xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) ทีมหมูป่าเปิดใจ 10 วันในถ้ำกินแต่น้ำ ขุดดินหาทางออกตลอด ก่อนเจอนักประดาน้ำอังกฤษ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


วันนี้ (18 ก.ค.) ที่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เปิดใจ 13 หมูป่าอะคาเดมีแม่สาย เวลา 18.00 น. ผ่านรายการเดินหน้าประเทศไทย โดยคำถามที่ใช้ผ่านการคัดกรองจากนักจิตวิทยา จำกัดเวลาเพียง 45 นาที ในการถาม-ตอบ

ต่อมาเวลา 18.00 น. คุณสุทธิชัย หยุ่น ดำเนินหน้าที่เป็นพิธีกร ยืนยันว่าคำถามได้ถูกคัดเลือกจากทางนักจิตวิทยาเรียบร้อยแล้ว หากให้ห้องมีคำถามให้เขียน และส่งมาทางทีมงานเพื่อคัดกรองก่อน

พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน หรือหมอภาคย์ เปิดเผยว่า น้องๆ น่าจะพร้อมตั้งแต่ในถ้ำแล้วด้วยซ้ำ หลังจากได้อาหารไปภายในถ้ำหลวงแล้วทำให้น้องๆ คุยกันมากขึ้น พูดคุยเรื่องกินกันมากขึ้น มีเมนูแนะนำ ไส้อั่วงู ทั้งนี้ หมอภาคย์บอกว่า มีนัดกับน้องๆ ที่จะไปเที่ยวที่ค่าย กองพันเสนารักษ์ กันในช่วงปิดเทอม

แพทย์ประเมินด้านสุขภาพจิต ผ่านกิจกรรมต่างๆ ซึ่งก็ยืนยันเช่นเดิมว่าน้องๆ มีความเข้มแข็งดี พร้อมสามารถรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้

ด้าน เด็กชายอดุลย์ สามออน อายุ 14 ปี กล่าวว่า ระหว่างที่กำลังขุดดิน-หลุม ได้ยินเสียงคนคุยกัน จึงหยุด เรียกกันหันมาดูทางต้นเสียง แล้วเลยเรียกให้น้องมิกซ์ลงไป เป็นจังหวะที่ได้ยินเสียงก็ลงไปทักทาย แวบแรกน้องๆ คิดว่าเป็นคนไทย แต่ก็ตกใจ เลยได้แค่ทักทายกันไปมา

นายเอกพล จันทะวงษ์ หรือโค้ชเอก อายุ 25 ปี ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน คือเจ้าของคำว่า แปลหน่อยดิๆ ทั้งนี้ทุกคนดีใจมาก ที่ได้เจอนักดำน้ำชาวอังกฤษ ในตอนนั้นเป็นความหวังแรกในรอบ 10 วัน หลังจากนั้นน้องๆ บอกว่า ต่อมาก็บอก Eat Eat Eat อย่างเดียว เพราะหิว ทั้งนี้ น้องๆ ได้ดูบอลโลกรอบชิง คืนนั้นดูได้ เพราะหมออนุญาต และแบ่งกันเชียร์ชัดเจน

โค้ชเอกกล่าวต่อว่า น้องๆ อยากไปเที่ยวถ้ำหลวง วางแผนไว้ล่วงหน้า ไปเล่นฟุตบอลอุ่นเครื่องกัน หลังจากอุ่นเครื่องเสร็จก็ไปเที่ยวถ้ำกัน เพราะทุกคนอยากไป น้องๆ บางคนยังไม่เคยไปเลยอยากเห็น โค้ช และ น้องๆ บางคน เคยไปถึงจุดเนินนมสาว ซึ่งครั้งแรกไปเจอตรงจุดสามแยกมีน้ำนิดๆ ครั้งนี้ก็เช่นกัน โค้ชให้เวลา 1 ชม.ในการเข้าไป แผนคือเข้าไปแล้วกลับออกมา ซึ่งน้องไนท์ มีพ่อกับแม่ จัดงานวันเกิด รออยู่ที่บ้าน และยังชวนพี่ๆ คนอื่นด้วย ซึ่งเมื่อเข้าไปถึงจุดที่เรียกว่าเมืองลับแล เจอน้ำท่วมอยู่ ทั้งหมดตกลงกันว่าจะไปกันต่อโดยว่ายน้ำไป ซึ่งมีน้องบ้างคนว่ายน้ำไม่เป็น แต่ส่วนใหญ่ว่ายน้ำกัน ระหว่างน้องตี๋ว่ายไป ก็เช็คระดับน้ำอยู่ ซึ่งก็ไม่ลึก ทั้งหมดเลยไปต่อ ซึ่งไปถึงจุดเป็นเนิน และจุดที่ไปต่อมีน้ำ ก็เลยตกลงกันว่า จะถอยทัพก่อนเพราะหมดเวลาแล้ว ซึ่งก็ว่ายน้ำกลับมาตามปรกติ ซึ่งตรงจุด 3 แยกน้ำท่วมแล้ว

โค้ชเอกกล่าวต่อว่าจึงจะขอไปสำรวจดู โดยถือเชือกไปด้วย ตกลงกับน้องๆ ว่า ถ้ากระตุกเชือก 2 ครั้งแสดงว่าไปไม่ได้แล้วซึ่งไปแล้วก็พบว่าไปไม่ได้ จึงกระตุกเชือกให้น้องๆ ดึงกลับ แล้วกลับมาบอกน้องๆ ว่าออกไม่ได้ ต้องหาทางออกใหม่ น้องๆ บางคนก็ห่วง กลัวแม่ด่า คิดว่าเดี๋ยวคงออกได้ เดี๋ยวก็หาทางออกได้ บอกทุกคนสู้ต่อ ทุกคนมีกำลังใจดีมาก ต้องใช้การกระตุกเชือกกันเพราะว่า ส่งเสียงแล้วไม่ได้ยิน หมอภาคย์ ยืนยันว่าถ้าน้ำมันอุดเต็มไม่ได้ยินเสียงแน่ๆ ตอนนั้นเวลาประมาณ 6 โมง ก็เริ่มขุดหาทางออก ซึ่งน้องตี๋เสนอให้ไปหาที่นอนกันก่อน เนื่องจากมันเริ่มเย็นมากแล้ว โค้ชเชื่อว่า คงเป็นปรากฏการณ์น้ำขึ้น-ลงปกติ จึงเตรียมค้างคืนแทน จึงถอยเข้าไปในถ้ำ เพื่อหาจุดพักนอน ไปเจอเนินทราย ซึ่งมึน้ำหยดลงมา จึงเลือกพักตรงจุดนั้น ยืนยันไม่มีอาหารเข้าไปด้วย เพราะอาหารที่ซื้อนั้น กินกันแค่ตอนซ้อม ก่อนนอนมีการสวดมนต์ ซึ่งมีการหาแหล่งน้ำกินในถ้ำจะเป็นน้ำจากหินย้อย รสชาติเหมือนน้ำเปล่าทั่วไป ยืนยันกินน้ำกันอย่างเดียว โดยวันแรกยังไม่รู้สึกว่าเป็นอะไรมาก แต่ก็วันหลังๆ เริ่มรู้สึกร่างกายอ่อนแอลง การใช้ไฟนั้น จะมีการเก็บไฟฉายที่ไฟแรงๆ เก็บไว้หลังๆ และเอาตัวที่ไฟอ่อน มาใช้ก่อน ซึ่งก็ใช้ได้ราว 10 วัน มีอาการหน้ามืดบ้าง ไม่มีแรง หิว ระหว่างที่หิวมาก พยายามไม่นึกถึงภาพอาหาร ให้เหตุผลว่าจะได้ไม่หิวมากกว่าเดิม คิดถึงข้าวผัด น้ำพริกอ่อง ด้วย ก็อาศัยกินน้ำให้อิ่ม ว่างๆ ก็ไปขุดผนังถ้ำ โดยใช้ก้อนหิน ก็ขุดกันไปได้ 3-4 เมตร

โค้ชเอก กล่าวต่อว่า การขุดนั้นเริ่มต้นกันช่วงวันที่ 4-5 แล้ว ซึ่งเคยมีน้อง 2 คนที่เคยมาแล้ว พอทราบว่า ปลายทางนั้นอาจจะมีทางออก แต่ก็ตกลงกันว่าจะเอายังไงดี ซึ่งจุดที่เนินนมสาวเป็นจุดหลัก ระหว่างนั้นเริ่มเจอน้ำไหลมา จึงขึ้นที่สูงที่สุดตรงเนินนมสาวยืนยันไม่ได้ยินเสียงฝนตก ได้ยินแค่เสียงน้ำไหลมา ซึ่งไม่สามารถไปไหนต่อได้ ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ก็เลยตัดสินใจขุดหาทางออก ก่อนการขึ้นไปขุดจะกินน้ำให้อิ่มเลย ซึ่งวันหลังๆ น้ำก็จะเริ่มตกตะกอนแล้ว ก็พอจะกินกันได้บ้าง

พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน กล่าวว่า หลังจากพบเด็กแล้ว จึงได้ดำน้ำเข้าไปหา พิจารณาอนุบาลร่างกายให้แข็งแรงก่อน แต่สิ่งหนึ่งที่คิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ คือการดำน้ำออกทางเดิม ส่วนตัวอยากให้เจาะโพรง เพราะว่ามันยากลำบากมาก ทุกคนยังเด็ก เพราะว่าจะต้องดำน้ำออกมา ซึ่งก็มารู้แผนทีหลังจากทีมนำเสบียงไปส่งแล้ว เพราะกองอำนวยการฯ เป็นคนวางแผนนำน้องๆ ออก

หน่วยซีลใบเตยกล่าวว่า ดำเนินการตามคำสั่งของ ผบ.หน่วยซีล ไม่เจอเด็ก ไม่กลับออกไป และคิดในใจว่าภารกิจนี้ต้องสำเร็จ ทดสอบกำลังใจ ก็ถามทีมหมูป่าว่า หมูป่าสู้ไหม หลังจากนั้นก็ขึ้นไป 18+ แก้ผ้าหมดเลย เพราะว่ามีเพาเวอร์เจล และฟอยล์ ยา ไฟฉาย สำหรับการห่ม ไม่พอเพราะเราเอาฟอยล์มาปูพื้น อากาศจะชื้นเย็นตลอด เพราะว่าจะนอนไม่ได้ เหลือเศษเล็กๆ มาพันเป็นเกาะอก ถือเป็นหน่วยซีลที่เซ็กซี่ที่สุด

เด็กๆ กล่าวว่า มีพี่ใบเตยเป็น King of Cave ของการเล่นหมากฮอสภายในถ้ำ น้องๆ ผูกพันกับพี่ทีมซีล เพราะอยู่ด้วยกัน กินด้วยกัน นอนด้วยกันตลอด มีน้องเรียกพี่ใบเตยเรียกว่าพ่อ เพราะพี่ใบเตยเรียกน้องว่าลูก หมอภาคย์กล่าวว่า ทั้งหมดผูกพันกันจริงๆ เพราะว่าต้องดูแลกันทั้งหมด มองน้องๆ เหมือนลูก ซีลท่านอื่นก็มีลูกด้วยเช่นกัน

โค้ชเอกกล่าวว่า หลังจากรู้เรื่องจ่าแซม “นาวาตรี สมาน กุนัน” ความรู้สึกแรกคือช็อก รู้สึกเสียใจ และภูมิใจตัวจ่าแซมที่ได้เสียสละตัวเองช่วยเหลือน้องๆ ทั้ง 13 คน ตอนที่น้องๆ รู้ว่ามีคนเสียสละชีวิตให้น้องๆ รู้สึกว่าตัวเองเป็นสาเหตุให้พี่จ่าเสียชีวิต ตอนนั้นหมอมีรูปของจ่าแซมมาให้ ซึ่งน้องๆ ก็เลยเขียนข้อความที่เป็นความในใจซึ่งก็คิดว่าน่าจะมีคนส่งไปให้ครอบครัวจ่าแซม

โค้ชเอกกล่าวว่า สำหรับบทเรียนในครั้งนี้ คือ ซาบซึ้งในน้ำใจของทุกๆ คน และจะใช้สติอย่างมีประโยชน์ และจะใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท

ด้านน้องตี๋บอกว่าได้เรียนรู้เรื่องอุทกภัยในครั้งนี้ ตั้งใจจะเป็นคนดีต่อไป

ด้านน้องอดุลย์ คิดว่าการประมาทในชีวิต เป็นสิ่งที่เราไม่ได้คาดว่าจะเกิดอะไร สิ่งที่ไม่คิดในครั้งนี้เนี่ย ทำให้ได้บทเรียน จะใช้ชีวิตให้คุ้มค่ามากที่สุด ประสบการณ์การครั้งนี้ ถือว่าเป็นประสบการณ์ต่างๆ ที่ทำให้ผมอดทนเข้มแข็ง ไม่ท้อ ซึ่งส่วนใหญ่อยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ อยากเรียนจบสูงๆ

โค้ชเอกกล่าวต่อว่า ถ้ามีคนชวนไปถ้ำหลวงอีก คงเป็นไกด์ให้แค่หน้าถ้ำ

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายกล่าวว่า ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งได้มอบให้ทีมสหวิชาชีพไปดูแลต่อเนื่อง ซึ่งนายอำเภอ - ท้องถิ่นเข้าไปดูแล ต้องรู้-ต้องรับทราบในการเข้าไป กรณีมีใครไปหาน้องๆ

หมอภาคย์กล่าวต่อว่า น้องมาร์ค ละเมอว่าอยากกินโจ๊ก เพราะวันแรก 6 คน หาหน้ากากไม่ได้ วันที่ 2 ก็เช่นกัน ทำให้ผิดหวังที่จะได้ออกมา 2 วัน เลยละเมอออกมาอยากกินโจ๊ก

