่อยหมามากัด “ไม้หมอน” สุนัขพิการมี 3 ขาถึงในบ้าน ขาเหวอะเลือดอาบ จ่ายค่ารักษาแค่ 3 พัน จากทั้งหมด 7,400 บาท คู่กรณีลั่นสะดวกเท่านี้
เมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 16 ก.ค. นางเอกสาว “เชียร์ ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์” ได้เดินทางมาที่ สน.สายไหม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของสุนัขบ้านบริเวณใกล้เคียง ที่ปล่อยสุนัขของตนเองมากัดสุนัขของตนที่ชื่อ “ไม้หมอน” ที่เป็นสุนัขพิการมี 3 ขาถึงบริเวณรั้วบ้าน ทำให้ทั้งสุนัขของตนได้รับบาดเจ็บ และรั้วบ้านก็เกิดความเสียหาย โดยสาวเชียร์เผยว่าได้มีการพูดคุยกับคู่กรณีหลายครั้งแล้ว และครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเรื่อง ซึ่งค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลครั้งนี้ก็ไม่ได้เยอะ จำนวนแค่ 7,400 บาท แต่ตนต้องการให้อีกฝ่ายออกมารับผิดชอบดูแลสุนัขที่เลี้ยงให้ดีกว่านี้มากกว่า
“นี่ไม่ใช่ครั้งแรกค่ะ จริงๆ เคยเกิดกรณีแบบนี้ที่ทำให้สุนัขในบ้านเราบาดเจ็บหลายครั้งแล้ว และจากเรื่องที่เกิดขึ้นคือสุนัขของเราอยู่ในบ้านเรา และสุนัขของบ้านคู่กรณีเขาก็มา คือมันจะมีบริเวณตรงรั้งที่จะมีช่องอยู่ เราก็เคยเอาอะไรมาปิดแล้ว พยายามหาวิธีไม่ให้สุนัขเขาเจอกัน เพราะว่าธรรมชาติสัตว์เราก็เข้าใจอยู่แล้ว ถ้ามาเจอกันก็มีกัดกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา”
“แต่กับครั้งที่ผ่านๆ มาเราก็เห็นว่าเรื่องอย่างนี้หนึ่งคือเป็นธรรมชาติสัตว์ เราเข้าใจ เราเป็นคนที่อยู่ใกล้ชิดกับสุนัขอยู่แล้ว สองคือเราก็เห็นแก่ความที่เราเป็นเพื่อนบ้านกัน เกิดเหตุเราก็ไปตักเตือน ไม่ใช่เกิดเหตุครั้งแรกแล้วเราไปเรียกร้องให้มารับผิดชอบ แต่เราเห็นว่าตักเตือนกันแล้ว คุยกันแล้วหลายครั้ง เราก็เลยรู้สึกว่าครั้งนี้ให้ทางพี่เขารับผิดชอบหน่อยค่ะ”
“พอตักเตือนเขาก็รับทราบค่ะ ปกติเวลาการคุยจะเป็นคุณแม่ไปคุยมากกว่า ทางนั้นเราก็รับรู้ว่าเกิดเหตุนะ เดี๋ยวจะดูให้ แต่เชียร์ไม่เป๊ะในคำพูดเพราะคนคุยคือคุณแม่ค่ะ”
“ซึ่งนี่ก็ยังเกิดเหตุครั้งล่าสุดอยู่เลยค่ะ และมันค่อนข้างรุนแรง ไม่ใช่ครั้งก่อนๆ จะไม่รุนแรงนะคะ ก็อย่างที่บอกคือหมาบ้านเราก็หมาจร หมาบ้านเขาก็น่าจะเป็นหมาจรเหมือนกันที่เขาก็รับมาเลี้ยง เราก็เข้าใจอยูแล้ว แต่อย่างที่บอกว่าทุกๆ ครั้งมันไม่ใช่ว่าสุนัขออกไปเจอกันนอกบ้านแล้วกัดกันนะคะ แต่อันนี้สุนัขเราอยู่ในบ้าน แล้วโดนสุนัขเขาแอทแท็กเข้ามา และรั้วบ้านเราก็เสียหาย สุนัขเราก็บาดเจ็บ”
