xs
xsm
sm
md
lg

คนริมน้ำแควน้อยระวัง ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - เผยระดับน้ำริมแม่น้ำแควน้อย เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง แนะประชาชนอย่าตื่นตระหนก พร้อมเก็บทรัพย์สินย้ายขึ้นที่สูง ส่วนผู้ประกอบการระวังเศษสวะติดแพ ขวางทางน้ำไหล อาจกระชากหลุดได้

วันนี้ (31ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบสภาพน้ำในเว็บไซต์ของเขื่อนวชิราลงกรณ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พบว่า เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ผ่านมา ระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ 150.44 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ระดับน้ำท้ายเขื่อนอยู่ที่ 85.09 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง

ปริมาณน้ำกักเก็บปัจจุบัน อยู่ที่ 7,187.46 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 81.12% ปริมาณน้ำที่ใช้งานได้ 4175.46 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 71.40% อ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ สามารถรับน้ำได้อีก 1672.54 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 18.88 เปอร์เซ็นต์ น้ำระบายผ่านเครื่อง 12.67 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนการระบายน้ำผ่านสปีลเวย์นั้นยังไม่มี

โดยเมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้อำนวยการกลาง มีโทรสารในราชการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ด่วนที่สุด ถึง ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้อำนวยการจังหวัด แม่ฮ่องสอน เชียงราย น่าน ตาก เพชรบูรณ์ กาญจนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล

ซึ่งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศปริมาณฝนสะสม สถานการณ์น้ำท่า และปัจจัยเสี่ยงเชิงพื้นที่ พบว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ในหลายพื้นที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก ทำให้มีภาวะเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก และเนื่อง จากดินในหลายพื้นที่เริ่มชุ่มน้ำแล้ว ทำให้มีความอ่อนไหวที่อาจก่อให้เกิด “ดินถล่ม” ในพื้นที่ได้โดยง่าย จึงให้จังหวัดทำการเฝ้าระวังสถานการณ์อุทกภัย น้ำไหลหลาก โดยเฉพาะดินถล่มอย่างใกล้ชิด โดยจังหวัดกาญจนบุรี เป็น 1 ใน 5 จังหวัดภาคกลางที่มีภาวะเสี่ยง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการวัดระดับน้ำ ช่วงเวลา 08.00 น.ที่ผ่านมา ที่เขื่อนวชิราลงกรณ ระบายน้ำลงสู่แม่น้ำแควน้อย พบว่า ระดับน้ำที่สถานี K.54 อ.ทองผาภูมิ ระดับตลิ่ง 7.50 เมตร อัตราการไหล 890.00 ลบ.ม./ต่อวินาที ศูนย์เสาระดับ +60.60 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ที่สถานี K.58 อ.ไทรโยค ระดับตลิ่ง 7.60 เมตร อัตราการไหล 700.00 ลบ.ม./วินาที ศูนย์เสาระดับ +39.50 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง

ที่สถานี k.10 อ.ไทรโยค ระดับตลิ่ง 10.30 เมตร อัตราการไหล 950.00 ลบ.ม./วินาที ศูนย์เสาระดับ +30.40 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ที่สถานี K.37 อ.เมืองกาญจนบุรี ระดับตลิ่ง 11.65 เมตร อัตราการไหล 2,300.00 ลบ.ม./วินาที ศูนย์เสาระดับ +19.80 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และที่สถานี K.11A เขื่อนแม่กลอง อ.ท่าม่วง ระดับตลิ่ง 6.20 เมตร ศูนย์เสาระดับ +9.70 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง

สำหรับเขื่อนวชิราลงกรณ อยู่ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรี 153 กิโลเมตร เป็นเขื่อนหินถมดาดหน้าด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก สูง 92 เมตร สันเขื่อนกว้าง 10 เมตร ยาว 1,019 เมตร กั้นลำน้ำแควน้อย และเป็นเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ

การระบายน้ำออกจากเขื่อนลงสู่แม่น้ำแควน้อย มวลน้ำจะไหลไปบรรจบกับแม่น้ำแควใหญ่ กลายเป็นต้นแม่น้ำแม่กลอง ที่บริเวณถนนริมน้ำหน้าเมืองกาญจนบุรี โดยมีพื้นที่ต้องเฝ้าระวัง จำนวน 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ทองผาภูมิ อ.ไทรโยค อ.เมืองกาญจนบุรี อ.ท่าม่วง และ อ.ท่ามะกา

จึงฝากเตือนผู้ประกอบการชาวเรือ-ชาวแพ รวมทั้งรีสอร์ตต่างๆ ที่ให้บริการแพล่อง หรือแพพักที่อยู่ริมแม่น้ำแควน้อย ให้ดำเนินการผูกแพให้แข็งแรงและมั่นคง นอกจากการผูกแพให้มั่นคงแล้ว จะต้องคอยสังเกตใต้แพอย่างละเอียดด้วยว่า มีเศษไม้เศษสวะลอยมาติดใต้ท้องแพหรือไม่

หากพบก็ขอให้รีบจัดเก็บแล้วขนย้ายนำขึ้นไปไว้บนฝั่ง เพื่อป้องกันไม่ให้เศษไม้หรือเศษสวะเหล่านั้นลอยไปติดแพที่อยู่ด้านล่างได้ หากยังนิ่งเฉยเศษไม้และสวะที่ติดอยู่ใต้ท้องแพจะไปขวางทางน้ำ มวลน้ำที่ไหลมา และมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจจะกระชากแพหลุดลอยไปตามแม่น้ำก็เป็นได้

ส่วนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มและริมฝั่งแม่น้ำแควน้อย และแม่น้ำแม่กลอง ก็ขอให้สังเกตปริมาณน้ำตามตลิ่งอย่างใกล้ชิด หากพบระดับน้ำสูงขึ้นผิดปกติ ก็ขอให้รีบเก็บทรัพย์สินที่มีค่า รวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า และที่นอนเอาไปไว้บนที่สูง เพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สิน และตัวของท่านเอง

สำหรับการเตือนก็เพื่อต้องการให้ประชาชน และผู้ประกอบการรู้สึกตื่นตัว แต่ไม่ต้องตื่นตระหนก หรือตกใจ เพราะทุกคนจะต้องพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา





กำลังโหลดความคิดเห็น