โค้ชเอกกล่าวว่า หน่วยซีลให้สิทธิ์การเลือกออกมาจะมีโค้ช หน่วยซีล ในการเลือกออก ทุกคนบอกว่าใครออกก่อนก็ได้ ชุดแรกออกคือ น้องๆ สายใน บ้านเวียงหอม ซึ่งน้องๆ อยู่ไกลสุด จะได้ปั่นกลับบ้านได้ก่อน สรุปตรงนี้คือ คนบ้านไกลไปก่อน พอน้องๆ สมัครใจ

โค้ชเอกกล่าวว่า สำหรับบทเรียนในครั้งนี้ คือ ซาบซึ้งในน้ำใจของทุกๆ คน และจะใช้สติอย่างมีประโยชน์ และจะใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท ด้าน น้องตี๋บอกว่าได้เรียนรู้เรื่องอุทกภัยในครั้งนี้ ตั้งใจจะเป็นคนดีต่อไป

ด้านน้องอดุลย์คิดว่าการประมาทในชีวิต เป็นสิ่งที่เราไม่ได้คาดว่าจะเกิดอะไร สิ่งที่ไม่คิดในครั้งนี้เนี่ย ทำให้ได้บทเรียน จะใช้ชีวิตให้คุ้มค่ามากที่สุด ประสบการณ์การครั้งนี้ ถือว่าเป็นประสบการณ์ต่างๆ ที่ทำให้ผมอดทนเข้มแข็ง ไม่ท้อ ซึ่งส่วนใหญ่อยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ อยากเรียนจบสูงๆ

โค้ชเอกกล่าวต่อว่า ถ้ามีคนชวนไปถ้ำหลวง อีก คงเป็นไกด์ให้แค่หน้าถ้ำ

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งได้มอบให้ทีมสหวิชาชีพไปดูแลต่อเนื่อง ซึ่งนายอำเภอ ท้องถิ่นเข้าไปดูแล ต้องรู้-ต้องรับทราบในการเข้าไป กรณีมีใครไปหาน้องๆ

หมอภาคย์กล่าวต่อว่า น้องมาร์คละเมอว่าอยากกินโจ๊ก เพราะวันแรก 6 คนหาหน้ากากไม่ได้ วันที่ 2 ก็เช่นกัน ทำให้ผิดหวังที่จะได้ออกมา 2 วัน เลยละเมอออกมาอยากกินโจ๊ก

เด็กๆ ทุกคน ขอโทษผู้ปกครองที่เข้าถ้ำแล้วไม่ได้บอก ซึ่งบอกแค่ว่าไปเล่นฟุตบอลกันเท่านั้น ส่วนใหญ่ตอนติดอยู่ในถ้ำทุกคนบอกว่าออกไปโดนพ่อแม่ด่าแน่ๆ ขนาดเข้าบ้านดึกพ่อกับแม่ยังด่าเลย เรามาติดกันนานแล้วเป็นสิบวัน ออกไปรับรองได้นอนหน้าบ้านแน่นอน ทุกคนปรึกษา พร้อมใจกันบวชให้จ่าแซมซึ่งก็จำนวนวันก็ว่าตามโค้ชเอก

ด้านนักจิตวิทยากล่าวว่า อยากให้น้องๆ กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมให้เร็วที่สุด เป็นปรกติ มีการบ้านเหมือนเดิม ไม่ต้องมีสิทธิพิเศษอะไร อยากให้ทุกคนมี พื้นที่ส่วนตัว มีเวลาอยู่กับครอบครัว กิจกรรมที่รัก คำถามที่จะทำให้อึดอัดใจ ต้องให้เวลา ให้โอกาสน้องๆ เลือกปฏิเสธไม่ตอบได้ น้องๆ นิสัยดี เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน มีเป้าหมายในชีวิต หมอบอกกันว่า คุ้มค่ากับสิ่งที่ลงทุนลงแรงไป สิ่งที่จะสกัดกั้นพัฒนาการของเค้าอยู่นั้นต้องระวังการไปส่องไป ดูน้องๆ ติดตามน้องๆ อยากให้เค้าใช้ชีวิตปรกติ

ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย กล่าวว่า สำหรับเรื่องการยื่นสัญชาติก็ให้เป็นไปตามขั้นตอนที่ได้ยื่นเรื่องไว้ จากนั้นนำน้องๆ กราบแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเป็นห่วงน้องๆ ทั้ง 13 ชีวิต






คำต่อคำ : รายการเดินหน้าประเทศไทย ตอน : ส่งหมูป่ากลับบ้าน ณ อาคารคชสาร องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย

กัญญ์ณาณัฐฐ์ ภาธรสืบนุกุล -สวัสดีค่ะ ต้องรับคุณผู้ชมเข้าสู่รายการเดินหน้าประเทศไทย สำหรับวันนี้เชื่อว่าเป็นวันที่หลายๆ คนรอคอยนะคะ และตลอดเวลา 18 วัน กับปฏิบัติการกู้ภัย 13 ชีวิตทีมหมูป่า เรียกได้ว่าเป็นการช่วยเหลือที่แทบทุกมุมโลกนะคะ ต่างจับจ้องมาที่ถ้ำหลวง - ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย หลังจากที่เจ้าหน้าที่พาทีมหมูป่า ทั้ง 13 ชีวิต พ้นจากถ้ำหลวงแล้ว ต้องบอกว่าบรรยากาศความดีใจของคนทั้งโลก ต่างก็พรั่งพรูออกมาผ่านทางช่องทางต่างๆ นะคะ ไม่ว่าจะเป็นทางโลกโซเซียลเอง และก็ผ่านใบหน้าเปื้อนยิ้ม ของประชาชนทั้งชาวไทยและก็ชาวต่างชาติค่ะ ซึ่งก็สะท้อนให้เห็นถึงการร่วมมือและการทำงานเป็นทีมช่วยเหลือไทยและนานาชาติ ในการพยายามกู้ภัยในครั้งนี้ค่ะ ต้องบอกว่าปฏิบัติการในครั้งนี้ เป็นสถานการณ์ที่ท้าทายและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในการกู้ภัยค่ะ ครั้งนี้ต้องถอดบทเรียน เพื่อที่จะให้เป็นโมเดลในการกู้ภัย ซึ่่งก็ถือว่้า เป็นการกู้ภัยที่ยากที่สุดครั้งหนึ่ง และนับว่าเป็นการบริหารจัดการในภาวะวิกฤตที่มีประสิทธิภาพ ทั้งเป็นการยกระดับปฏิบัติการในภาวะวิกฤตนะคะ ในหลากหลายอาชีพด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น คุณหมอ นักดำน้ำ สื่อมวลชน หรือว่ากู้ภัยค่ะ ให้สามารถรองรับได้ทุกสถานการณ์ และที่สำคัญงานนี้ยังเกิดจิตอาสามากมาย ตามความถนัดที่แต่ท่านนั้นจะสามารถ ช่วยให้ภาระกิจนี้ สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และที่สำคัญเป็นที่ทราบกันดี การปฏิบัติภาระกิครั้งสำคัญนี้ มีความสูญเสียเกิดขึ้นค่ะ นาวาตรี สมาน กุนัน หรือว่า จ่าแซมที่ทุกคนเรียกกัน ได้อาสาปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ โดยไม่เห็นถึงความเหน็ดเหนื่อยถึงแม้ว่าจะรู้ว่าครั้งนี้เสี่ยง จนเป็นเหตุให้ต้องสละชีวิตตัวเองในภารกิจนี้นะคะ ความเสียสละอันยิ่งใหญ่นี้เป็นที่รับรู้ไปทั่วโลก และทั่วโลกก็ยกย่อง ให้จ่าแซมนั้นเป็นวีรบุรุษถ้ำหลวง วีรบุรุษที่เสียสละชีวิต เพื่อที่จะสร้างคนดีทั้ง 13 คน อออกสู่สังคม และทประโยชน์ให้กับประเทศชาติต่ิอไปในอนาคตนั่นเอง กิจกรรมของน้องๆ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ที่อยู่ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์นะคะ กิจกรรมสำคัญเมื่อเช้านี้ค่ะ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ พลอากาศตรี สุพิชัย สุนทรบุระ รองเลขาธิการพระราชวัง เชิญสิ่งของพระราชทานประกอบด้วย กระเช้า เสื้อ หมวก ผ้าพันคอ และปลอกแขนจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ มอบแก่เยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมี ทั้ง 13 คนนะคะ เพื่อที่จะเป็นขวัญและกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป นำมาซึ่งความปลื้มปีติให้กับน้องๆ ในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ และภารกิจสำคัญที่เกิดขึ้นอยู่ ณ ขณะนี้นะคะ ก็คือปฏิบัติการส่งทีมหมูป่ากลับบ้านและเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ ต่อไปเพื่อที่จะให้น้องๆ สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ซึ่งบรรกยากาศขณะนี้ คุณผู้ชมคะ จะให้ทุกท่านได้เห็นพี่น้องสื่อมวลชนมากมายที่อยู่ทางด้านหลังดิฉัน ก็มารอพบหน้าน้องๆ แบบใกล้ชิดทั้ง 13 คนนะคะ ซึ่งเดี๋ยวน้องๆ และผู้ที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้จะมาตอบข้อสงสัยที่หลายๆ ท่านถามกันเข้ามาเยอะและก็อยากจะทราบกันในวันนี้ด้วยนะคะ ซึ่งคุณผู้ชมและทุกท่านสามารถรับชม รับฟังในภาคภาษอังกฤษได้ ตามช่องทางต่างๆ ดังนี้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นทางแอปพลิเคชั่น NBTWorld เฟซบุ๊กไลฟ์เพจ NNT หรือค้นหาคำว่า NBTWorld และทางไลฟ์สตรีม Thainew.prd.go.th และตอนนี้ค่ะบนเวทีพร้อมแล้วที่จะส่งน้องๆ ทีมหมูป่ากลับบ้าน พร้อมกับผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน ให้ทุกได้พบกับผู้ที่จะมาพูดคุยกับเรา ในวันนี้ ท่านแรก นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ท่านที่สอง นายแพทย์ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ พันโทนายแพทย์ ภาคย์ โลหารชุน ผู้บังคับกองพันเสนารักษ์ ที่ 3 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ แพทย์หญิงพัชนีวรรณ อินต๊ะ จิตแพทย์หัวหน้ากลุ่มงานจิตเวช คุณอัปษรศรี ธนะไพศาล นักจิตวิทยา คลินิกชำนาญการพิเศษโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ และผู้ดำเนินรายการบนเวทีในวันนี้ คุณสุทธิชัย หยุ่น ค่ะ

สุทธิชัย หยุ่น - สวัสดีครับ ดูเหมือนว่าจะมีเพื่อนๆ ที่รออยู่ข้างๆ เป็นใครเนี่ย มาทักทายสิ นี่คือหมูป่านอกถ้ำ นี่คือหมูป่าในถ้ำ ครับ โอเคครับ เชิญหมูป่า ขึ้นเวทีได้นะครับ เดี๋ยวมีเวลาคุยกันอีกยาว สวัสดีทุกๆ ท่านครับ ผมได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนสื่อมวลชนวันนี้ เพื่อที่จะซักถามผู้ที่เกี่ยวข้่องในการส่งหมูป่ากลับบ้าน คำถามที่มาจากสื่อมวลชนทุกสาขา ทุกแขนง ก็มากว่า 100 คำถามครับ และได้มีการกลั่นกรองคณะแพทย์แพทย์ นักจิตวิทยา และจิตแพทย์ เพื่อที่จะให้เป็นคำถามที่เล่าความจริงที่ปรากฎ ขณะเดียวกันก็ระมัดระวังถึงความละเอียดอ่อนของความรู้สึกของหมูป่าด้วย คำถามส่วนใหญ่จะมีการถามคืนนี้ครับ และผมก็เชื่อว่า ความที่เราอยากจะรู้คำตอบวันนี้จะได้ฟังจากหมูป่าและผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง ระหว่างนี้ ถ้ามีคำถามเพิ่มระหว่างฟังคำตอบ เขียนมาได้ครับ ส่งมาที่ทีมจะให้คณะแพทย์ ได้ตรวจดูคำถามและจะส่งมาที่ผม ผมจะพยายามถามคำถามให้มากที่สุดเพราะผมถือว่า นี่เป็นภารกิจร่วมกัน พวกเราสื่อมวลชน จะนำเอาข้อเท็จจริงไปนำเสนอต่อประชาชน ไม่ใช่เพียงประเทศไทยแต่ว่าทั่วโลกให้ดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ครับ และก่อนที่จะเข้าสู่หมูป่าเราจะถามคนที่รับผิดชอบสุขภาพของหมูป่าครับ คุณหมอไชยเวช ครับ ท่านเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ครับ ผมอยากจะให้ดูคลิปที่เมื่อคืนนี้หมูป่า อำลา คุณหมอและพยาบาล ที่อยู่ด้วยกันมาตลอด เป็นบรรยากาศที่เราอาจจะไม่ได้เห็น ถ้าเราไม่ได้อยู่ข้างใน อยากจะให้ชมพร้อมๆ กัน และก็ให้คุณหมอไชยเวช เล่าให้ฟังครับว่า หมูป่าพร้อมจะกลับบ้านแล้วหรือยังครับ คุณหมอสามารถบรรยายไปด้วยก็ได้ครับ