เรียกร้องเจ้าของให้รับผิดชอบ ดูแลสัตว์เลี้ยงให้มากกว่านี้
“เราก็เลยรู้สึกว่าครั้งนี้ที่ต้องขอให้รับผิดชอบ เราไม่ได้มองแค่เรื่องของสุนัขกัดกันค่ะ แต่เรามองว่าเจ้าของควรจะดูแลสัตว์เลี้ยงหรือรู้จักสัตว์เลี้ยงคุณให้ดีที่สุด อันนี้พูดถึงรวมๆ นะคะ เพราะถ้าเรารู้ว่าหมาบ้านเราดุ หมาบ้านเราสามารถไปกัดหมาบ้านอื่น สามารถไปกัดคนได้ เราก็ต้องยิ่งดูแลใกล้ชิด ซึ่งการตักเตือนเคยเกิดขึ้นไปแล้ว ครั้งนี้เราก็เลยหวังว่าอยากจะให้เขาได้รับทราบว่าควรต้องรับผิดชอบบ้างนะ”
น้ำตาคลอ เห็นภาพไม้หมอนเลือดอาบเท้า
“ซึ่งครั้งนี้เกิดค่ารักษาแน่นอนค่ะ ตอนที่เห็นรูปนี่น้ำตาคลอเลย ตกใจมาก เลือดอาบเท้าไม้หมอนเลยค่ะ เชียร์ก็เลยมองว่าครั้งนี้ไม่น่าจะธรรมดาแล้ว งั้นหม่าม๊าไปคุยกับเขาเลยว่าต้องมีค่าใช้จ่ายแล้วนะ เขาก็บอกว่าเท่าไหร่ก็บอกเขามา เขาใช้คำประมาณนี้นะคะ เราก็เอาไปรักษาปกติ ไม่ได้แจ้งความอะไรทั้งนั้น เพราะคิดว่าน่าจะคุยกันได้เพื่อนบ้านกัน”
“ปรากฎว่าพอได้รับบิลมาเสร็จรวบรวมไปให้ เขาก็ตกใจว่าทำไมค่าใช้จ่ายสูงจัง เขาก็เลยบอกว่าขอเอาไปตรวจสอบ พอเสร็จเราก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วก็เงียบหายไป พอเราไปถามถึงเขาก็มีการโอนมาให้ ซึ่งเป็นจำนวนโดยประมาณไม่ถึงครึ่งของบิล หม่าม๊าก็งงว่าทำไมถึงเป็นเท่านี้”
แฉโอนค่ารักษามาแค่ 3 พัน ทั้งที่ราคาจริงเกือบ 8 พัน อ้างสะดวกเท่านี้
“เขาก็บอกว่าเขาตกลงกันในบ้านเขาว่าน่าจะเป็นเท่านี้ คือไม่ได้ตกลงกับเรา ที่เขาโอนมาประมาณ 3,000 บาทค่ะ ซึ่งค่ารักษาทั้งหมดตามบิลประมาณ 7,400 บาท ซึ่งรักษาประมาณ 10 กว่าวันค่ะ มันต้องมีทั้งการล้างแผล ไปฉีดยาอะไรหลายอย่างมาก เราก็งงว่าทำไมถึงเป็นอย่างนี้ ก็เลยลองให้ทางบ้านไปคุยเจรจาอีก”
“จริงๆ เรามีพูดถึงด้วยนะว่าเดี๋ยวนี้มันมี พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ด้วย กรณีที่สัตว์เลี้ยงที่มีเจ้าของ เมื่อเกิดความเสียหายอะไรขึ้นเจ้าของก็ต้องรับในการที่ดูแลค่าใช้จ่ายและค่าสินไหม เชียร์ก็ยังถามเขาประโยคนี้เลย เขาก็บอกว่าใช่ แต่เขาสะดวกประมาณเท่านี้ ซึ่งตอนที่เจรจาล่าสุดก่อนที่จะมาถึงสถานีตำรวจก็มีการพูดคุยกันยาวเลย เขาก็เพิ่มขึ้นมาให้อีกนิดหน่อย เขาบอกว่าสะดวกเท่านี้”
