xs
xsm
sm
md
lg

ขึ้นป้ายเขตภัยพิบัติดินถล่ม “ทางขึ้นภูชี้ฟ้า” พบอาคารร่วงเหวแล้ว 5 เสี่ยงทรุดอีกหลายหลัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เชียงราย - เมืองพ่อขุนประกาศเขตภัยพิบัติดินถล่ม “ทางขึ้นภูชี้ฟ้า” ห้ามรถผ่าน แต่ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงแทน พบอาคารร่วงลงเหวแล้ว 5 ขณะที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว-ตึกอีก 3-4 หลังเสี่ยงทรุดตาม เผยใต้ดินเป็นทางน้ำเก่า มีน้ำผุดตลอด

วันนี้ (31 ก.ค.) นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย, นายนิวัฒน์ งามธุระ นายอำเภอเทิง จ.เชียงราย, พ.อ.พศิน แสงคำ เสนาธิการ มทบ.37, พ.อ.ไมตรี ศรีสันเทียะ ผบ.ฉก.ทพ.31 กองกำลังผาเมือง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น แขวงทางหลวงเชียงรายที่ 2, อบต.ตับเต่า ฯลฯ ได้เข้าสำรวจความเสียหายกรณีดินถล่มริมทางขึ้นภูชี้ฟ้า ทางหลวงหมายเลข 1093 พื้นที่หมู่บ้านร่มฟ้าไทย หมู่ 24 ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย จนทำให้มีอาคารที่ตั้งอยู่ติดถนนทรุด และพังลงไปในหุบเขาลึกหลายหลัง

จากการตรวจสอบพบว่ามีอาคารคอนกรีตชั้นเดียวหลังคามุงกระเบื้องจำนวน 5 หลัง ทรุดลงไปในหุบเขาลึกจนเสียหายทั้งหมด โดยที่เจ้าของแทบขนย้ายข้าวของออกมาไม่ทัน นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือน-อาคารพาณิชย์ข้างเคียงอีก 3-4 หลังคาอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะเกิดการทรุดตัวของหน้าดินเพิ่มเติม รวมถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่เป็นอาคาร 2 ชั้น ที่ตั้งอยู่ห่างจากจุดดินทรุดเพียงแค่ 10 เมตรด้วย


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นการจราจรตรงจุดเกิดเหตุระยะทางประมาณ 100 เมตรเพื่อไม่ให้มีการสัญจรผ่านไปมา เพราะดิน และผิวจราจรจุดเกิดเหตุเกิดการทรุดตัวจนเหลือเพียงประมาณครึ่งช่องทางจราจรเท่านั้น รวมทั้งให้ผู้อาศัยอยู่ในอาคารข้างเคียงขนย้ายข้าวของ และออกไปให้ไกลจากจุดดังกล่าวด้วย

นายนิวัฒน์กล่าวว่า สาเหตุของการถล่มลงของอาคารดังกล่าวเพราะมีฝนตกหนักติดต่อกันมากว่า 7 วันแล้ว โดยช่วง 3 วันที่ผ่านมาปริมาณน้ำฝนในพื้นที่มีมากถึงวันละ 99 มิลลิเมตร รวมทั้งใต้ดินเป็นทางน้ำไหลมาก่อน โดยหลังเกิดเหตุยังพบน้ำผุดขึ้นมาอยู่ตลอดเวลาด้วย

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุทางจังหวัดฯ ได้ประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตภัยพิบัติดินถล่ม ตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ปี 2550 และปิดกั้นพื้นที่เพื่อความปลอดภัย ส่วนความเสียหายคาดว่าอยู่ที่ประมาณ 1.2 ล้านบาท แต่โชคดีที่ช่วงเกิดเหตุไม่มีคนอยู่ภายในทำให้ไม่มีความสูญเสีย


นายนิวัฒน์กล่าวอีกว่า ส่วนการแก้ไขปัญหานั้น เบื้องต้นจะปิดการจราจร และให้คนย้ายออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยก่อน ส่วนการจราจรนั้นให้ใช้ทางเลี่ยงที่มีอยู่อีก 2 สายชั่วคราว จากนั้นแขวงทางหลวงเชียงรายที่ 2 จะเข้าไปแก้ไขปัญหาเบื้องต้นด้วยการนำสะพานเหล็กชั่วคราว หรือสะพานแบริ่งมาติดตั้งเพื่อให้สามารถใช้การได้ชั่วคราว จากนั้นอีก 1-2 วันก็จะดูสภาพพื้นที่เพื่อทำการฟื้นฟูและซ่อมแซมถนนให้สามารถใช้การได้เหมือนเดิมต่อไป