นายแพทย์ไชยเวช ธนไพศาล - เรียนพวกเราทุกคนนะครับ ภาพที่เห็นเล่นฟุตบอลเมื่อสักครู่ คงเป็นสิ่งพิสูจน์ได้นะครับ ว่าสุขภาพเขาดีขึ้นแค่ไหน นี่เป็นกิจกรรมเมื่อคืนนี้นะครับ หลังจากที่อยู่โรงพยาบาลตั้งแต่วันอาทิตย์ จนถึงเมื่อคืนวันอังคาร วันสุดท้ายที่จะได้อยู่ในโรงพยาบาล กิจกรรมเสริมสร้างกำลังใจ ปกติคนที่ผ่่านวิกฤตแล้ว อาจจะมีอาการท้อถอยได้ แต่เราพบว่าทีมหมูป่าไมมีอย่างนั้นเลยนะครับ กำลังใจเขาดีเยี่ยม หลังจากผ่านวิกฤตมาด้วยกัน เขามีความแข็งแรง ความเข้มแข็งภายในที่จะเดินต่อ อันนี้เป็นกิจกรรมทางด้านจิตวิทยา ที่จะพบกับแทพย์และพยาบาลที่เขาไวใจ พอเขาลืมตามาก็เห็นพวกเรา ก่อนจะออกไปเผชิญสังคมข้างนอกจริงๆ นะครับ ก็จะมีการถ่ายทอดพลังความรัก ความห่วงใยให้เห็น และก็ถ่ายทอดความรู้สึก นี่เป็นการขอบคุณต่อหน้าครั้งแรก จากเดิมก็จะมีแต่ทางออนไลน์เท่านั้น ก็จะเป็นประสบการณ์ของน้องนะครับ ขอบคุณทีมที่ช่วยกันดูแล แล้วก็จะหันหน้าไปสู่ครอบครัวที่รอเขาอยู่อีกฝั่ง เมื่อคืนกิจกรรมก็จบลงด้วยดี น้องทุกคนก็สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดี และก็แสดงความุ่งมั่นว่าต่อไปนี้ จะสู้กับปัญหาได้ ทุกคนอยากกลับบ้านนะครับ แล้วพอเดินไปยังฝั่งที่ผู้ปกครองนั่ง เกือบทุกคนไปนั่งตักแม่

สุทธิชัย หยุ่น - ฉะนั้นคุณหมอไชยเวช ยืนยันว่า สภาพของหมูป่าทุกคน สมบูรณ์เรียบร้อย พร้อมจะกลับไปใช้ชีวิตปกติ

นายแพทย์ไชยเวช ธนไพศาล - ครับ โดยหลักวิชาการ ทางด้านสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุขก็ส่งผู้เชี่ยวชาญมาช่วยโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ส่งผลเลือดไปตรวจยืนยันโรคอุบัติใหม่ที่พบได้ยาก โรคทั่วไปพบว่าปกติแล้วนะครับ น้ำหนักตัวขึ้นมาประมาณ 3 กิโลกรัม เฉลี่ยทุกคน แล้วก็สภาพความแข็งแรงคงเห็นเมื่อสักครู่แล้วนะครับ เพราะฉะนั้นในสภาพกาย ยืนยันได้ครับว่าแข็งแรงพอ สภาพจิตอย่างที่เรียนนะครับมีการทดสอบกันหลายครั้งหลายหน เพราะ เราเป็นห่วงมากเรื่องนี้ ประเด็นนี้ก็น่าจะผ่านแล้ว ยืนยันได้แล้วครับ ปัจจุบัน กำลังใจ กำลังกายของน้องๆ พร้อมครับ

สุทธิชัย หยุ่น - ไหน น้องๆ ยืนยัน ชูสองนิ้ว ยืนยันไหมว่าเข้มแข็งจริง คุณหมอภาคย์อยู่ใกล้ชิดกับเด็กมาก เป็นยังไงบ้าง สุขภาพจิต สุขภาพกายเขา ตอนนี้พร้อมจะกลับไปใช้ชีวิตปกติแล้วหรือยังครับ

พันโทนายแพทย์ ภาคย์ โลหารชุน - ก็น่าจะพร้อมตั้งแต่อยู่ในถ้ำแล้วนะครับ

สุทธิชัย หยุ่น - ตั้งแต่อยู่ในถ้ำเลยเหรอ

พันโทนายแพทย์ ภาคย์ โลหารชุน - ใช่ครับ

สุทธิชัย หยุ่น - ทำไม ถึงมั่นใจเพราะว่าเราอยู่ข้างนอก เราเป็นห่วงมากเลย ว่าเอ๊ะ จะไหวไหม เอ๊ะ ร่างกายบอกว่าไม่ได้กินอะไรมาเลย กินแต่น้ำ และก็ออกมายังกินอาหารปกติไม่ได้ ทำไมสุขภาพดีทั้งแต่อยู่ในถ้ำครับ

พันโทนายแพทย์ ภาคย์ โลหารชุน - คืออยู่ในถ้ำ ผมก็สังเกตดูเวลาเขา หลังจากที่ได้อาหารไปหลาย สักประมาณ 3-4 มื้อ เริ่มมีพลัง เริ่มกำลังกายเริ่มกลับมา เริ่มฟื้นตัว เขาก็จะพูดกันเยอะขึ้น ส่วนใหญ่สิ่งที่พูดก็คือการออกมานอกถ้ำ ออกมาหาอะไรอร่อยๆ กินนอกถ้ำ ครับ และก็การไปเที่ยว

สุทธิชัย หยุ่น - คือความอยากกินนี่แหละ ทำให้ออกมานอกถ้ำได้

พันโทนายแพทย์ ภาคย์ โลหารชุน - ใช่ ใช่ครับ แล้วก็มีหลายคน เนี่ยสัญญากับผม แล้วก็น้องๆ ทีมซีลว่า จะเอาอาหารแบบแปลกๆ มาให้ด้วย ใช่ไหม ไส้อั่วงู และมีอะไรนะ อาหารพม่าอีก ใช่ไหม นี่คือความพร้อมของเขาตั้งแต่ในถ้ำครับ

สุทธิชัย หยุ่น - ฉะนั้นมั่นใจว่าต่อไปนี้เขากลับไปใช้ชีวิตได้ โดยไม่มีปัญหา

พันโทนายแพทย์ ภาคย์ โลหารชุน - ครับ มั่นใจครับ

สุทธิชัย หยุ่น - ทางด้านสภาพความรู้สึกล่ะครับ คุณหมอพัชนีวรรณ คุณหมอพัชนีวรรณ ดูแลทางด้านจิต แล้วก็ได้พูดคุยกับเด็กหมูป่าทุกคนอย่างละเอียดถี่ถ้วน วันนี้คุณหมอประเมินว่าเด็กๆ สามารถกลับไปและไม่มีปัญหาเรื่องจิตใจ

แพทย์หญิงพัชนีวรรณ อินต๊ะ - ก็จากการพูดคุยกัน และการตรวจประเมินทางด้านจิตวิทยานะคะ ผ่านรูปแบบกิจกรรม หลายๆ อย่าง แล้วก็กิจกรรมบำบัดที่พวกเราทำกันนะคะ โดยใช้สื่อต่างๆ ที่คิดว่าเราจะได้เรียนรู้ร่วมกัน เราพบว่าน้องๆ มีความเข้มแข็งทางใจดีค่ะ แล้วก็ตอบความรับกับความเครียดที่น่าจะเกิดในสังคมได้ ในระดับที่คนทั่วๆ ไปทำได้กัน เราก็เลยลงความเห็นว่าน้องๆ เอง มีสภาพร่างกาย สภาพจิตใจที่แข็งแรงที่สามารถจะใช้ชีวิตตามปกติได้ค่ะ

สุทธิชัย หยุ่น - ครับ ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงนะครับ

แพทย์หญิงพัชนีวรรณ อินต๊ะ - ค่ะไม่มีอะไร ต้องเป็นห่วง

สุทธิชัย หยุ่น - นักจิตวิทยานะครับ คุณอัปษรศรี ครับ ก็ได้คุยกับเด็กและก็ได้ช่วยตรวจคำถามต่างๆ มาด้วยว่า อะไรเนี่ย คำถามอะไรที่ควรถาม ไม่ควรถาม แต่ผมบอกได้เลยว่า น้อยมากที่ส่งมาแล้วว่า จะไม่ถามครับ ดังนั้นไม่ต้องห่วงเพราะว่า ผมก็เชื่อว่า ทุกๆ ท่านที่เกี่ยวข้อง ต้องการให้ประชาชนคนไทยได้รับทราบมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ครับ คุณอัปษรศรี ครับ

อัปษรศรี ธนะไพศาล - ค่ะ ขอบคุณค่ะ ในส่วนของการได้พูดคุยกับน้องๆ นะคะ เราก็พบว่าจริงๆ น้องๆ มีความเข้มแข็งทางใจ ปรากฎตั้งแต่ในถ้ำแล้ว เท่าที่เราได้พูดคุยนะคะ ก็พบว่าเขามีปัจจัยบวกอยู่เยอะมาก ซึ่งอีกสักครู่ น้องๆ อาจได้มีโอกาสพูดคุยนะคะ แล้วก็สิ่งที่เราเป็นห่วง ที่น้องอาจจะไปเจอในสิ่งข้างนอกเนี่ย เราก็ได้มีการ มีกระบวนการเตรียม ก็พบว่าน้องๆ เองมีวิธีที่จะรับมือพอสมควรนะคะ ก็คิดว่าค่อนข้างจะพร้อมค่ะ

สุทธิชัย หยุ่น - และจากนี้ไปจะมีโอกาสได้พูดคุยกับน้องไหมครับ หลังจากนี้กลับบ้านแล้ว ถ้าน้องๆ คิดถึงเพื่อนๆ คิดถึงคุณหมอ คิดถึงพยาบาลจะแวะกลับมาได้ไหมครับ คุณหมอภาคย์ นั่นแหละที่จะต้องเป็นคนที่จะต้องคอยติดต่อน้องพูดคุย ใช่ไหมครับ

พันโทนายแพทย์ ภาคย์ โลหารชุน - ก็พูดคุยกันเบื้องต้นแล้วครับ เดี๋ยวปิดเทอมใหญ่ จะไปเที่ยวโคราช ใช่ไหม จะมาเที่ยวที่กองพันของผม ก็ยินดีต้อนรับเลยครับ เดี๋ยวดูแลเป็นอย่างดี

สุทธิชัย หยุ่น - จริงไหมครับว่า คุณหมอจิตวิทยา กับจิตแพทย์ เครียดกว่าหมูป่าอีก จิรงไหมครับ ทำไมถึงเครียดกว่าครับ

แพทย์หญิงพัชนีวรรณ อินต๊ะ - ค่ะ ยอมรับว่ากับปฏิบัติการครั้งนี้ ก็มีทั้งความภูมิใจ และดีใจ ที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของการดูและนะคะ ซึ่งภายใต้การดุแล ก็ไม่ได้ทำงานคนเดียว ก็คือเรามีทีมทางด้านสาธารณสุขที่ทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นทีมของฝ่ายฉุกเฉิน ทีมของจังหวัด ทีม MCAT ของจังหวัด ทีม MCAT ของกรมสุขภาพจิต แล้วก็ราชวิทยาลัยจิตแพทย์ ชมรมจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น กรมสุขภาพจิต ทุกๆ ทีมก็เข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ ซึ่งบาทีเราทำงานร่วมกันในหลายหน่วยงาน บางทีก็มีความคาดหวังแล้วก็มีความเครียด เพราะทุกคนก็อยากให้งานออกมาดีที่สุดค่ะ

สุทธิชัย หยุ่น - หมูป่า นี่ดื้อไหม

แพทย์หญิงพัชนีวรรณ อินต๊ะ - ไม่ดื้อค่ะ

สุทธิชัย หยุ่น - เรียบร้อยไหม

แพทย์หญิงพัชนีวรรณ อินต๊ะ - เรียบร้อยค่ะ

สุทธิชัย หยุ่น - คุณอัปษรศรี หมูป่า มีอาการที่ไม่ฟังผู้ใหญ่ ไม่ฟังคำแนะนำไหมครับ

อัปษรศรี ธนะไพศาล - น่ารักมากค่ะ จะฟังโค้ชเอกมากที่สุดค่ะ

สุทธิชัย หยุ่น - เครียดกว่าเด็ก ใช่ไหม

อัปษรศรี ธนะไพศาล - นิดหนึ่งค่ะ นิดหน่อยค่ะ

สุทธิชัย หยุ่น - ครับ เพราะว่า เป็นเรื่องที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน ก็เป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจกับเด็ก แล้วก็เด็กอายุตั้งแต่อายุ 11 ปี ถึง 16 ปี นะครับ

อัปษรศรี ธนะไพศาล - ก็น้อยสุดคือ 11 มากสุดก็คือ 16 แล้วก็โค้ช 25

สุทธิชัย หยุ่น - เด็กอายุ 11 และ 16 ต่างกันไหมครับ ทางด้านสภาพจิตที่ออกมา

อัปษรศรี ธนะไพศาล - เท่าที่ดูเนี่ย น้องๆ เขาก็ตามวัยนะคะ พัฒนาการตามวัย แต่ว่าปัจจัยที่เป็นความเข้มแข็งคิว่าน้องๆ ทุกคนมี บางครั้งพวกเราทีม ได้รับพลังบวกจากน้องๆ ด้วยซ้ำ เวลาที่เราได้พูดคุย ได้มีโอกาส สัมผัสกับน้องๆ นะคะ ทั้งทีม ก็คือเรามีการทำงานกันเป็นทีมอย่างที่คุณหมอพัชนีวรรณ ได้เรียนนะค ทุกคนก็จะได้รับคล้ายๆ กันค่ะ

สุทธิชัย หยุ่น - ก่อนจะเริ่มตอบคำถามหมูป่า แนะนำตัวหน่อยครับ โค้ชเอก เริ่มตรงนั้นเลยครับ ยืนขึ้นครับ ให้เห็น โชว์หุ่นว่ายังหล่อเหลา

เอกพล จันทะวงษ์ - สวัสดีครับ ผมเอกพล จันทะวงษ์ ชื่อเล่นชื่อเอก คือตำแหน่งที่เล่นคือ แบล็กขวา กับเป็นโค้ช นะครับ

พรชัย คำหลวง - สวัสดีครับ ผมชื่อนายพรชัย คำหลวง ชื่อเล่น น้องตี๋ เล่นตำแหน่งกองกลางตัวรุกกับตัวรับครับ