“เชียร์ยังบอกพี่เขาเลยว่านี่มันไม่ใช่ครั้งแรกนะ กับครั้งอื่นๆ อีก เราว่าเราก็พยายามที่จะประนีประนอม เราก็ใจๆ กันนะ ทั้งค่ารักษาก่อนๆ ก็ไม่ได้คิด ค่าครั้งก่อนๆ เราก็ไม่ได้คิด แต่ครั้งนี้พี่จบกันได้มั้ย รักษาน้ำใจกัน เขาก็บอกประมาณว่าเขาสะดวกแค่ที่ประมาณเขามีแค่นั้นค่ะ”
“เพื่อนบ้านคนนี้รั้วไม่ติดค่ะ เพื่อนบ้านรั้วติดกันนี่คือ ใบเฟิร์น (พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) ค่ะ (หัวเราะ) อันนั้นรักกัน แต่บ้านคู่กรณีนี่อยู่บริเวณเดียวกันค่ะ”
“เขาก็ไม่ได้ถึงกับรับปากขนาดนั้น คือถึงขนาดเชียร์บอกกับพี่เขาเลยว่าจริงๆ แล้วกรณีนี้พี่รับผิดชอบโดยการพาน้องหมอนไปหาหมอเลยก็ได้ ซึ่งถ้าพี่พาน้องหมอนไปหาหมอปุ๊บพี่จะได้รู้เลยว่าค่าใช้จ่ายมันเท่าไหร่ แล้วถ้าพี่สงสัยพี่ก็ถามเลย หรือพี่จะต้องหยุดงานมา เหมือนอย่างที่บ้านเชียร์คือเป็น 10 วันที่สลับเปลี่ยนกัน บางวันเรายังต้องเลื่อนวันนัดคุยงานมาเลย เพราะว่าไม่มีใครอยู่จริงๆ และหมอบอกว่าห้ามขาดในการดูแลในช่วงต้น พูดตรงๆ มันไม่ใช่เรื่องง่ายค่ะ เชียร์ยังบอกเลยว่าทำอย่างนั้นได้มั้ย พี่เขาก็ยังบอกเลยว่าต้องให้เขาเลิกงานก่อน ก็นั่นแหละค่ะเรายังไม่เลิกงานด้วยซ้ำเรายังต้องมาเลย มันจะได้ไม่ต้องมีค่าสินไหม จะได้ไม่ต้องมีค่าอะไรกันเลย”
ใจสลายแผลลึก กลัวไม้หมอนเดินไม่ได้
“ก็ค่อนข้างที่จะหนักเลยค่ะ เรายังกลัวเลยด้วยซ้ำว่าแผลที่มันค่อนข้างลึกที่เท้ามันจะทำให้น้องหมอนกลับมาเดินได้โอเคขนาดไหน เพราะในตอนแรกๆ แผลค่อนข้างลึก หมอนเขาเป็นหมาที่มีขาหน้าขาเดียวค่ะ เพราะฉะนั้นหมอบอกว่าห้ามขยับเลยด้วยซ้ำ แต่มันเป็นไปไม่ได้ มันก็ต้องเดิน เราก็เห็นช่วงแรกๆ ใจจะสลาย ไม่รู้จะเป็นยังไง ขาหน้าก็มีน้อยอยู่แล้วถ้าต้องเสียไปอีกจะเป็นยังไง เราก็ยังไม่รู้เลย แต่ด้วยความที่บ้านก็ดูแลกันใกล้ชิดและไปตามที่หมอนัดทุกอย่างมันก็เลยหาย ตอนนี้ก็ดีขี้นแล้ว กลับมาใช้ขาได้โอเคค่ะ”
“เรื่องมาตรการป้องกัน จริงๆ เราก็เกริ่นกับเขาไว้แล้วว่าถ้ามันเกิดเหตุอีกจริงๆ ซึ่งมันก็ไม่ควรจะต้องเกิดนะ เชียร์ยังพูดเลยว่าครั้งหน้าก็รบกวนอย่างที่บอกเลยนะคะพี่ พี่ก็พาน้องหมอนไปเลย ดูแลไปเลย จะได้ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรที่ต้องมาผ่านเราเลย จะได้สบายใจกันไปเลย แต่เราก็อยากให้ดูแลใกล้ชิด”
