ร้อยเอ็ด - พนังกั้นน้ำรอยต่อบ้านท่าเยี่ยมและท่าทางเกวียน ต.วังหลวง อ.เสลภูมิ พังทรุดเป็นแนวยาวเพิ่มกว่า 15 เมตร หลังต้านมวลน้ำที่ทะลักจากภูพานเตี้ย อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ไม่ไหว ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่เกษตรแล้วหลายตำบลกว่า 3 พันไร่
ผลกระทบจากฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวันในพื้นที่ร้อยเอ็ด และมวลน้ำจากเทือกเขาภูพานเตี้ย อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ไหลทะลักลงในลำน้ำยัง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ทำให้พนังกั้นน้ำบริเวณรอยต่อบ้านท่าเยี่ยมและท่าทางเกวียน ต.วังหลวง อ.เสลภูมิ ทรุดพังตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ค.) แม้เจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนจะพยายามช่วยกันซ่อมแซมอัดดินให้แน่น พร้อมกับใช้ไม้ตอกตีเป็นตาราง วางกระสอบทรายกั้น เพื่อป้องกันการขยายรอยสักเพิ่มขึ้นแต่ก็เอาไม่อยู่
ล่าสุดเช้าวันนี้ (17 ก.ค.) มีรายงานว่าแนวพนังกันน้ำได้พังทรุดเพิ่มมากขึ้นเป็นแนวยาวกว่า 15 เมตรแล้ว น้ำได้ไหลบ่าทะลักเข้ามาท่วมพื้นที่การเกษตร และการปลูกพืชของเกษตรกรก็เพิ่มมากขึ้นกว่า 3,000 ไร่กินพื้นที่ 2 ตำบล คือ ต.นาแซง และ ต.บางหลวง
นายธงชัย ธนะกัญญา ชาวบ้านที่มีไร่นาในบริเวณที่เกิดเหตุพนังขาด กล่าวว่า ตอนนี้น้ำท่วมนา พื้นที่การเกษตรใน ต.วังหลวงแล้ว 6 หมู่บ้าน และกำลังขยายรัศมีน้ำท่วมลงไปทาง ต.บางหลวงตอนล่าง แล้วคาดว่าจะเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร ต.นาแซง อีกจำนวนมาก ซึ่งหากในวันนี้ไม่สามารถสกัดน้ำบริเวณจุดที่พนังขาดได้ มวลน้ำก็จะกระจายไปอีก 2 ตำบล คือพื้นที่ ต.เมืองไพร และ ต.บึงเกลือ
“หากน้ำท่วมไม่นานก็น่าจะเป็นผลดีที่จะช่วยให้นาข้าวสวยงาม แต่หากท่วมขังนานๆ ก็จะเกิดความเสียหายแน่นอน ซึ่งหากมวลน้ำมีจำนวนมากก็จะไหลเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนไปด้วย” นายธงชัยกล่าว
ด้านนายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 6 จังหวัดขอนแก่น ซึ่งนำเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกล ลงมาแก้ปัญหาพนังกั้นน้ำที่ขาด กล่าวว่า ระดมเครื่องจักรกลหนักเข้ามาเสริม พร้อมกับนำกล่อง ตะแกรงเหล็ก เพื่อบรรจุก้อนหินให้มีน้ำหนักลงไปวางกั้นแนว ก่อนที่จะวางแนวกระสอบทรายกั้นอีกครั้งเพื่อปิดช่องทางน้ำที่ขาด ไม่เช่นนั้นจะเอาไม่อยู่เพราะน้ำไหลแรงมาก ส่วนสาเหตุที่พนังกั้นน้ำขาดเนื่องจากระดับน้ำเหนือคันพนังกั้นน้ำมีระดับน้ำสูงกว่าระดับล่างกว่า 1 เมตร
นอกจากนั้น ผลจากที่มีฝนตกหลายวันติดต่อกัน ประกอบกับน้ำทางอำเภอเขาวง จ.กาฬสินธุ์ไหลทะลักลงมาจำนวนมาก ในขณะที่พนังกั้นน้ำของชลประทาน ซึ่งสร้างมานานแล้วมีโพรงดินทำให้พนังกั้นน้ำชำรุดหลายจุด
นายศักดิ์ศิริระบุว่า ขณะนี้กำลังระดมกำลังเจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนรวมถึงชาวบ้านช่วยกันทำโครงไม้ตอกลงไปเป็นแนวคันพนังกั้นน้ำ และนำกระสอบทรายวางถมลงไป ป้องกันไม่ให้ทรุดพังไปมากกว่าเดิม
เป็นการแก้ปัญหาชั่วคราว เพื่อรอการลำเลียงอุปกรณ์ตะแกรงเหล็กที่จะนำมาใส่หินลงไปวางกั้นแนว แล้วเอากระสอบทรายวางกั้นอีกชั้นเพื่อให้แนวพนังกั้นแข็งแรง