อดุลย์ สามออน - สวัสดีครับ ผมเด็กชายอดุลย์ สามออน ครับ เล่นตำแหน่งแบล็กขวา ครับ

ชนินท์ วิบูลย์รุ่งเรือง - สวัสดีครับ ผมชื่อเด็กชายชนินท์ วิบูลย์รุ่งเรือง ชื่อเล่นชื่อตั้นครับ เล่นตำแหน่งปีกซ้าย ปีกขวาครับ

สุทธิชัย หยุ่น - บอกอายุด้วย อายุครับ

ไตตั้น ชนินท์ - อายุ 11 ปีครับ

สุทธิชัย หยุ่น - 11 ปี

มงคล บุญเปี่ยม - สวัสดีครับ ผมชื่อเด็กชายมงคล บุญเปี่ยม ชื่อเล่นชื่อมาร์คครับ เล่นเซ็นเตอร์ แบล็กขวา แบล็กซ้าย

สุทธิชัย หยุ่น - อายุครับ

มาร์ค มงคล - 13 ครับ

สุทธิชัย หยุ่น - เสียงดังเลยนะครับ ขอเสียงดังๆ หน่อยนะครับ

เอกรัตน์ วงค์สุขจันทร์ - สวัสดีครับ ผมชื่อเด็กชายเอกรัตน์ วงค์สุขจันทร์ ชื่อเล่นชื่อบิวครับ เล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์ กับผู้รักษาประตูครับ

ดวงเพชร พรมเทพ - สวัสดีครับ ผมชื่อเด็กชายดวงเพชร พรมเทพ ชื่อเล่นชื่อดอม เล่นกองหน้าครับ

พีรพัฒน์ สมเพียงใจ - สวัสดีครับ ผมนายพีรพัฒน์ สมเพียงใจ ชื่อเล่นชื่อไนท์ เล่นตำแหน่ง แบล็ก และ โกล์ ครับ

พิพัฒน์ โพธิ - สวัสดีครับ ผมชื่อเด็กชายพิพัฒน์ โพธิ ชื่อเล่นชื่อนิค เล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์ครับ

ประจักษ์ สุธรรม - สวัสดีครับ ผมชื่อเด็กชายประจักษ์ สุธรรม ชื่อเล่นชื่อโน้ต ครับ เล่นตำแหน่งปีกซ้ายครับ

ภานุมาศ แสงดี - สวัสดีครับ ผมชื่อเด็กชายภานุมาศ แสงดี ชื่อเล่นชื่อมิก ครับ เล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์ครับ

ณัฐวุฒิ ทาคำทรง - สวัสดีครับ ผมชื่อเด็กชายณัฐวุฒิ ทาคำทรง ชื่อเล่นชื่อเติ้ลครับ เล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์ครับ

สมพงษ์ ใจวงค์ - สวัสดีครับ ผมชื่อเด็กชายสมพงษ์ ใจวงค์ ชื่อเล่นชื่อพงษ์ เล่นตำแหน่งปีกซ้ายครับ

สุทธิชัย หยุ่น- แล้วพี่ๆ ซีลล่ะครับ จะแนะนำตัวหน่อยไหมครับ ชื่อเล่นก็ได้ครับ ซีล 3 ท่านกับ หมอภาคย์ ที่ไปอยู่กับเด็ก 9 วัน อยู่ที่เนินนม

สาว ใช่ไหมครับ

พันโทนายแพทย์ ภาคย์ โลหารชุน - ใช่ครับ

สุทธิชัย หยุ่น - แนะนำเท่าที่แนะนำได้ เดี๋ยวก่อนทำไมต้องใส่แว่นดำครับ

ซีล 1 - สวัสดีครับ ผมชื่อพี่ใบเตยครับ สวยที่สุดในถ้ำครับ

ซีล 2 - สวัสดีครับ ป้อมครับ

ซีล 3 - สวัสดีครับ ผมไมค์ครับ

สุทธิชัย หยุ่น - ที่ผมอยากรู้ก่อนอื่นเลย พอเจอ หมูป่าเลย ใครเป็นคนประกาศตอบ นักดำน้ำฝรั่ง Thirteen อยากทราบไหมครับว่าคนไหนที่ฝรั่ง ถามว่า How many of you ? แล้วมีเสียงหนึ่งใช่ไหมครับ Thirteen ใครครับ ไหนเล่าให้ฟังหน่อยครับ วินาทีนั้น เราอยู่ตรงไหน แล้วเรา เห็นนักดำน้ำอังกฤษ อย่าง ไร แล้วทำไมเราถึงที่จะสามารถ ฟังเขาเข้าใจแล้วตอบได้ทันที ไม่ใช่คิดว่าเราไปโผลที่ประเทศอังกฤษ ใช่ไหม

อดุลย์ - ไม่ใช่ครับ

สุทธิชัย หยุ่น - เล่าให้ฟังครับ นาทีนั้นที่เราเห็น ชื่ออะไรครับ

อดุลย์ - ผมเด็กชายอดุลย์ สามออน ก่อนหน้านั้น ผมคอยอยู่

สุทธิชัย หยุ่น - Can you speak english ?

อดุลย์ - A Little ก็เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงตอนเย็นครับ พวกเราก็นั่งขูดหินอยู่ด้านบน แล้วขณะนั้นก็ได้ยินเสียงคนพูดกัน และพี่เอกก็บอกว่า เออ ให้เราทุกคนเงียบๆ หน่อยซิ เสียงคนคุยกัน คือเราก็ไม่แน่ใจว่าคือเป็นจริงหรือไม่จริง เราก็เลยหยุดแล้วก็ฟัง ปรากฎว่า มันเป็นจริงครับ ผมก็ตกใจ ตกใจปุ๊บ พี่เอกก็สั่งให้ มิก ลงไปก่อนครับ

สุทธิชัย หยุ่น - คนไหน มิก ยกมือ ทำไมเราโยนเพื่อนลงไปก่อน

อดุลย์ - เพราะว่า มิก จับไฟฉายไว้ครับ

สุทธิชัย หยุ่น - เอา มิกไป ดูก่อน เอาไฟฉายก่อน

อดุลย์ - ขณะนั้น ใช่ครับ พี่เอก บอกว่าให้รีบลงไป เออ นี่มันเสียงคนนะ เดี๋ยวเขาจะผ่านไป อย่างนี้ แล้วเขาก็กลัว กลัวปุ๊บ พี่ไป ผมไปเองก็ได้ รีบไปเอาไฟฉายครับ ไปเอาไฟฉายปุ๊บ รีบลงไปเลยครับ

สุทธิชัย หยุ่น - อ๋อ แย่งไฟฉายจากเขา

อดุลย์ - ใช่ครับ แย่งปุ๊บลงไปเลยครับ แล้วผมก็ทักทายเลยครับ ก็ Hello ประมาณนี้

สุทธิชัย หยุ่น -มิสเตอร์ ได้ยินเสียง Hello ก่อน เขาโผล่หน้ามาไหม

อดุลย์ - ยังครับ

สุทธิชัย หยุ่น - เอาแล้วเขาพูด Hello ใต้น้ำได้ยังไง

อดุลย์ - ไม่คือ มันเป็นจังหวะ โผล่ขึ้นมาปุ๊บ เราคุยกัน ครับ เราก็เลยได้ยินเสียงปั๊บ เราลงไป ก็เลยถามเลยครับ ทักทายก่อนเลยว่า Hello มีคนอยู่ไหม แรกๆ ก็คิดว่าเป็นคนไทยครับ เราก็เลยแบบ เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ อะไรประมาณนี้ แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่ แล้วหลังจากที่เขาลุกขึ้นจากน้ำปุ๊บ ผมก็ตกใจ เขาเป็นคนอังกฤษ ผมก็เลยไม่รู้ที่จะพูดอะไรกับเขา เราก็เลยถามแค่ว่า Hello อะไรประมาณนี้

สุทธิชัย หยุ่น - เขา Hello มา เราก็ Hello กลับ

อดุลย์ - ใช่ครับ

สุทธิชัย หยุ่น - แล้วจะรู้เรื่องไหม เนี่ย แล้วยังไง

อดุลย์ - ก็มันเป็นช่วงที่แบบว่า เป็นสิ่งมหัศจรรย์มากๆ เลย คือตกใจ แล้ว ไม่รู้จะทวนคำถามยังไง เขาพูดมา ก็ต้องคิดนานมาก กว่าจะตอบเขา ก็เขาขึ้นมาปุ๊บ How are you? สบายดีไหม ผมก็บอกว่า Yes. I'am Ok.

สุทธิชัย หยุ่น - อ้อ

อดุลย์ - ใช่ครับ ผมก็ตกใจมาก แล้วผมก็บอกว่าให้ผมช่วยไหม Can I help You. ก็คือเขาบอกว่าไม่ต้องๆ ขึ้นไป เขาบอกแบบนี้

สุทธิชัย หยุ่น - เขาก็ไล่เราขึ้นไป แล้วเขาก็ถาม How many of you. ใช่ไหม แล้วเราได้ยินคำนี้ใช่ไหมครับ

อดุลย์ - ใช่ครับ ชัดเลยครับ แล้วผมก็ตอบว่า We have Thirteen.

สุทธิชัย หยุ่น - Thirteen. แล้วเขาตอบว่า Brilliant. เขาตอบว่า Brilliant. แปลว่า เยี่ยมเลย แปลว่าอะไร เขาดีใจมาก ที่อยู่ครบกัน 13 คน พอตอบ Thirteen. Brilliant. ได้ยินเสียงว่า แปลหน่อยดิ่ แปลหน่อยดิ่ ใครครับ โค้ช ทำไม เล่าให้ฟัง ตอนนั้น

โค้ชเอก เอกพล - ตอนนั้น อดุลย์ เขาสนทนากับเจ้าหน้าที่ต่างประเทศ ซึ่งผมเนี่ย ก็ไม่รู้ภาษาอังกฤษ ก็คือ น้อง บิว ก็ไม่ยอมแปล อดุลย์ให้แปล ก็ไม่ยอมแปล

สุทธิชัย หยุ่น - ยกมือ เอ่ยชื่อถึงใคร ยกมือ จะได้รู้ั

โค้ชเอก เอกพล - ก็เลย พอเขาพูด พูดมาเรื่อยๆ ผมก็บอกว่า ใครรู้ภาษาอังกฤษ แปลให้หน่อยดิ่ อย่างนี้ล่ะครับ

สุทธิชัย หยุ่น - ครับ แล้วแปลหรือเปล่า

โค้ชเอก เอกพล - ก็มีน้องบิว แปลให้ฟัง แล้วก็ ตี๋ น้องตี๋ ก็เร่ง แปลเร็วๆ หน่อย แบบนี้

สุทธิชัย หยุ่น - พอแปลว่า

บิว เอกรัตน์ - แล้วผมก็บอกว่า ฟังไม่ทันครับ ใจเย็นๆ

สุทธิชัย หยุ่น - บอกพี่โค้ชเอก ว่าใจเย็นๆ ฟังไม่ทัน

บิว เอกรัตน์ - บอกพี่ตี๋ครับ

สุทธิชัย หยุ่น - บอกพี่ตี๋ ว่าใจเย็นๆ ใช่ไหม พี่ตี๋ทำ ทำไม

ตี๋ พรชัย - น้องบิว เขาบอกว่า บอกให้พี่ตี๋ใจเย็นๆ หน่่อยน้อง ใจเย็นๆ หน่่อยพี่

สุทธิชัย หยุ่น - ทุกคนดีใจมาก ได้ยินเสียง ใช่ไหม

ตี๋ พรชัย - ดีใจมากเลยครับ

สุทธิชัย หยุ่น - ดีใจมาก เป็นความหวังครั้งแรก ตั้งแต่หลงเข้าไปเลย ใช่ไหม

ตี๋ พรชัย - ใช่ครับ ในรอบ 10 วัน

สุทธิชัย หยุ่น - Thirteen. Brilliant. หลังจากนั้น เกิดอะไรขึ้นครับ

อดุลย์ - หลังจากที่เขาบอกว่า เยี่ยมมากเลย ผมก็ คือเขาให้ผมขึ้นไปด้านบนที่เนินสูง ไม่ต้องให้ลงมา

สุทธิชัย หยุ่น - ดันให้เราขึ้นไปข้างบน

อดุลย์ - ใช่ครับ แล้วพอเขาขึ้นมาปุ๊บ แล้วเขาก็ถามว่า ทุกคนอยู่กี่วัน ผมก็ตอบว่า พวกเราอยู่ 10 วัน ถ้าจำไม่ผิดเขาจะถามว่า

สุทธิชัย หยุ่น - How many day?

อดุลย์ - ใช่ครับ How many in Cave ? อะไรประมาณนี้ครับ ผมก็ตอบว่า 10 Days

สุทธิชัย หยุ่น - Ten.