ฉะต้องรับผิดชอบ มีจิตสำนึกในการดูแล เสียงสั่น คู่กรณีบอกหมาอีกฝ่ายไม่ได้บอบบาง
“เพราะการมาของเชียร์ในวันนี้ไม่ใช่แค่การมาเคลียร์ของบ้านเราเท่านั้น แต่เชียร์อยากให้ไม่ว่าบ้านไหนก็ตามที่มีสุนัขอยากให้ดูแลเขาให้ดีที่สุดค่ะ เพราะการที่เชียร์ต้องการให้เขารับผิดชอบมันเป็นอย่างหนึ่งที่ดีของการมีจิตสำนึกในการเป็นเจ้าของที่ดูแลหนึ่งชีวิตอย่างเต็มที่ค่ะ เพราะเชียร์พูดคำหนึ่งว่าการที่เกิดกรณีแบบนี้มันไม่ใช่แค่หมาเรา มันไม่ใช่แค่รั้วเราที่เสียหาย ถ้ามันกัดกันหนักกว่านี้หมาพี่ก็เจ็บ หมาพี่ก็ต้องมีค่ารักษา มีค่าใช้จ่ายที่มันเกิดขึ้น ไม่ใช่แค่หมาเราที่เจ็บ”
“มันยังมีคำหนึ่งที่เชียร์ฟังแล้วเจ็บนะ เขาบอกว่าหมาเขาไม่ได้บอบบางขนาดนั้น (เสียงสั่น) เราก็เฮ้ย...มันฟังแล้วเจ็บแทนความรู้สึก คือเชียร์เป็นคนที่เซนซิทีฟกับหมามากๆ เพราะค่อนข้างที่จะใกล้ชิด คำนี้มันยังไงล่ะ ไม้หมอนก็เป็นหมาพิการมีแค่ 3 ขาเอง เหมือนหมาพิการถูกมายำอย่างนี้อีก แล้วยังเกิดคำพูดที่เราฟังแล้วเราเจ็บ เรามองไม้หมอนวันที่เราได้ยินคำนี้รู้สึกว่าหมอนเอ๊ย...เจออะไรมาเนี่ย แม้กระทั่งสะท้อนไปถึงสัตว์ที่มากัด ถ้าเขาเจ็บหนักจะเป็นยังไง”
“ก็เลยอยากจะฝากถึงว่าการเป็นเจ้าของที่รับผิดชอบหนึ่งชีวิต อยากให้มองหนึ่งชีวิตนั้นมีค่าที่สุด ไม่ใช่ว่าไม่พอใจอะไรในการเลี้ยงสุนัขตัวหนึ่งขึ้นมาแล้วจะเอาไปปล่อย หรือเอาไปทำอะไรสักอย่าง มันจะไปเข้าคำว่า ไม่พร้อม ไม่เลี้ยง คือมันจะไม่เกิดภาระทางสังคม มันจะไม่เกิดปัญหาใดๆ เลย วันนี้เชียร์อยากให้ดูปัญหาเรื่องนี้ เพราะว่าเงินจำนวนที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่จำนวนที่เยอะอะไรเลย เชียร์ดูแลลูกเชียร์ได้อยู่แล้ว แต่ครั้งนี้เชียร์อยากแค่ให้เมื่อเกิดเหตุเชียร์อยากให้เจ้าของที่มีจิตสำนึกที่ดีก็ควรจะรับผิดชอบให้มากที่สุด อันนี้คือสิ่งสำคัญที่เชียร์มาวันนี้ค่ะ”
“ด้วยความที่เราพยายามที่จะมีการเจรจากันหลายครั้งมากแล้ว วันนี้ก็เลยต้องมาดำเนินคดีกัน และขั้นตอนต่อไปเจ้าหน้าที่เขาก็จะออกหมายเรียกคู่กรณีมารับฟังข้อแจ้งความค่ะ ก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการแล้วกันค่ะ”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)