สำหรับพื้นที่ อ.เทิง ได้มีการแจ้งเตือนให้ระมัดระวังภัยมาก่อนหน้านี้แล้ว เพราะยังมีจุดเสี่ยงอีก 9 หมู่บ้าน โดยหนึ่งในนั้นคือจุดที่เกิดเหตุดังกล่าว ที่ยังมีบ้านเรือน และอาคารข้างเคียงที่ต้องเฝ้าระวังอยู่

นายทวีชัย แซ่ลี ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าไทย กล่าวว่า จุดดังกล่าวเป็นที่ตั้งของอาคารบ้านเรือนที่ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะเปิดเป็นร้านค้าต่างๆ เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนภูชี้ฟ้าและไม่เคยเกิดเหตุเช่นนี้มาก่อน กระทั่งเกิดการทรุดและถล่มลงไปในหุบเขาทำให้เกิดความเสียหายทั้งหมดโดยแต่ละรายเก็บข้าวของออกมาไม่ทัน กระนั้นไม่มีปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยเพราะแต่ละรายมีบ้านเรือนอยู่แล้วเพียงแต่ไปเปิดร้านให้บริการ ณ จุดดังกล่าวเท่านั้น อย่างไรก็ตามก็จะได้จัดหาสถานที่ใหม่เพื่อให้ประกอบการได้ต่อไปเพราะแต่ละคนถือเป็นคนท้องถิ่นที่ประกอบอาชีพนี้มานานแต่จุดเดิมนี้จะไม่ให้ก่อสร้างใดๆ อีกเด็ดขาด


ด้านนายลักษณ์ ภาระจำ อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 5 หมู่บ้านร่มฟ้าไทย และเปิดร้านจำหน่ายอาหารเลขที่ 215/1 ซึ่งทรุดลงไปในหุบเขาดังกล่าว กล่าวว่า จุดดังกล่าวมีการเปิดเป็นอาคารค้าขายกันมานานกว่า 20 ปี สำหรับตนได้ปรับปรุงร้านมาได้ประมาณ 4 เดือน ใช้งบประมาณราว 500,000 บาท ปรากฏว่าหลังจากมีฝนตกดินก็เริ่มทรุดลง โดยวันที่ 30 ก.ค.สังเกตเห็นดินทรุดตัวลงประมาณ 30 ซม.จากนั้นในเวลา 06.30 น.ของวันนี้ดินก็ทรุดตัวหนักซึ่งเดิมตนคิดจะไปนอนเฝ้าร้านแต่ปรากฏว่าติดธุระจึงโชคดีไม่ได้นอนเฝ้าก็ไปดูร้านตอนเช้า ปรากฏว่าดินเกิดการทรุดตัวมาอย่างหนักอีกจนต้องออกจากร้าน กระทั่งเวลา 08.00 น.ดินทรุดหนักและพาเอาอาคารทั้ง 5 หลังทรุดลงไปในหุบเขาจนหมด โดยขนย้ายทรัพย์สินใดๆ ออกมาไม่ทันเลยจึงถือว่าเสียหายอย่างมาก

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ด้านเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงเชียงรายที่ 2 ฝ่ายปกครอง และ สภ.เทิงได้นำแผงกั้นและกรวยมาวางกั้นเพื่อไม่ให้รถสัญจรไปมาและตักเตือนไม่ให้ผู้คนเดินผ่านเพราะดินอาจทรุดตัวลงไปได้ทุกเมื่อ ขณะเดียวกันได้มีการขนสะพานแบริ่งไปติดตั้งคาดว่าจะไปถึงพื้นที่ในวันที่ 1 ส.ค.นี้ โดยเป็นสะพานยาวประมาณ 75 เมตรและสามารถต่อเติมได้หากมีความจำเป็น ส่วนการก่อสร้างถนนใหม่นั้นจะต้องมีการปรับพื้นที่ คาดว่าใช้ระยะเวลาหลังได้รับประมาณ 180 วัน ใช้งบประมาณ 15 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น