อดุลย์ - Yes. คือมันสมองช้ามากเลยครับ เพราะว่าอยู่ตั้ง 10 วัน เรื่อง คณิต อังกฤษ ไม่มีเลยครับ ในสมอง

สุทธิชัย หยุ่น - ไม่เหลือเลย

อดุลย์ - มันไปไม่ถูก

สุทธิชัย หยุ่น - แล้วมีเสียงว่า หิว หิว

อดุลย์ - หิวอย่างเดียวครับ ออกไปคือกิน

สุทธิชัย หยุ่น - เสียงใครตะโกน หิว

อดุลย์ - บิว นิก

สุทธิชัย หยุ่น - ไหน บิว ตะโกนว่าหิว ใช่ไหม เห็นคนปั๊บ ร้องหิวก่อน

อดุลย์ - Eat Eat Eat กิน กิน กิน

สุทธิชัย หยุ่น - แต่ว่ามันทำให้เราหัวใจพองโตเป็นครั้งแรก หลังจากที่เราคิดหนัก หลังจากที่เราไม่รู้ว่าอนาคตเราจะเป็นอย่างไร อันนั้นเป็นครั้งแรกนะครับ แต่เดี๋ยวรายละเอียดทั้งหลายจะมี แต่ผม อยากจะรู้อีกเรื่องนึกก่อนว่า ตกลงได้ดู World Cup Final ไหมครับ ได้ดูฟุตบอลไหมครับ รอบชิง ได้ดูไหมครับ ได้ดูสดหรือเปล่า ได้ดูสด เป็นยังไง สนุกไหม โค้ช

โค้ชเอก เอกพล - สนุกมากเลยครับ เป็นอะไรที่ว่า

สุทธิชัย หยุ่น - แล้วคืนนั้นผมได้ยินว่าที่โรงพยาบาลเสียงเชียร์ดังลั่นเลย จริงหรือเปล่า

โค้ชเอก เอกพล - คือ

สุทธิชัย หยุ่น - เสียงใครดังที่สุด เสียงเชียร์ดังที่สุด เขาบอกว่าตัวเล็กที่สุดดังที่สุด
โค้ชเอก เอกพล - น้องมาร์คครับ น้องมาร์ฺค

สุทธิชัย หยุ่น - ไหนเล่าให้ฟังซิ ทำไม ตื่นเต้น ยังไงครับ เชียร์ใคร คืนนั้น เชียร์ใคร

มาร์ค มงคล - ฝรั่งเศส ครับ

สุทธิชัย หยุ่น - เหรอ โอ้โห สุดยอดเลย ทำไม

มาร์ค มงคล - ก็ทีแรกไม่รู้สึกสนุก แล้วก็พอเห็นนักกีฬาที่ชอบครับ ยิงเข้าก็ดีใจครับ

สุทธิชัย หยุ่น - ชอบคนไหน

มาร์ค มงคล - กรีซมันน์ ครับ

สุทธิชัย หยุ่น - กรีซมันน์ เหรอ ชอบเพราะ

มาร์ค มงคล - เห็นเล่นเกม แล้วเขายิงเข้าหลายๆ ลูกครับ

สุทธิชัย หยุ่น - ครับ ดังที่สุดเลย

โค้ชเอก เอกพล - ครับผม ดังที่สุด

สุทธิชัย หยุ่น - แล้วโค้ช เบาๆ หน่อยเดี๋ยวเขาไม่ให้เราดู

โค้ชเอก เอกพล - ไม่มีครับ วันนั้นก็คือจัดเต็มเลยครับ คือหมอก็อนุญาต

สุทธิชัย หยุ่น - หมอดูด้วยสินะ หมอก็เชียร์ด้วยนะ

โค้ชเอก เอกพล - จะมีหมอผู้หญิงจะอยู่อีกล็อกหนึ่ง คือจะเชียร์ โครเอเซีย นะครับ

สุทธิชัย หยุ่น - หมอก็แบ่งล็อก

โค้ชเอก เอกพล - แบ่งครับ

สุทธิชัย หยุ่น - แล้วพวกเราแบ่งหรือเปล่า

โค้ชเอก เอกพล - พวกเราก็แบ่ง

สุทธิชัย หยุ่น - หมูป่านี่กี่คน ฝรั่งเศส กี่คน โครเอเซีย

โค้ชเอก เอกพล - ส่วนใหญ่ เป็นฝรั่งเศสหมดเลยครับ แล้วโครเอเซีย มี 2 คน

สุทธิชัย หยุ่น - แล้วโค้ชเอก เองล่ะ

โค้ชเอก เอกพล - ฝรั่งเศสครับ

สุทธิชัย หยุ่น - ฝรั่งเศส ก็เลยเชียร์กันดังลั่น ดูสดตลอด และนั่นเป็นครั้งแรกที่ได้ดูฟุตบอล หลังจากที่ออกมา

โค้ชเอก เอกพล - ครับผม

สุทธิชัย หยุ่น - มีความสุขมาก เริ่มต้นเรื่องด้วยการถามว่า เข้าไปในถ้ำทำไม ใครจะตอบ

โค้ชเอก เอกพล - เดี๋ยวผมตอบ

สุทธิชัย หยุ่น - เป็นคนชวนเข้าไป ใช่ไหม

โค้ชเอก เอกพล - ไม่ใช่ว่าชวนครับ คือ ปรึกาากันตั้งแต่แรกแล้ว ตั้งแต่งานปั่นจักรยานดอยตุง ว่า ก็มีน้องๆ เขาบอกว่า พี่ทริปหน้า เราไปเที่ยวถ้ำหลวงกันไหม เพราะว่าพวกผมก็ไม่เคยไปกันเลย ผมก็ว่า ถ้าพวกเราอยากไปกัน ก็ได้ ไม่มีปัญหา เดี๋ยวเป็นคนนำไปก็ได้ แบบนี้ครับ แล้วหลังจากนั้นก็เลยวางโปรแกรม วางโปรแกรมซ้อม ไหนๆ ก็จะไปถ้ำหลวงแล้ว เราไปอุ่นเครื่องที่สนามบนดอยไหม ระหว่างทีนทอล์คสายใต้กับงทีนทอล์คสายเหนือ นะครับ ก็เลยเอาลงเฟซบุ๊ก เป็นทางการเมื่อวันพุธ ว่าเจอกันวันเสาร์ 10 โมง เราจะเริ่มคิกออฟ เป็นบอลอุ่นเครื่องแบบ Full Team จะไม่กำหนดอายุ อายุไม่เกิน 16 ก็เลยหลังจากนั้น พออุ่นเครื่องเสร็จ ก็เลยพากันไปที่ถ้ำ พาไปที่ถ้ำเพื่อที่จะไปศึกษาในถ้ำ ดูว่ามีอะไรบ้าง เพราะว่าต่างคนก็ต่างอยากเห็นนะครับ

สุทธิชัย หยุ่น - ไม่เคยไปถ้ำนี้มาก่อนเลยเหรอ

โค้ชเอก เอกพล - ส่วนตัวผม นี้เคยไป มีน้องๆ บางคนที่ไม่เคยไปเลย

สุทธิชัย หยุ่น - ตอนโค้ชเอก เข้าไปครั้งนั้นมันลึกแค่ไหน ไม่ลึกเท่ากับที่เราเข้าไปครั้งนี้ ใช่ไหมครับ

โค้ชเอก เอกพล- ลึกครับ เลยที่เนินนมสาวไปถึงจุดครั้งนี้ล่ะ เพราะครั้งที่แล้วที่ไปก็มีผม น้องดอม น้องโพล์ค แล้วก็น้องแปรง คือไปครั้งแรก เหตุการณ์แบบเดียวกันเลยครับ ที่สามแยกก็มีน้ำ มีน้ำขังนิดๆ ครั้งนี้ไปก็เหตุการณ์แบบเดียวกัน ก็คือมีน้ำนิดๆ ก็เลยลองเข้าไป ผมเป็นคนเข้าไปปุ๊บ จะไปกันไหม ถ้าไปเรามีเวลา 1 ชั่วโมง และหลังจากนั้นเราก็ต้องออกมากันเลยนะ

สุทธิชัย หยุ่น - ทำไม 1 ชั่วโมง

โค้ชเอก เอกพล - เพราะว่าต้องออกมาก่อน 5 โมงครับ เพราะว่าจะไปส่งน้องตั้นไปเรียนพิเศษ

สุทธิชัย หยุ่น - ตอนนั้นสภาพของตัวเองเป็นยังไง

โน้ต ประจักษ์ - ก็กินน้ำให้อิ่มๆ ยามว่างก็ไปขุดผนังถ้ำ ใช้ก้อนหินขุด

สุทธิชัย หยุ่น - ก้อนหิน แล้วมันขุดได้แค่ไหน อย่างไร

โน้ต ประจักษ์ - ก็ได้ประมาณ 3-4 เมตร

สุทธิชัย หยุ่น - ขุดเพื่ออะไรครับโค้ช

โค้ชเอก เอกพล - ขุดเพื่อหาทางออกครับ ตอนที่ติดวันนั้น เป็นวันที่ 4 หรือ 5 นี่แหละครับ มาปรึกษากันว่า เราหาทางออก เราจะไปยังไง ไปด้านหน้าก่อนที่เป็นเมืองบาดาล เพื่อหาทางออก เพราะว่ามีน้องๆ บางคน เหมือนน้องบิว น้องดอม เคยมาเข้าค่ายที่ถ้ำหลวง และก็มีเจ้าหน้าที่เคยบอกว่า มีทางออกอยู่ปลายถ้ำ แต่ระยะมันไกลมาก ก็เลยบอกว่าเราจะไปไหม เราจะเสี่ยงเพื่อมุดออกไปไหม ถ้าเรามุดออกไปนั่นหมายถึงว่าเรามีโอกาสครั้งเดียว ถ้าเราเจอ เราก็รอด แต่ถ้าเราไม่เจอทางออก นั่นหมายถึงว่า เราโดนปิดตาย 2 ชั้น ก็เลยพากันถอยกลับมา พอถอยกลับมาที่เนินนมสาว อยู่ด้านล่างของเนินนมสาว มาปรึกษากันว่า เราจะเอายังไงดี เรามีทางเลือกอยู่ 2 อย่าง คือ 1.เรารอตรงนี้ 2.รอเจ้าหน้าที่มาเจอ แล้วตอนนั้น จังหวะนั่นเอง มีน้ำไหลมา คือได้ยินเสียงน้ำ แล้วให้ทุกคนเงียบที่สุด พอฟัง แล้วก็ลองส่องไฟฉาย ปรากฎว่ามีน้ำเริ่มไหลมา พอน้ำไหลมา ก็ให้น้องๆ พากันรีบขึ้นบนที่สูง ที่เนินนมสาว พอได้สักพัก ไม่ถึงชั่วโมง น้ำก็ขึ้นสูงมาก ประมาณเกือบ 3 เมตรได้

สุทธิชัย หยุ่น - ได้ยินเสียงฝนตกใช่ไหม

โค้ชเอก เอกพล - ไม่ได้ยินครับ

สุทธิชัย หยุ่น - แต่ฝนตกตลอดเวลา ช่วงนั้น ที่น้ำขึ้นมา

โค้ชเอก เอกพล - แล้วหลังจากนั้น พอติดก็เลยบอกว่า เอาล่ะ ทางข้างล่างนี้ เราหมดสิทธิ์ไปแน่ๆ รอเจ้าหน้าที่มาอย่างเดียว แล้วก็อย่างที่ 2 คือ เราไปขุดผนังเพื่อหาทางออกกันดีกว่า อย่างน้อยก็คือ เราก็ทำอะไรบ้าง ไม่ใช่รอ มั่วแต่รอเจ้าหน้าที่มาเจอพวกเรา ก็เลยพากันขึ้นไป เพื่อไปขุดผนัง จะเปลี่ยนกันเรื่อยๆ พอคนหนึ่งขุดเสร็จ พอเหนื่อย ก็เปลี่ยนอีกคนคือวนไปเรื่อยๆ จนดึก

สุทธิชัย หยุ่น - ข้าวไม่มีกิน อาหารก็ไม่มี ต้องขุดด้วย แรงมันก็หมดไปด้วยสิ

โค้ชเอก เอกพล - หมดครับ แต่ก่อนที่มันจะหมด จะขึ้นไปขุด จะกินน้ำให้อิ่ม กินน้ำให้อิ่มก่อน แล้วก็ขึ้นไป จะไปอยู่ข้างบนนี้เกือบทั้งวัน เพื่อที่จะหาทางออก แล้วพอตอนเย็นก็จะลงมาด้านล่างที่เนิน ที่อยู่ใกล้น้ำ และก็เอาน้ำ ตอนนั้นน้ำก็เริ่มตกตะกอนแล้ว มันเริ่มใส ก็เลยลงมากินน้ำตรงนั้น แล้วก็ขึ้นมานอนที่ใกล้น้ำที่สุด

สุทธิชัย หยุ่น - หมอภาคย์ลองเล่าตัดฉากมาว่า มีนักดำน้ำอังกฤษไปเจอแล้ว ฉะนั้นแผนปฏิบัติการช่วยให้ออกจากถ้ำเริ่อมแล้ว และคุณหมอภาคย์กับพี่ซีล 3 คน ได้ไปอยู่กับเด็กถึง 9 วัน ปฏิบัติการตัดสินใจช่วยเด็กออกมา มีอะไรเล่าให้ฟังบ้าง

พันโทนายแพทย์ ภาคย์ โลหารชุน - ก็พอหลังจากที่พบเด็ก ทางทีมซีลก็ดำน้ำเข้าไปหา แล้วก็จัดมีพวกผม 4 คน อยู่ดูแลน้องๆ เพื่อที่จะได้ เขาเรียกว่าเอาเพิ่มพลังงาน อนุบาลร่างกายให้แข็งแรงก่อน ที่นี่ก็พิจารณาดูแผนที่จะให้พาออกไปก็ให้เป็นฝ่ายกองอำนวยการข้างนอก ให้กองอำนวยการได้ว่างแผนในการนำออกไป แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่คิดว่า มันน่าจะเป็นไปได้ก็คือ การที่พาน้องๆ ออกไปทางเดิม ก็คือดำน้ำออกไป เพราะว่าทุกคนดำเข้ามายากลำบากมาก ในใจตอนแรกอยากให้เจาะโพรง หาวิธีเจาะเข้ามาด้วยซ้ำ

สุทธิชัย หยุ่น - โรยตัวลงมา

พันโทนายแพทย์ ภาคย์ โลหารชุน - ใช่ๆ ครับ ก็คือตรงนั้นน่าจะปลอดภัยที่สุด ถ้าสามารถเจาะได้ แล้วก็อีกอย่างหนึ่งรอให้ระดับน้ำลดลงไป อันนี้เท่าที่ฟังแผนจากคนที่มาส่งเสบียง ก็คือนักดำน้ำพวกต่างชาติ เจสัน เขาบอกว่า เนี่ยเอาเสบียงมาส่ง แล้วอยู่ให้ได้อาทิตย์ถึง 2 อาทิตย์นะ ส่วนแผนการหนึ่งก็คือ คอย สองก็คือเราจะใช้หน้ากากฟูลเฟสแมส แล้วก็ดำพาเด็กออกไป คราวนี้ผมก็รอการตัดสินใจจากข้างนอก แต่ในใจก็ดำน้ำจะไหวไหม ยังเด็กกันอยู่ทั้งนั้น เราเป็นห่วง

