ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - โคราช “เมืองหลวงมันสำปะหลังไทย” เร่งถ่ายทอดความรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมให้เกษตรกรในงาน “Field Day” ส่งสัญญาณเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ นำร่องแปลงปลูกมันประสิทธิภาพสูงทุกอำเภอ เผยปีนี้ราคามันฯ พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ เกษตรกรยิ้มแห่ปลูกเฉียด 2 ล้านไร่ คาดดันผลผลิตทะลุ 10 ล้านตัน สร้างรายได้ 2 หมื่นล้านบาท
นายวิบูลย์ ไชยวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 7 เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) ปี 2561 ในวาระครบรอบ 50 ปี กรมส่งเสริมการเกษตร ที่ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรเครือข่าย ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา โดยมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และเกษตรกรเข้าร่วมกว่า 500 คน
เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรได้รับทราบเทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆ รวมทั้งช่องทางการตลาด แหล่งข้อมูล การเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ตลอดจนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเกษตรกรด้วยกันเอง รวมทั้งนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาด้วย
นายวิบูลย์กล่าวว่า การจัดงาน Field day ถือเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ที่เหมาะสม สำหรับปีการผลิต 2561 ซึ่งมีการจัดขึ้นทั่วประเทศทั้งสิ้น 882 ศูนย์ และใน จ.นครราชสีมามีจำนวน 32 ศูนย์ โดยในงานนี้จะเน้นหนักในสินค้ามันสำปะหลัง ซึ่งเป็นสินค้าเกษตรหลักของ จ.นครราชสีมา มีกิจกรรมที่สำคัญคือการให้ความรู้ในกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ สถานีการเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการผลิตและการตลาดมันสำปะหลัง เช่น การจัดการดิน การปรับปรุงโครงสร้างดิน การใช้พันธุ์มันสำปะหลังตามความเหมาะสมกับพื้นที่ และนวัตกรรมการใช้มันสำปะหลังพันธุ์ใหม่ การอารักขาพืช การจัดการน้ำเพื่อเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง การใช้นวัตกรรมเครื่องจักรเพื่อทดแทนแรงงาน การแปรรูปและเพิ่มมูลค่าผลผลิต การบริหารจัดการแปลงส่งเสริมการเกษตรในรูปแบบแปลงใหญ่ การเชื่อมโยงการผลิตและการตลาดแบบบูรณาการ เป็นต้น
รวมทั้งการสาธิตการใช้เครื่องจักรกลเพื่อลดต้นทุนการผลิต การจัดนิทรรศการองค์ความรู้มันสำปะหลัง และการใช้ปัจจัยในการเพิ่มผลผลิตแลลดต้นทุนการผลิต และตลาดสินค้าประชารัฐเกษตรกร
สำหรับ จ.นครราชสีมาเป็นแหล่งผลิตมันสำปะหลังแห่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย มีพื้นที่ปลูกประมาณ 1.8 ล้านไร่ ผลผลิตหัวมันสดรวมปีละกว่า 8 ล้านตัน จนได้รับการขนานนามว่า “เมืองหลวงแห่งมันสำปะหลังไทย” ซึ่งไทยถือเป็นประเทศมหาอำนาจมันสำปะหลังโลก มีผลผลิตมันสำปะหลังปีละประมาณ 30 ล้านตัน เป็นอันดับ 2 ของโลก และส่งออกเป็นอันดับ 1 ของโลก
ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมาได้มีการวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นแก่เกษตรกร พบว่ามีการปลูกมันสำปะหลังในพื้นที่เดิมซ้ำๆ หลายปี ทำให้ดินที่ปลูกมีความแน่นเป็นดินดาน จำเป็นต้องระเบิดดินดานเพื่อให้น้ำซึมผ่านลงไปด้านล่างมากขึ้นจะทำให้มันฯ มีความสมบูรณ์มากขึ้น และประสบปัญหาหัวมันเน่าในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังได้ รวมทั้งปัญหารากเน่าหรือโคนเน่า และปัญหาการขาดแคลนแรงงาน เป็นต้น
ปีนี้ จ.นครราชสีมาตั้งเป้าหมายว่าจะเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังต่อไร่ ให้ได้จากเดิม 4 ตัน/ไร่ เป็น 5 ตัน/ไร่ ด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะถ่ายทอดให้เกษตรกรและร่วมมือกับภาคเอกชนในการดำเนินการเพิ่มผลผลิตมันฯ ให้ได้สูงถึง 7 ตัน/ไร่ โดยจะมีแปลงสาธิตเกิดขึ้นทุกอำเภอ ซึ่งเป็นแปลงที่จะนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้าไปใช้เพื่อเพิ่มผลผลิตให้เกษตรกรได้เรียนรู้โดยตรง
นายวิบูลย์กล่าวอีกว่า คาดว่าในฤดูการผลิตปี 2561/62 พื้นที่ปลูกมันสำปะหลังใน จ.นครราชสีมาเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 20% เป็น 1.9 ล้านไร่ มีผลผลิตรวมประมาณ 9-10 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 19,500-20,000 ล้านบาท เนื่องจากราคามันสำปะหลังทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์ คือ ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 3.20 บาท ประกอบกับพื้นที่เพาะปลูกปีที่ผ่านมาลดลงจากเดิม 1.8 ล้านไร่ เหลือ 1.7 ล้านไร่ เพราะเกษตรกรหันไปปลูกพืชชนิดอื่นซึ่งราคาดีกว่ามันสำปะหลังแทน เช่น อ้อย ข้าวโพด จึงทำให้ปีที่ผ่านมาพื้นที่ปลูกมันฯ ลดลงไปประมาณ 100,000 ไร่
แต่เมื่อปีนี้ราคามันสำปะหลังดีเกษตรกรที่หายไปประมาณ 100,000 ไร่นั้นจึงกลับมาปลูกเช่นเดิม แต่คงไม่ทั้งหมด เนื่องจากอ้อยสามารถปลูกได้หลายรุ่น เช่น คนที่ปลูกอ้อย 10 ไร่ อาจแบ่งมาปลูกมันฯ 5 ไร่ เป็นต้น ซึ่งสถานการณ์ราคามันสำปะหลังที่อยู่ในระดับสูงขณะนี้เป็นปัจจัยสำคัญส่งผลให้พื้นที่ปลูกมันฯ ปีนี้ของ จ.นครราชสีมาเพิ่มขึ้นอย่างมาก