xs
xsm
sm
md
lg

“13 หมูป่าอะคาเดมี” เปิดใจก่อนกลับบ้าน ขอบวชยกทีมอุทิศให้ “พี่จ่าแซม”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เชียงราย - ผู้ว่าฯ เมืองพ่อขุนฯ แพทย์ นักจิตวิทยา พร้อมหมอภาคย์ และหน่วยซีล นำ 13 หมูป่าอะคาเดมีแถลงผ่านรายการ “เดินหน้าประเทศไทย” ย้ำต้องดูแลถึงบ้าน-โรงเรียนให้อยู่ได้ตามวิถีปกติ ขณะที่นักเตะ-โค้ชพร้อมบวชยกทีม อุทิศให้ “พี่จ่าแซม”


เมื่อเวลา 18.00 น.วันนี้ (18 ก.ค.) นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย, นายแพทย์ ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์, พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน หรือหมอภาคย์ พร้อมด้วยทหารจากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หรือหน่วยซีล 3 นาย และจิตแพทย์-นักจิตวิทยา นำทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีแม่สายทั้ง 13 คนแถลงข่าว “ส่งหมูป่ากลับบ้าน” ที่อาคารคชสาร องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย ซึ่งมีการถ่ายทอดผ่านรายการเดินหน้าประเทศไทย โดยมีนายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโสชื่อดังเป็นพิธีกรดำเนินรายการ

โดยนักเตะ-โค้ชทีมหมูป่าฯ ทุกคนแต่งกายด้วยชุดกีฬา คือสวมกางเกงขาสั้นสีดำ เสื้อยืดสีขาว มีรูปหมูป่าสีแดงและภาษาอังกฤษว่า ACADEMY ตามชื่อทีม หน้าตาร่าเริงแจ่มใส ขณะที่พ่อแม่ผู้ปกครองได้สวมใส่เสื้อเหลืองรออยู่หน้าเวทีด้วยจิตใจที่เบิกบาน ท่ามกลางสื่อมวลชนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ


ในการการแถลงข่าว แพทย์และนักจิตวิทยาต่างระบุว่าทั้งหมดมีความพร้อมทั้งกายและใจ สามารถส่งกลับบ้านได้ จากนั้นเยาวชนและโค้ชทั้งหมดได้แนะนำตัวพร้อมทั้งตำแหน่งที่ตัวเองเล่นภายในทีม

ขณะที่ส่วนเรื่องราวที่น่าสนใจส่วนใหญ่คือข้อสงสัยต่างๆ ที่สังคมอยากทราบเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวจากปาก 13 หมูป่าฯ ซึ่งทางนายสุทธิชัยได้สอบถาม โดยน้องๆ นักเตะ และนายเอกพล จันทะวงษ์ หรือโค้ชเอก อายุ 25 ปี ระบุว่า หลังจากได้ไปลงสนามเตะฟุตบอลอุ่นเครื่องกันระหว่างสายเหนือกับสายใต้ภายในทีมเดียวกัน ก็ได้เข้าไปในถ้ำหลวงเมื่อ 23 มิ.ย.

เพราะมีหลายคนในทีมที่ต้องการไปเที่ยวถ้ำหลวง ไม่เกี่ยวกับการฉลองวันเกิดน้องไตเติ้ล ตอนแรกจะออกมาทันให้น้องไตเติ้ลกลับไปฉลองวันเกิดที่บ้าน ซึ่งพ่อแม่เตรียมจัดให้ที่บ้าน และให้ทันส่งน้องตั๊นไปเรียนพิเศษด้วย โดยพากันเข้าถ้ำไปจนถึงบริเวณสามแยก ลึกประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งโค้ชเอกเคยเข้าไปมาแล้ว และยังเคยเดินทะลุโพรงตรงสามแยก-หาดพัทยา-เนินนมสาว ไปจนถึงเมืองลับแลหรือเมืองบาดาลมาแล้ว

ซึ่งเมื่อทั้งหมดเดินเข้าไปถึงสามแยก โค้ชเอกก็ได้สอบถามน้องๆ ว่าจะไปต่อหรือไม่ เมื่อมีคนขานรับก็พากันเดินผ่านสามแยกเข้าโพรง เมื่อไปถึงจุดที่เรียกว่าเมืองลับแล พบเป็นทางน้ำลึก จึงให้น้องตี๋ ซึ่งเก่งเรื่องการดำน้ำนำไปก่อน จากนั้นคนอื่นๆ ที่ว่ายน้ำเป็นกันหมดว่ายตามไปถึงฝั่งแล้วจึงว่ายน้ำกลับเพื่อกลับออกจากถ้ำทางเดิม แต่เมื่อถึงบริเวณสามแยกปรากฏว่าน้ำท่วมหมดจนออกมาไม่ได้ ก็พากันขึ้นไปอยู่บนเนินหินเพราะน้ำขึ้นสูงถึง 3 เมตร และติดอยู่ในถ้ำอาศัยน้ำหยด-ธารน้ำในถ้ำประทังหิว โดยที่ไม่มีข้าว หรือขนมกินเพราะไม่ได้เตรียมไปด้วย รวมทั้งพยายามใช้หินผลัดกันขุดเจาะผนังถ้ำหาทางออก แต่ก็ไม่เป็นผล จนกระทั่งผ่านไป 10 วันทีมกู้ภัยค้นหาพบและเข้าไปช่วยเหลือ