สุทธิชัย หยุ่น - แต่ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจ ที่จะพาออกมาได้อย่างปลอดภัย ซึ่งต้องถือว่าเป็นการตัดสินใจ และเป็นปฏิบัติการยังไม่เคยมีที่ไหนในโลกมาก่อน พี่ซีล 3 ท่าน ก็ไปอยู่ด้วยกันกับเด็ก เล่าให้ฟังหน่อยสิครับ โดยเฉพาะพี่ใบเตยใช่ไหม พี่ใบเตยทำไม ผมได้ยินข่าวแว่วๆ ว่าอยู่ในนั้นโป๊มากเลย ไปทำอะไรครับ ให้เด็กเล่าก่อนก็ได้ ใครจะเล่าเรื่องพี่ใบเตย เขาเป็นคนยังไง

มิก ภานุมาศ - เขาใส่แต่กางเกงในครับ แล้วก็เอาฟอยล์ปิดไว้ครับ

สุทธิชัย หยุ่น - ทำไมครับ พี่ใบเตยถึงทำไมถึงเป็นอย่างนั้นครับ

พงษ์ สมพงษ์ - เพราะว่าชุดเวทสูทของพี่ใบเตยยังเปียกครับ แล้วก็ไม่ได้เตรียมกางเกงเข้าไปด้วยครับ

สุทธิชัย หยุ่น - ไม่ได้เตรียมกางเกง ใส่แต่กางเกงใน

พงษ์ สมพงษ์ - แล้วก็เอาฟอยล์มาปิดไว้ครับ

สุทธิชัย หยุ่น - แล้วพวกเราเห็นแล้วมันยังไง รู้สึกว่ามันโป๊ไปไหม

พงษ์ สมพงษ์ - ก็โป๊อยู่ครับ แต่ก็ตลกไปด้วยครับ

สุทธิชัย หยุ่น - พี่ใบเตย ทำไมถึงทำเช่นนั้นครับ เกิดอะไรขึ้นครับ

ซีล 1 พี่ใบเตย - ก็อันดับแรกนะครับ ในการปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ก็ สำหรับ ผบ.หน่วยซีล ท่านก็คติไว้แล้วนะครับ ว่า ถ้าไม่เจอเด็ก ก็จะไม่กลับเด็ดขาด จะดำเนินการต่อไปเรื่อยๆ สำหรับผมก็จังหวะก็อยู่ตรงนั้นพอดี ในการเดินทางไปก็รู้สึกว่า จะโดนเยอะนิดหนึ่ง ก็เพราะว่าไม่ได้ใส่หมวกกันน็อกไป หัวจะทิ่มกับหินย้อยตลอดทาง แล้วก็แมสก็จะทิ่มตลอด ก็คิอในใจภารกิจนี้ยังไง ก็ต้องสำเร็จ ต้องไปให้ถึงให้ได้ เพราะว่ารู้ว่าเจอเด็กแล้วก็รีบไปอย่างไหว สำหรับเข้าไปถึง อันดับแรกก็ทดสอบกำลังใจเด็กๆ ก็ถามเด็กๆ ว่า หมูป่าสู้ไหม ครั้งแรกเงียบๆ เสีงเบาๆ อยู่ หมูป่าสู้ไหม (สู้ครับ เสียงหมูป่าตะโกนกลับ) ก็ถามแบบนี้ ทดสอบกำลังใจก่อน หลังจากนั้นผมขึ้นไปก็ 18+ เลย ก็แก้ผ้าหมดเลย เพราะว่าในเสื้อผมมันจะมีพวกเพาเวอร์เจล แล้วก็พวกฟอยล์อยู่ด้านในเสื้อ แล้วก็ในกระเป๋ากันน้ำของผมก็มีด้วยที่พกไป แล้วก็ยารักษาโรคอยู่ด้านใน แล้วก็ไฟฉาย แล้วก็ถ่านทั้งหมด แต่พอไปถึงก็ต้องทำการแจกจ่ายพวกฟอยล์ให้เด็กๆ สำหรับการห่มมันไม่พอนะครับ อุปกรณ์ที่เอาไปชุดแรกมันไม่พอ มันต้องมีการปูพื้นด้วย เพราะว่าพื้นมันจะเป็นโคลนซะมากกว่า มันจะชื้นตลอด อากาศจะชื้นเย็นตลอด ถ้าไม่มีอะไรมารองนอนไม่ได้ ผมก็เลยให้เด็กหมด ก็เหลือเศษๆ ที่เป็นเล็กๆ ผมก็เอาทำมาเป็นชุดเกาะอกเลย ข้างล่างก็ทำเป็นกระโปรงพันๆ ไว้ครับ เหมือนชุดใบเตยเลยครับ เอาง่ายๆ อาร์สยองไปเลย

พันโทนายแพทย์ ภาคย์ โลหารชุน - ผมรับประกันเลย เซ็กซี่ที่สุดแล้ว

สุทธิชัย หยุ่น - เป็นพี่ซีลที่เซ็กซี่ที่สุดแล้ว ชีวิตที่อยู่ด้วยกันหน่วยซีล หมอภาคย์ และเด็ก 9 วันเต็มๆ มันจะต้องย่อมมีความผูกพันที่ไม่ปกติ เพราะว่ามันอยู่กันตลอด คุยกันตลอด เห็นบอกว่ามีการสอนวิธีเล่นเกม เดินหมากรุก ทำอะไรต่างๆ นานาด้วยใช่ไหมครับ ทำอะไรบ้างเดินหมากรุกจริงรึเปล่า เดินยังไงครับ บนนั้นมันจะเป็นหมากรุกได้ยังไงครับ

บิว เอกรัตน์ - เล่นหมากฮอสครับ จะมีพี่ใบเตยเป็นแชมป์ถ้ำครับ King of cave

สุทธิชัย หยุ่น - King of cave พี่ใบเตยนี่หรอ ทำเราถึงแพ้เขาล่ะ

บิว เอกรัตน์ - ไม่รู้ครับ แต่พยายามจำแผนการเล่นของพี่ใบเตยไว้ครับ พี่ใบเบยเล่นเป็นสามเหลี่ยม

สุทธิชัย หยุ่น - แน่นอนว่าความทรงจำของเราหลายๆ อย่าง หลายๆ คนเป็นแบบไหน เดี๋ยวถามข้อหนึ่ง ความทรงจำของพวกเราต่อซีล พี่ซีลเป็นอย่างไรบ้าง

โค้ชเอก เอกพล - ส่วนใหญ่ก็จะผูกพันเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน เพราะพี่ๆ หน่วยซีลก็คือ อยู่แบบครอบครัว คือ กิน ก็กินด้วยกัน นอน ก็นอนด้วยกัน

สุทธิชัย หยุ่น - คนอื่นครับ เชิญครับ ตอบพี่ซีล

มาร์ค มงคล - ความรู้สึกกับพี่ใบเตยว่า เหมือนพ่อครับ เพราะพี่ใบเตยเรียกว่าลูกครับ

พงษ์ สมพงษ์ - รู้สึกดีใจครับ ว่าพี่เขาก็หาอะไรให้พวกเราทำครับ สนุกด้วยครับ และก็เล่าเรื่องอะไรให้ฟังด้วยครับ

สุทธิชัย หยุ่น - หมอภาคย์เองอยู่กับเด็กมา 9 วัน ความทรงจำของหมอภาคย์เองต่อเด็ก เพราะผมเห็นว่าสนิทสนมกันมาก เจอกันตอนนี้รู้สึกว่าเป็นครอบครัวเดียวกันจริง มีความรู้สึกผูกพันกันจริงๆ

พันโทนายแพทย์ ภาคย์ โลหารชุน - ก็สนิทสนมกันทุกคนครับ ไม่ใช่เฉพาะผมหรือใบเตย น้องไมค์ น้องป้อม ก็สนิทกันทุกคน ระยะเวลา 9 วันนี้ มันเป็นช่วงที่เราต้องแบ่งปันซึ่งกันและกัน ไม่ว่าเรื่องอาหารหรือว่าเรื่องเราต้องไปดูแลว่าจะทำให้เด็กๆ อยู่แล้วสบายใจ อยู่แล้วปลอดภัย อันนี้เราต้องมาดูแล ตัวผมเองก็มีลูกชาย น้องๆ เองก็มีลูกกันทั้งหมด ก็มองเด็กๆ อายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูก เอ็นดู แล้วอยู่ด้วยกันตอนนี้มันก็ซึมซับกันไป มันก็รู้สึกเหมือนครอบครัว

สุทธิชัย หยุ่น - มีความรู้สึกดีๆ มกมาย ตรงนี้ แต่ก็มีความรู้สึกเศร้าว่าด้วยเรื่องจ่าแซม เด็กๆ มีอะไรจะมาเสนอเพื่อระลึกอะไรถึงจ่าแซมใช่ไหมครับ โค้ชเอก เชิญครับ

โค้ชเอก เอกพล - ก็รู้สึกเสียใจ แล้วก็อีกอย่างก็คือประทับใจในตัวจ่าแซมที่ว่ายอมเสียสละชีวิตเพื่อที่ว่าจะปกป้องน้องๆ หมูป่า ทั้ง 13 คน เพื่อที่จะออกไปใช้ชีวิตข้างนอกอย่างมีความสุข ใช้ชีวิตอย่างปกติ แล้วก็ส่วนใหญ่ทุกคนก็คือ รู้ข่าวว่า รู้ไหมว่า มีคนเสียสละชีวิตให้เรา 1 ท่าน ทุกคนตอนแรกก็มีอาการช็อก ช็อกว่ามันจริงเหรอ แล้วทุกคนตอนนั้นก็ พอรู้สึก ทุกคนก็เสียใจมาก คือเหมือนกับว่าตัวเอง คือเป็นคนต้นเหตุทำให้พี่จ่าเขา ทางครอบครัวเขาต้องเสียใจ ต้องเดือดร้อน

สุทธิชัย หยุ่น - มีภาพด้วยใช่ไหมครับ มีภาพที่วาดเพื่อที่จะ และก็มีข้อความอยากจะให้ออกมาโชว์หน่อยครับ นำเสนอหน่อยครับ ว่าภาพนี้และข้อความที่รำลึกถึงจ่าแซม

โค้ชเอก เอกพล - ก็ตอนนี้นะครับ ก็คือมีหมอมาบอกว่ามีรูปของจ่าแซมมาพวเราจะทำยังไง ทุกคนก็ตอบเป็นเสียงเดียวว่าเขียนข้อความส่งถึงครอบครัว แต่ก็ไม่รู้ว่าจะส่งไปยังไง ก็เลยพากันมาเขียนเป็นความในใจ เพื่อที่ถ้ามีโอกาสก็คิอว่าจะมีคนส่งไปให้จ่าแซม หรือว่าทางครอบครัวของจ่าแซม

สุทธิชัย หยุ่น - จะลองอ่านข้อความที่เขียนเอาไว้สักคน 2 คนไหมครับ ใครจะมาอ่าน ขอน้องเล็กที่สุดมาอ่านหน่อยได้ไหมครับ อ่านที่เขียนบันทึก เพราะมันตัวเล็ก อ่านเสียงดังๆ นะครับ

ไตตั้น ชนินท์  - ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ ขอให้ท่านสู่สุคติ และขอขอบพระคุณท่านที่ได้เสียสละทั้งกายและใจ และขอแสดงความเสียใจไปกับครอบครัวคุณจ่าอย่างสุขใจ และขอกราบขอบพระคุณทั้งคุณจ่าและครอบครัวคุณจ่าทุกคนด้วยครับ ขอให้คุณจ่าหลับให้สบายและขอให้ไปสู่สุคติที่ดีครับ ขอขอบพระคุณจากใจจริงครับ จาก เอกพล จันทะวงษ์

สุทธิชัย หยุ่น - ครับ เป็นสิ่งที่ผมเชื่อว่าเด็กๆ จะไม่มีวันลืมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทางที่ประทับใจหรือว่าทางที่เกิดความเศร้าสลดเป็นบทเรียนต่างๆ บทเรียนทุกคนในสังคม จะต้องถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ อยากจะให้หมูป่า ใครก็ได้หลายๆ คน บอกว่าบทเรียนครั้งนี้สำหรับตัวหมูป่าเอง และคนอื่นๆ เนี่ย เป็นยังไงบ้าง เชิยก่อน โค้ชเอกเชิญก่อน

โค้ชเอก เอกพล - บทเรียนครั้งนี้ก็คือก่อนอื่นก็คือ ซาบซึ้งในน้ำใจของทุกๆ ท่าน ทุกๆ คน และก็คือจะใช้สติอย่างมีประโยชน์ และใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า ที่ตัวเองได้ประสบภัยในครั้งนี้ ก็คือจะใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาณ ถ้าจะทำอะไร ต้องเช็กให้ดีก่อนว่า ตรงนี้ควรทำหรือไม่ควรทำ

สุทธิชัย หยุ่น - เชิญครับ บทเรียนที่เราได้จากประสบภัยครั้งนี้

ตี๋ พรชัย - ก็ได้เรียนรู้บทเรียนอะไรหลายๆ อย่าง เกี่ยวกับอุทกภัยในครั้งนี้ครับ

สุทธิชัย หยุ่น - และเราเองจะตั้งปณิธานว่าตัวเราเองจะต้องทำยังไงหลังจากเหตุการณ์นี้ครับ

