xs
xsm
sm
md
lg

ดีเอสไอนำร่อง จ.กาฬสินธุ์ เขตปลอดแชร์ลูกโซ่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาฬสินธุ์ - ดีเอสไอจับมือจังหวัดกาฬสินธุ์ ประกาศนำร่อง “กาฬสินธุ์เขตปลอดแชร์ลูกโซ่ในอีสาน” ภายใน 4 เดือน หลังร่วมลงนามบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน มุ่งป้องกันและปราบปรามแชร์ลูกโซ่ ให้เป็นวาระแห่งชาติ พร้อมนำแอปพลิเคชัน “แชร์ลูกโซ่” ให้ดาวน์โหลด ตรวจสอบธุรกิจที่จะลงทุนเสี่ยงเป็นแชร์ลูกโซ่หรือไม่
พันตำรวจเอกไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
วันนี้ (8 มิ.ย. 61) ที่ห้องประชุมผาเสวย ศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ มีพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กับจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยนายเธียรชัย อัจฉริยพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ปฏิบัติราชการแทนนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดตามกฎหมาย ว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนหรือแชร์ลูกโซ่ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ โดยจังหวัดกาฬสินธุ์จะเป็นจังหวัดนำร่องเขตปลอดแชร์ลูกโซ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษกล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันพัฒนากลไก เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการกระทำความผิดที่มีลักษณะอาชญากรรมพิเศษแชร์ลูกโซ่ ให้จังหวัดกาฬสินธุ์เป็นจังหวัดนำร่องเขตปลอดแชร์ลูกโซ่ระยะเวลา 4 เดือน โดยที่กรมสอบสวนคดีพิเศษและจังหวัดกาฬสินธุ์ได้ตระหนักถึงความสำคัญของแชร์ลูกโซ่ ซึ่งแพร่ระบาดมากในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการบูรณาการทำงานอย่างเป็นระบบทั้งในระดับนโยบายและระดับปฏิบัติการ

พร้อมจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมในการป้องปรามธุรกิจการเงินนอกระบบ โดยใช้กลไกลคณะกรรมการป้องปรามธุรกิจการเงินนอกระบบและคณะอนุกรรมการป้องปรามธุรกิจการเงินนอกระบบในส่วนภูมิภาคระดับจังหวัด เพื่อดำเนินการเฝ้าระวัง สอดส่องดูแลไม่ให้เกิดการจัดเวทีหลอกลวงฉ้อโกงประชาชน และสร้างความรู้ความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับการลงทุนและผลตอบแทนที่ควรได้รับในการลงทุนปกติ โดยมีภาคเอกชนและภาคประชาชนเข้ามาเป็นเครือข่ายเฝ้าระวัง

สำหรับแชร์ลูกโซ่เป็นการฉ้อโกงประชาชน มีรูปแบบการหลอกลวงให้เหยื่อสมัครเป็นสมาชิก เพื่อร่วมลงทุนในธุรกิจที่ไม่เน้นจำหน่ายสินค้าหรือให้บริการ แต่จะอ้างว่ามีผลตอบแทนสูง โดยใช้วิธีนำเงินของผู้สมัครรายหลังไปจ่ายค่าตอบแทนให้ผู้ที่สมัครรายแรกๆ และจะหยุดจ่ายค่าตอบแทนในเวลาต่อมา แล้วปิดกิจการ นำเงินที่ได้จากสมาชิกหนีไป ทำให้เกิดความเสียหายลุกลามใหญ่โตในเวลาอันรวดเร็ว การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และหากเป็นเรื่องที่มีความเสียหายในวงกว้าง หรือกระทำผิดซับซ้อนก็จะเป็นคดีพิเศษที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ

พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญในการป้องกันและปราบปรามขบวนการแชร์ลูกโซ่ คือ การประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้รู้เท่าทันภัยดังกล่าว โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษได้พัฒนาแอปพลิเคชัน “แชร์ลูกโซ่” เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงเบื้องต้นของธุรกิจ ที่ตนเองจะไปลงทุน ว่ามีสภาพเสี่ยงจะเป็นแชร์ลูกโซ่หรือไม่ โดยดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือของตนเอง และตอบคำถามตามแนวคำถามก็จะได้ผลลัพธ์ คือ ระดับความเสี่ยงในการเป็นแชร์ลูกโซ่เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้

นอกจากนี้ ผู้เสียหายทั่วประเทศสามารถร้องทุกข์ ร้องเรียน ผ่าน 9 ช่องทางสื่อสาร คือ (1) การติดต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (2) ผ่านเว็บไซต์ www.dsi.go.th (3) ยื่นหนังสือที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (4) ผ่านสายด่วนหรือ Call Center 1202 (โทร.ฟรีทั่วประเทศ) (5) ผ่าน Messenger Facebook ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (6) ผ่านแอปพลิเคชัน DSI กรมสอบสวนคดีพิเศษ (7) ผ่านตู้สีขาว รับเรื่องราวร้องทุกข์ (8) ทางไปรษณีย์

และ (9) ผ่านศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 4 (จังหวัดขอนแก่น) ซึ่งรับผิดชอบป้องกันปราบปราม สืบสวน สอบสวนคดีพิเศษ เพื่อดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 12 จังหวัด คือ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ มุกดาหาร สกลนคร นครพนม อุดรธานี หนองบัวลำภู หนองคาย เลย และบึงกาฬ สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 177/49 ถนนมิตรภาพ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น 40000 โทร. 0-4346-8688


กำลังโหลดความคิดเห็น