ทั้งนี้ เด็กๆ ทั้งหมดต่างเล่าถึงประสบการณ์ภายในไปทำนองเดียวกันคือ รู้สึกหิวข้าวเมื่อผ่านไปได้ 2-3 วัน เกิดอาการอ่อนเพลียกระทั่งได้รับการช่วยเหลือ เมื่อเจ้าหน้าที่ไปพบก็มีความผูกพันกับหมอภาคย์และหน่วยชีลทั้ง 3 นายที่อยู่ใกล้ชิด คอยช่วยเหลือพูดคุย พาเล่นเกมหมากฮอส ฯลฯ

กระทั่งถึงเวลาต้องออกจากถ้ำมีเกณฑ์ในการเลือกคนไปก่อนหลัง โดยหมอภาคย์และหน่วยซีลระบุว่าเนื่องจากทั้งหมดมีสุขภาพกายและใจดีเหมือนกันหมดแล้ว จึงให้โค้ชเอกเลือก ซึ่งก็ได้ตกลงกับเด็กๆ โดยใช้เกณฑ์คนบ้านไกล คือ บ้านเวียงหอม ต.แม่สาย จำนวน 4 คนออกจากถ้ำก่อน เพราะหวังว่าเมื่อคนอยู่ไกลออกจากถ้ำจะได้ถึงบ้านก่อน เนื่องจากต้องปั่นจักรยานไปอีกไกล และจะได้บอกข่าวญาติพี่น้องข้างนอกว่าทุกคนปลอดภัยดีแล้ว ให้เตรียมอาหารรอด้วย

นายเอกพลกล่าวว่า รู้สึกเสียใจต่อการจากไปของนาวาตรี สมาน กุนัน หรือจ่าแซม ที่เข้าไปช่วยเหลือ ตอนที่ทุกคนทราบข่าวก็รู้สึกช็อก เสียใจและคิดเหมือนกันว่าตัวเองเป็นต้นเหตุให้ครอบครัวของท่านต้องเสียใจ จึงขอให้พี่จ่าแซมไปสู่สุคติ และพวกตนทุกคนจะบวชพร้อมกัน จะกำหนดให้บวชกี่วันก็ได้เพื่อจะได้อุทิศส่วนกุศลให้พี่จ่าแซม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายโค้ชเอกและเด็กๆ ทุกคนได้แสดงความรู้สึกไปในทำนองเดียวกันว่าทุกคนขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และรับปากว่าจะเป็นคนดี ไม่ประมาท จะพิจารณาว่าสิ่งใดควรไม่ควร รวมทั้งขอโทษต่อครอบครัวของจ่าแซม ซึ่งมีการนำภาพวาดจ่าแซมที่น้องๆ นักเตะและโค้ชทีมหมูป่าฯ เขียนข้อความไว้อาลัยถึงจ่าแซมมาโชว์บนเวทีด้วย

เมื่อถามว่าจะเข้าไปในถ้ำกันอีกหรือไม่ ส่วนใหญ่บอกไม่เอาแล้ว ยกเว้นโค้ชเอก ที่บอกว่าถ้ามีคนให้ไปส่งก็จะไป แต่จะไปส่งถึงแค่หน้าถ้ำเท่านั้น

ทั้งนี้ จิตแพทย์ และนักจิตวิทยาได้ย้ำให้สังคมเข้าใจทั้ง 13 คน และให้พพวกเขาได้ใช้ชีวิตตามปกติ โดยไม่มีสิ่งใดพิเศษเพื่อให้มีพัฒนาการที่ดีมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดก็เป็นเด็กเรียนดี และเป็นนักกีฬาที่มีพัฒนาการที่ดีอยู่แล้วด้วย รวมทั้งให้เลี่ยงการถามความรู้สึกเกี่ยวกับเหตุการณ์ หรือเปิดให้ปฏิเสธที่จะตอบคำถามใดๆ ที่สำคัญคือ ให้ได้ใช้ชีวิตกับครอบครัว การเรียน และกีฬาไปตามปกติต่อไป

นายประจญกล่าวว่า หลังจากเด็กๆ กลับบ้านแล้ว ทางสำนักงาน พม.จะเป็นหน่วยงานที่เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด และตามกฎหมายพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กปี 2546 จะมีทางอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจ สาธารณสุข ฯลฯ เข้าไปดูแลด้วย โดยจะรายงานให้ตนทราบทุกระยะ รวมทั้งมีการประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ จนกว่าจะกลับสู่ภาวะปกติ

“ประเด็นที่ว่ามีเด็กๆ ในทีม 4 คนที่ยังไม่ได้สัญชาติไทยนั้น ทราบว่าทั้งหมดได้ยื่นขอสัญชาติไปที่ที่ว่าการ อ.แม่สายแล้ว ขณะนี้กระบวนการอยู่ที่ฝ่ายทะเบียนอำเภอ ซึ่งจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป”

จากนั้นผู้ว่าราชการ จ.เชียงรายได้มอบของที่ระลึกให้แก่ทั้ง 13 คน และให้ครอบครัวพาทั้งหมดเดินทางกลับบ้านได้ โดยก่อนออกจากห้องประชุมทุกคนได้ยืนเรียงแถวและขอบคุณสังคม จากนั้นพ่อแม่ผู้ปกครองแต่ละคนก็พาไปขึ้นรถตู้ 5 คันที่จอดรอยู่ที่ด้านหน้าอาคารคชสาร เพื่อพาเดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างเรียบง่าย




กำลังโหลดความคิดเห็น