ตี๋ พรชัย - ก็จะเป็นคนดีของสังคมครับ

สุทธิชัย หยุ่น - ครับ เชิญครับ ต่อมากันเลยครับ

อดุลย์ - สำหรับผมเองก็คิดว่าการที่เราเองประมาณในการใช้ชีวิตของตน มันเป็นสิ่งที่เราไม่ได้คาดคิดไว้ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และเราไม่รู้ว่าในเดือนหน้าเราเจอกับอะไรครับ แต่ประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้ผมรู้ว่าการที่พวกใช้ชีวิตประมาณ ใช้ชีวิตที่ไม่คิดก่อนทำ มันเป็นสิ่งที่ส่งผลที่จะดีหรือไม่ดีให้กับเราในวันข้างหน้า ผมก็จากครั้งนี้ผมจะใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่สุด ขอบคุณครับ

สุทธิชัย หยุ่น - เชิญครับ ที่เราก่อนเข้าถ้ำ เราเคยมีความฝันอย่างหนึ่ง วันนี้หลังจากนั้นประสบความครั้งนั้นแล้ว ความฝันเราเปลี่ยนไหมครับ

มาร์ค มงคล - ไม่ครับ

สุทธิชัย หยุ่น - ความฝันคือ

มาร์ค มงคล - นักฟุตบอลอาชีพครับ

สุทธิชัย หยุ่น - แต่ว่าประสบการณ์นี้ทำให้เราเข้มแข็งขึ้นไหม ทำให้เรามุ่งมั่นขึ้นไหม ทำให้เรารู้สึกว่าเราจะต้องทำอะไรที่เข้มแข็งกว่านี้ไหม

มาร์ค มงคล - มีครับ ทำให้เข้มแข็งขึ้น แล้วก็อดทนครับ

ไตตั้น ชนินท์ - ประสบการณ์ครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งใหญ่ของชีวิตในตัวของผม ได้รู้คุณค่าต่างๆ ในตัวของผมด้วยครับ แล้วประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้ผมอดทน เข้มแข็งขึ้น แล้วก็ไม่ท้อด้วยครับ

สุทธิชัย หยุ่น - ต่อเลยครับ สั้นๆ ทุกคนครับ

บิว เอกรัตน์ - ผมก็อยากทำตามความฝันครับ เหมือนเดิมครับที่อยากเป็นนักฟุตบอล แต่อาจจะมีอาชีพที่มาเพิ่ม ก็คือ อยากเป็นหน่วยซีลด้วยครับ

สุทธิชัย หยุ่น - ในนี้ หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ใครอยากจะเป็นวีลบ้าง จากนี้ไป (โค้ชเอก,น้องบิว,น้องดอม,น้องพงษ์ ทั้ง 4 คนยกมือขึ้น)

ดอม ดวงเพชร - ผมก็อยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพและหน่วยซีลครับ

สุทธิชัย หยุ่น - เป็นทั้ง 2 อย่างเลย

ดอม ดวงเพชร - ครับ

สุทธิชัย หยุ่น - เป็นได้ไหม เป็นได้ 2 อย่างไหมพี่ซีล เป็นซีลด้วย เป็นฟุตบอลอาชีพด้วยได้ไหม ได้นะ ข้างบนครับ เชิญ

มิก ภานุมาศ - ผมก็อยากจะเรียนจบสูงๆ ครับ ได้ทำงานดีๆ แล้วก็อยากเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพครับ

พงษ์ สมพงษ์ - ผมก็อยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพนะครับ ที่เพิ่มขึ้นมาก็อยากเป็นหน่วยซีลครับ

สุทธิชัย หยุ่น - ทำไมถึงอยากเป็นหน่วยซีล

พงษ์ สมพงษ์ - อยากช่วยคนครับ

สุทธิชัย หยุ่น - สุดยอด

เติ้ล ณัฐวุฒิ - ผมก็ยังนึกไม่ออกครับ ว่าอยากเป็นอะไร ขออยากให้เรียนจบสูงๆ ก่อนครับ

โน้ต ประจักษ์ - ผมก็อยากเรียนให้จบสูงๆ แล้วก็ทำให้แม่ภูมิใจ และอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ

นิค พิพัฒน์ - ผมก็อยากเรียนให้จบสูงๆ และอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ

ไนท์ พีรพัฒน์ - ผมก็อยากเรียนให้จบสูงๆ อยากติดทีมชาติครับ

สุทธิชัย หยุ่น - อยากติดทีมชาตินะครับ ถ้ามีคนชวนกลับไป จะไปไหม

โค้ชเอก เอกพล - ส่วนตัวผมก็คือ ถ้าเขาชวนก็อาจจะไม่ไป แต่ถ้าเป็นพี่ๆ หน่วยงาน หรือว่าเขาขอร้องให้เป็นไกด์ให้หน่อย ก็อาจจะเป็นไกด์ให้อยู่ครับ แต่อาจจะเป็นไกด์แค่หน้าถ้ำ แล้วให้พี่ๆ เขาเข้าไปกัน

สุทธิชัย หยุ่น - ฉลาดขึ้นนะ ฉลาดขึ้น มีข่าวว่าที่เป็นห่วงมากเลย ก็คือกลัวว่าจะทำการบ้านไม่ทัน ใช่ไหมครับ เป็นยังไง ตอนนี้ยังไม่ได้พบคุณครูใช่ไหมครับ

ตี๋ พรชัย - ยังไม่ได้พบคุณครูครับ

สุทธิชัย หยุ่น - แล้วทำไมห่วงการบ้านทำไม่ทันครับ

ตี๋ พรชัย - เพราะว่าครูสั่งงานเยอะครับ

สุทธิชัย หยุ่น - เยี่ยมเลย ท่านผู้ว่าฯ ครับ ทางจังหวัดเตรียมพร้อมแผนที่จะรับชุดช่วงต่อไปรึเปล่าครับ

ประจญ ปรัชญ์สกุล - แน่นอนครับ เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ในพื้นที่ ผู้ว่าราชการคงจะต้องทำหน้าที่ ในพื้นที่จังหวัดแทนรัฐบาล เพราะว่าเรื่องก็ถือว่าเป็นเรื่อสำคัญ เรื่องเด็ก วันนี้ในถ้ำมีผู้ดูแล ในโรงพยาบาลมีหมอดูแล กลับไปบ้านเรามีทีมสหวิชาชีพได้มอบหมายจากพัฒนาสังคมและมนุษย์ เพื่อเสื้อสีฟ้าๆ ไหมครับ ทีมนี้เขาจะไปประกบ ไปดูแลน้องๆ วันนี้โดยกฎหมายแล้ว ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก ปี 2546 มีกฎหมายไว้ มีทีมสหวิชาชีพในระดับจังหวัด และในระดับอำเภอ ประธานอนุกรรมการท่านนายอำเภอครับ วันนี้ท่านนายอำเภอจะเป็นแกนกลาง ในการที่จะเข้าไปดูแลทั้งผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ทางตำรวจ ทางสาธารณสุข ในพื้นที่อำเภอแม่สาย เราเข้าไปช่วยดูแลเขา เรื่องต่างๆ ที่เขาไปอยู่บ้านแล้ว คนเข้าไปช่วยดูแล มีผู้คนเข้าไปตอนนี้คอนเนกชั่นอะไรต่างๆ ท่านนายอำเภอต้องรู้ ต้องรับทราบ ท่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องรู้ ต้องรับทราบด้วย เพื่อจะได้รู้ว่าสิ่งที่เขาไปเป็นยังไงกับเด็กบ้าง วิเคราะห์โดยจะมีการนั่งประชุมหารือ หาทางออกกัน แล้วก็จะมีการรายงานเข้าจังหวัด ซึ่งผมก็จะเฝ้าติดตามอยู่ตลอดเวลา จนกว่าเรื่องนี้เขาจะคืนสู่สภาพปกติ เหมือนก่อนเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ตอนนี้

สุทธิชัย หยุ่น - คืนนี้จะได้กลับบ้านกันแล้ว กลับบ้านอยากจะทำอะไรเป็นสิ่งแรก ได้กินข้าวผัดกะเพราหมูแดงรึยัง

ดอม ดวงเพชร - ยังครับ

สุทธิชัย หยุ่น - แล้วได้กินตัวที่ตัวเองเรียกร้องตั้งแต่ตอนแรก

เติ้ล ณัฐวุฒิ - เกือบจะทุกอย่างที่ต้องการ มีขนมปังช็อกโกแลต ผัดกะเพราหมูกรอบครับ

สุทธิชัย หยุ่น - ยังไม่ได้กินเลย

ดอม ดวงเพชร - ยังครับ

สุทธิชัย หยุ่น - อยากกินอะไรตอนนี้

ดอม ดวงเพชร - อยากกินข้าวขาหมูครับ

สุทธิชัย หยุ่น - ได้กินรึยังครับ ที่เราอยากกิน ตอนที่อยู่ในถ้ำ โอ้ยเราหิวมากเลย

มาร์ค มงคล - ได้แล้วครับ โจ๊กครับ

สุทธิชัย หยุ่น - ละเมอด้วย ในถ้ำหรอ ไหนเล่าให้ฟังหน่อย

พันโทนายแพทย์ ภาคย์ โลหารชุน - ละเมอด้วยว่าอยากกินโจ๊ก

สุทธิชัย หยุ่น - ในถ้ำหรอ ไหนเล่าให้ฟังหน่อย ละเมอในถ้ำกินโจ๊กครับ

พันโทนายแพทย์ ภาคย์ โลหารชุน - น้องมาร์คเนี่ย จริงๆ ตามแผนการที่คุยกับทีมงาน คุยด็อกเตอร์แฮร์ริส ว่าจะเอาน้องออกก่อน วันแรก 6 คน น้องมาร์คอยู่ใน 1 ใน 6 คนแรกเลย ปรากฏว่าวันแรกอุปกรณ์มีจำกัด หน้ากากขนาดเล็กไม่มี เลยเหลือแค่ 4 คน น้องมาร์คตกขบวน พอมาวันที่ 2 น้องมาร์คจัดเป็นคิวแรกเลย ด็อกเตอร์แฮร์ริส บอกว่ายังไม่มีหน้ากากสำหรับเด็ก รอไปก่อน

สุทธิชัย หยุ่น - นี่เด็กที่สุดใช่ไหม

พันโทนายแพทย์ ภาคย์ โลหารชุน - ใช่ครับ ตัวเล็กครับ เลยต้องมาเป็นวันสุดท้าย ที่นี้คืนก่อนวันสุดท้าย เนื่องจากผิดหวังมา 2 วันแล้ว ก็นอนหลับ แล้วก็ละเมอ อยากกินโจ๊ก

สุทธิชัย หยุ่น - แล้วฝันเหรอ ละเมอเลยหรอครับ มีคำถามหนึ่งที่ถามมาจากสื่อหลายสำนักก็คือว่าตอนที่ออกมาเลือกกันยังไง 4 คนแรก 4 คนหลัง 5 คนหลัง ใครเป็นคนตัดสิน ใครเป็นคนเลือก

โค้ชเอก เอกพล - ที่เลือกออกมา ส่วนใหญ่ก็จะมีผมกับพี่ๆ หน่วยซีล ปรึกษากันว่าให้ใครออก แล้วที่นี้พี่ๆ หน่วยซีลก็บอกว่า ให้เอกลองพิจารณาว่าให้ใครอก แล้วทุกคนก็บอกใครออกก่อนก็ได้พี่ ไม่ซีเรียส แล้วผมก็ตัดสินใจว่า งั้นเอาชุดแรกเป็นสายในก่อนล่ะกัน สายใน นี่หมายถึงว่า อยู่บ้านเวียงหอม คือเนื่องจากว่าน้องๆ เขาเนี่ย เขาอยู่ไกล บ้านเขาอยู่ไกลมากๆ ที่วางโปรแกรมไว้ก็คือ พอออกไปแล้วน้องๆ เขาจะปั่นจักรยานกลับบ้าน แล้วอีกอย่างก็คือฝากความหวังไว้ที่น้อง เพราะว่าไปบอกครอบครัวด้วยว่า พรุ่งนี้จะออกมานะ แล้วอีกอย่างก็คือให้เตรียมกับข้าวรอไว้ด้วย

สุทธิชัย หยุ่น - ฉะนั้นคนอยู่บ้านไกล ก็ออกไปก่อนจริงไหม

โค้ชเอก เอกพล - ครับผม

สุทธิชัย หยุ่น - ไม่ได้ดูว่าใครแข็งแรงกว่าใครอ่อนแอรึเปล่า

โค้ชเอก เอกพล- ไม่มีครับ ส่วนใหญ่เป็นความสมัครใจของน้องๆ เป็นความสมัครใจของน้องๆ ก็เลยบอกว่า งั้นก็เอาสายในออกก่อนล่ะกัน เพื่อที่จะได้ออกไปแล้วบอกข่าว บอกคนข้างนอกว่า ทุกคนไม่เป็นไร สบายดี มีพี่ๆ หน่วยซีลคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง

สุทธิชัย หยุ่น - แล้วรุ่นที่อะไร คนที่เท่าไหร่ที่ออกมา

ดอม ดวงเพชร - ชุดที่ 2 ครับ

บิว เอกรัตน์ - ผมก็ชุดที่ 2 ครับ

สุทธิชัย หยุ่น - บ้านใครไกลที่สุด 4 คนนี้ ใช่ไหม พี่ซีลครับ 4 คนนี้ เลือกตามนี้เลยใช่ไหม ที่ปรึกษา

ซีล 2 ป้อม - ก็ตามนั้นแหละครับ ตามที่เขาสมัครใจเลยครับ

สุทธิชัย หยุ่น - ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสุขภาพเขา ไม่ว่าเขาอ่อนแอ อย่างที่เป็นข่าวช่วงหนึ่งใช่ไหมครับ

พันโทนายแพทย์ ภาคย์ โลหารชุน - คือการคัดเลือก ผมคุยกับด็อกเตอร์แฮริสไว้แล้ว สุขภาพทุกคนแข็งแรง ไม่มีโรค ไม่มีภาวะแทรกซ้อนใดๆ คือทุกคนมีความแข็งแรงใกล้เคียงกันหมดเลย คราวนี้ปรึกษากันว่าจะออกยังไง เอาตัวเล็กออกก่อนไหม หรือว่าเอาตัวใหญ่ หรืออะไรยังไง ด็อกเตอร์แฮริสบอกว่าไม่เป็นไร ใครออกก่อนก็ได้ ก็ให้ได้เป็นผู้คัดเลือกตามความสมัครใจ ใครจะออกก่อนยกมือขึ้น

สุทธิชัย หยุ่น - ใช้วิธีนี้หรอ ใครอยากออกยกมือขึ้น แล้วคนที่ยกช้าล่ะ

โค้ชเอก เอกพล - คือไม่มีครับ พอส่วนใหญ่ยกช้าปุ๊บ ครบแล้วก็ลง ไม่เป็นไร เพราะทุกคนส่วนใหญ่รวนๆ อยากอยู่กับพี่ๆ หน่วยซีล

สุทธิชัย หยุ่น - ไม่อยากออกจากถ้ำเลย

โค้ชเอก เอกพล - คือตอนนั้น คือช่วงนั้นคือไม่อยากออกติดพี่ๆ เขามาก

สุทธิชัย หยุ่น - ติดพี่มาก ก็อยู่ในนั้นเลยสิ

พันโทนายแพทย์ ภาคย์ โลหารชุน - ติอพี่หรือติดขนม ไม่ยอมออกเพราะติดขนม

สุทธิชัย หยุ่น - ขนมอร่อยมากเหรอ

พันโทนายแพทย์ ภาคย์ โลหารชุน - ผมว่ามันไม่อร่อยนะ ในความคิดของพวกผม แต่ว่าเด็กๆ อร่อยมาก มีคนแอบยัดใส่เสื้อดำน้ำออกมาด้วย

สุทธิชัย หยุ่น - เพราะหิวมานาน อะไรๆ ก็ย่อมอร่อย กลับบ้านเจอคุณพ่อคุณแม่ ประโยคแรกที่จะบอกกับคุณพ่อคุณแม่

พงษ์ สมพงษ์ - ก็อยากจะขอโทษครับ ที่เป็นเด็กดื้อ ไม่ค่อยเชื่อฟัง

สุทธิชัย หยุ่น - คุณแม่อยู่ไหม ดื้อไหม ไม่ดื้อ ขอโทษคุณพ่อคุณแม่ โอเค ประโยคแรกที่เราจะบอกกับคุณพ่อคุณแม่

เติ้ล ณัฐวุฒิ - ก็ขอโทษครับ ที่เป็นเด็กดื้อ เพราะตอนเข้าถ้ำ ผมไม่บอกครับว่ามาเข้าถ้ำ ผมแค่มาบอกว่าอุ่นเครื่องซ้อมบอลอะไรแบบนี้

สุทธิชัย หยุ่น - อ๋อ ไม่ได้บอก ต่อไปนี้จะบอกนะ ไปไหน

เติ้ล ณัฐวุฒิ - ครับ จะบอกตลอดเลยครับ ไม่เข้าถ้ำอีกแล้วครับ

มิก ภานุมาศ  - ก็อยากขอโทษพ่อแม่ครับ เพราะว่าบอกแค่ไปเล่นฟุตบอลครับ ก็แอบเอาไฟฉายใส่กระเป๋าไปครับ เพราะรู้ว่าถ้าบอก ไม่ได้เข้าถ้ำแน่ๆ ครับ

โน้ต ประจักษ์  - ผมก็อยากขอโทษครับ ที่ไปแล้วก็ไม่บอกครับ บอกแค่ว่าไปเตะบอลครับ

สุทธิชัย หยุ่น  - ไปเตะบอลในถ้ำ

นิก ภานุมาศ - ก็อยากขอโทษพ่อแม่ครับ ที่ไปแค่ซ้อมบอล ไม่ได้บอกว่าจะไปเที่ยวถ้ำครับ

ไนท์ พีรพัฒน์ - ผมก็อยากบอกว่าขอโทษครับ ที่เป็นเด็กดื้อ แล้วไม่ได้บอกว่าไปเข้าถ้ำครับ แค่บอกว่าไปอุ่นเครื่องที่สนามบ้านจ้องแค่นี้

ดอม ดวงเพชร - ก็อยากจะขอโทษ วันนั้นแค่บอกว่าจะไปเตะบอล

สุทธิชัย หยุ่น - เตะบอลเฉยๆ ไม่ได้บอก

บิว เอกรัตน์ - ผมก็อยากบอกขอโทษครับ เพราะว่าผมบอกผิดถ้ำครับ

สุทธิชัย หยุ่น - บอกผิดถ้ำ

บิว เอกรัตน์ - บอกจะไปตรงถ้ำขุนน้ำ ผมไม่บอกว่าถ้ำหลวงครับ สงสัยน่าจะค้นหาทุกถ้ำเลยคครับ

มาร์ค มงคล - ผมก็อยากขอโทษครับ ที่บอกว่าไปเล่นบอล สุดท้ายแอบเข้าถ้ำ ก็ไม่ได้บอก อยากจะขอโทษครับ

ไตตั้น ชนินท์ - ผมก็อยากขอโทษพ่อแม่ ที่แค่บอกว่าไปเล่นบอลครับ ไม่ได้บอกว่าไปเข้าถ้ำ ก็ตอนที่นึกว่าออกไปนี่โดนพ่อถล่มแน่นอน

สุทธิชัย หยุ่น - พ่อต้องถล่มแน่นอน ซึ่งต้องสมควรไหม

ไตตั้น ชนินท์ - ก็สมควรอยู่ครับ

อดุลย์ - ผมก็อยากขอโทษเหมือนกันครับ แล้วก็อยากบอกรักพ่อแม่ครับ เห็นคุณค่าแล้วครับ ว่าการที่เราไม่บอกตรงๆ ต่อพ่อแม่ มันจะเป็นสิ่งที่ทำเราผิดหวังทีหลังครับ

ตี๋ พรชัย - ของผมก็อยากขอโทษพ่อแม่ รู้แน่ๆ ว่าออกไปนี่ แม่ถล่มยับ

สุทธิชัย หยุ่น - เอกช่วยสะท้อนทั้งกลุ่มเลย ว่ากลับบ้านจะทำตัวอย่างไร จะบอกกับพ่อแม่อย่างไร

โค้ชเอก เอกพล - ก็ส่วนใหญ่ตอนติดอยู่ในถ้ำ ทุกคนก็บอกว่าผมออกไปเนี่ย ผมโดนพ่อแม่ด่าแน่ๆ และอีกอย่างบางคนบอกว่าขนาดผมเข้าบ้านดึกนะ พ่อกับแม่ผมยังด่าเลย เราเริ่มมาติดกันนานแล้ว เป็น 10 วันแล้ว ผมว่าออกไป รับรองได้นอนหน้าย้านแน่นอนอน

สุทธิชัย หยุ่น - ได้นอนถ้ำเลยนะ

โค้ชเอก เอกพล - นอนถ้ำเลยครับ

สุทธิชัย หยุ่น - จากนี้ไป การรวมตัวของทีมหมูป่า ก็ยังจะเหนียวแน่นเหมือนเดิม และคิดกันรึยังว่า จะทำอะไรบ้าง ในฐานะเป็นกลุ่ม เช่น บวช ได้ข่าวว่าจะบวชให้กับจ่าแซมใช่ไหมครับ

โค้ชเอก เอกพล - ครับผม อันนี้ได้ยินมาจากทางผู้ปกครองบอกมาว่า ออกไป เพื่อจะบวชอุทิศส่วนบุญกุศลให้จ่าแซม

สุทธิชัย หยุ่น - ทุกคน ตกลง ยกมือ พร้อมใจ ใช่ไหมครับ

โค้ชเอก เอกพล - ใช่ครับ ผมพร้อมใจกันหมด เพราะทุกคนก็ปรึกษากันว่าพวกเขาพร้อมที่จะบวชครับ บวชกี่วันก็ได้ ถ้าพี่เอกบวชเท่าไหร่ ผมจะบวชตามเท่านั้น ทุกคนก็จะบอกแบบนี้กันหมดเลย

สุทธิชัย หยุ่น - บวชหมู่เลยใช่ไหมครับ

โค้ชเอก เอกพล - บวชหมู่ครับ บวชทีเดียวกันหมดเลย

สุทธิชัย หยุ่น - ดีเยี่ยมเลยครับ คำถามสุดท้าย ที่สำคัญคือว่า อยากจะถามนักจิตวิทยา นักจิตแพทย์ว่า จากนี้ไป เด็กควรทำ ไม่ควรทำอย่างไร คนที่มาคุยกับเด็ก ควรที่จะถาม ควรที่จะคุยอย่างไร คำถามจากสื่อควรเป็นลักษณะไหน เชิญครับ

แพทย์หญิงพัชนีวรรณ อินต๊ะ - เราเองนะคะ ก็อยากให้น้องๆ กลับไปชีวิตเดิมให้เร็วที่สุด มีชีวิตอยู่ที่บ้านกับครอบครัว แล้วก็มีชีวิตที่โรงเรียนเป็นปกตินะคะ มีการบ้านเหมือนเดิม ไม่ได้มีพิเศษอะไรที่ทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจ ก็อยากจะฝากทุกคนว่า ให้มีพื้นที่ส่วนตัวกับเขา คือให้เขามีโอกาสที่จะได้มีเวลาอยู่กับครอบครัว อยู่กับโรงเรียน อยู่กับกิจกรรมที่เขารัก แล้วก็ส่วนคำถามต่างๆ ที่อาจจะทำให้เขาลำบากใจที่จะตอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์เดิมที่ผ่านมา หรือว่าความรู้สึกต่างๆ ตรงนี้นี่อาจต้องให้โอกาสของน้องๆ ได้มีเวลาเตรียมตัว และได้มีโอกาสที่จะปฏิเสธไม่ตอบคำถาม ที่เขาลำบากใจ

สุทธิชัย หยุ่น - เชิญคุณอัปษรศรีครับ

อัปษรศรี ธนะไพศาล - เท่าที่ได้สัมผัสกับน้องๆ นะคะ น้องๆ เขาเป็นเด็กที่ดีนะคะ ต้องถือว่าเป็นเด็กที่ดี เล่นกีฬา ตั้งใจเรียน คือถ้าใครที่การเรียนตก โค้ชบอกว่าแมตช์นั้นจะไม่ได้แข่ง เพราะฉะนั้นน้องๆ ทั้งหมด คือเด็กที่ดี มีเป้าหมายชีวิตตั้งแต่เขาวัยเท่านี้ พวกเราที่อยู่ด้วย จะมีคุณหมอท่านหนึ่งที่ดูแลอยู่ คุณหมอพูดออกมาคำหนึ่งว่า คุ้มค่าที่เราช่วยเหลือเขา คุ้มค่ากับสิ่งที่ได้ลงทุนไป ที่นี้เมื่อออกไปภายนอก จริงๆ ถ้าถามว่าความแข็งแกร่งที่น้องๆ เขามี อาจจะมีบางอย่างเหมือนกันที่อาจจะทำให้สกัดกั้นพัฒนาการอย่างที่ควรจะเป็น อย่างที่คุณหมอพัชนีวรรณได้ชี้แจงไปนะคะ คือการให้เขาใช้ชีวิตปกติ ไม่ต้องระแวงว่าเดินๆ ไป เข้ามาดูตอนไหน เขาสามารถซ้อมบอลได้อย่างปกติ การใช้ชีวิตด้วยตามปกติแบบนี้จะทำให้พัฒนาการของน้องเขาเป็นไปด้วยดี แล้วก็จะสามารถเติบโต จากที่เขาดีอยู่แล้ว เขาจะสามารถเติบโต แล้วก็ทำประโยชน์ได้อย่างมากมาย

สุทธิชัย หยุ่น - ครับ ขอบคุณครับ มีคำถามหนึ่งที่ต้องถาม เพราะว่าเป็นคำถามมาจากหลายสื่อ ได้ข่าวว่าหมูป่านั้นอย่างน้อยมี 4 คน ที่ยังไม่ได้สัญชาติไทย อยากถามผู้ว่าฯ ว่าเรื่องนี้จะดำเนินอย่างไรครับ

ประจญ ปรัชญ์สกุล - เรื่องนี้ทราบว่า น้องๆ ได้ไปยื่นเรื่องที่อำเภอแล้ว ตอนนี้อยู่ในกระบวนการของสำนักทะเบียนที่จะตรวจสอบ และดำเนินการไปตตามขั้นตอน

สุทธิชัย หยุ่น - และนี่ครับ คือคำตอบจากหมูป่าที่พวกเรารอคอยกันมานาน ผมเชื่อว่าพวกเราดีใจมากที่ได้เห็นหมูป่ากลับบ้าน มีสุขภาพร่างกาย สภาพจิต มีอารมณ์ขำ มีความฝัน และยังมีความเป็นเด็ก ที่อยากจะกลับไปสู่ชีวิตปกติของคน ฉะนั้นขอบคุณทุกคำถามที่มีมานะครับ และก็แน่นอนครับว่า ท่านผู้ว่าฯ ก็บอกว่าในฐานะที่เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารจังหวัด เรื่องที่สำคัญที่สุดการปฏิบัติภารกิจครั้งนี้นั้น เป็นพระเมตตาจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เชิญท่านผู้ว่าฯ

ประจญ ปรัชญ์สกุล - ด้วยเดชะบารมีของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชากลที่ 10 ของพวกเรานะครับ ท่านได้ทรงห่วงใยน้องๆ ทั้ง 13 ชีวิต รวมทั้งทีมที่เราไปช่วยกันทุกคน และก็ด้วยแรงอธิฐานของคนทั้งโลกใบนี้ ผมต้องกราบขอบพระคุณแทนน้องๆ แล้วผมขอเชิญชวนน้องๆ และทีมงานทุกคนได้กราบเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่านพร้อมกันครับ

สุทธิชัย หยุ่น - ขอเสียงตบมือให้กับทุกๆ ท่านบนเวทีนี้ครับ























กำลังโหลดความคิดเห็น