กาญจนบุรี - เตือนประชาชน ริมฝั่งแม่น้ำแควน้อย-แม่กลอง เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง หลังเขื่อนวชิราลงกรณ ระบายน้ำเพิ่มวันละ 5 ล้าน ลบ.ม. คาดสูงขึ้น 50 ซม. เผย ชาวบ้านขาด เกลือกะปิ น้ำพริก และ เสื้อผ้าเด็ก ส่วนไร่นาเสียหาย เต็มไปด้วยโคลน
วันนี้ (25 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน นายไพรัช ทับประเสริฐ ผู้อำนวยการ ส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 13 ต.ม่วงขุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ได้มีหนังสือที่ กษ0322/676/2561 ถึง นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เรื่องขอแจ้งการปรับเพิ่มการระบายน้ำ โดยระบุว่า
ตามที่ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีบริเวณพื้นที่รับน้ำเหนือเขื่อนวชิราลงกรณ อ.ทองผาภูมิ ในช่วงวันที่ 18-20 กรกฎาคม 61 จากอิทธิพลของพายุโซนร้อนเซินติญ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง
ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลสู่เขื่อนวชิราลงกรณจำนวนมาก ประกอบกับการคาดการณ์ลักษณะอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า จะมีฝนตกอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการควบคุมปริมาณน้ำ ในเขื่อนวชิราลงกรณ ให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุมที่เหมาะสม
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และ กรมชลประทาน ได้พัฒนาแนวทางการบริหารจัดการน้ำร่วมกันและได้นำเข้าพิจารณาในที่ประชุม คณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำในวันที่ 23 กรกฎาคม 61 ที่ประชุมเห็นควรปรับเพิ่ม อัตราการระบายน้ำจากเขื่อนวชิราลงกรณ ในช่วงระหว่างวันที่ 24-29 กรกฎาคม 61 จำนวนวันละ 5 ล้านลูกบาศก์เมตร จากเดิมอัตราวันละ 23 ล้านลูกบาศก์เมตรเป็น 28 ล้านลูกบาศก์เมตร
โดยให้สำนักงานชลประทานที่ 13 แจ้งเตือนผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนได้รับทราบ ซึ่งจากการปรับเพิ่มการระบายน้ำดังกล่าว จะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำแควน้อยและแม่น้ำแม่กลอง มีระดับสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 50 เซนติเมตร จึงขอประชาสัมพันธ์ให้จังหวัดได้รับทราบ และขอความกรุณาแจ้งให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องผู้ประกอบการตลอดจนประชาชนที่อยู่ใกล้แม่น้ำที่อาจได้รับผลกระทบได้รับทราบ
ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 13 จะได้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด รวมทั้งการแจ้งเตือนเป็นระยะๆ ต่อไป จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สำนักงานชลประทานที่ 13 ได้รายงานให้ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และ นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน ได้รับทราบแล้ว ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ด้าน นายอารุณ ปินตา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กาญจนบุรี ได้สรุปสถานการณ์การเกิดอุทกภัย ดินโคลนถล่ม ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี ในขณะนี้ คือ สถานการณ์บ้านเสน่พ่อง ระดับน้ำในลำห้วยเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในขั้นปลอดภัย มีฝนตกเล็กน้อย ตอนเย็นฟ้าเปิด โรงเรียน ตชด. สุนทรเวช เร่งฟื้นฟู คาดว่าสามารถเปิดเรียนได้ในวันที่ 31 ก.ค. นี้ ส่วนราษฎรที่อาศัยในศูนย์พักพิง คงเหลือ จำนวน 40 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็ก โดยทางสาธารณสุข เฝ้าระวังโรค เช่น โรคฉี่หนู โรคน้ำกัดเท้า และโรคไข้หวัด
ส่วนสถานการณ์บ้านเกาะสะเดิ่ง พบว่า ระดับน้ำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในพื้นที่ยังมีฝนตกเป็นระยะ โดยผลการตรวจสภาพราษฎรต้องการเครื่องใช้ในครัว เช่น เกลือ กะปิ น้ำพริก และเสื้อผ้าเด็ก มีบ้านเรือนเสียหาย จำนวน 6 หลัง พืชผลการเกษตรส่วนใหญ่เสียหาย แปลงนามีทรายปกคลุม คาดว่า ปีนี้ไม่สามารถทำนาได้ และวันนี้ (25 ก.ค.) อ.สังขละบุรี ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หารือแนวทางการส่งสิ่งของไปบ้านเกาะสะเดิ่ง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย