ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - สมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสานฮึ่ม ขอปรับขึ้นค่าขนส่ง 5% ชี้ราคาน้ำมันแพงต้นทุนพุ่งและไม่ได้ปรับขึ้นมา 10 ปีแล้ว จี้ภาครัฐพยุงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกินลิตรละ 30 บาท เผยเตรียมรวมตัวทุกสมาคมฯ บุกพบ รมว.คมนาคม ขู่ดีเดย์หลัง 10 มิ.ย. จับมือ “เจ๊เกียว” หยุดวิ่งให้บริการทั้งรถโดยสารและรถบรรทุกสินค้าพร้อมกันทั่วประเทศ
วันนี้ (24 พ.ค.) ที่สมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน ต.หัวทะเล อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา นายพีระพล บุญชิณวงศ์ นายกสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน และประธานกรรมการบริษัท อุบลแสงทอง โลจิสติกส์ จำกัด เปิดเผยผลกระทบจากปัญหาราคาน้ำมันดีเซลขึ้นราคากว่า 30 บาทต่อลิตร ว่าในส่วนของสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสานที่ผู้ประกอบการเป็นสมาชิกกว่า 900 ราย มีรถบรรทุกสินค้ากว่า 30,000 คัน มากที่สุดในประเทศไทย และยังมีผู้ประกอบการอีกกว่า 400 ราย รถบรรทุกกว่า 500 คันที่ยังไม่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกสมาคมฯ ดังนั้น เมื่อน้ำมันดีเซลขึ้นราคาทะลุ 30 บาท/ลิตร ในตอนนี้พวกเราได้รับความเดือดร้อนมาก และจะทำเรื่องขอปรับขึ้นราคาค่าขนส่งสินค้าอีก 5% ก่อนในเบื้องต้น ซึ่งความเป็นจริงเราต้องปรับ 10% ถึงจะอยู่รอดได้ แต่เราไม่ต้องการให้ประชาชนเดือดร้อนหรือไปซ้ำเติมประชาชน และหากรัฐไม่ให้ปรับราคาค่าขนส่งสินค้าขึ้นตามข้อเสนอ จำเป็นต้องมีมาตรการกดดันตามมา คือ คงต้องมีการหยุดวิ่งให้บริการในบางส่วน ประมาณครึ่งหนึ่งของรถบรรทุกทั้งประเทศ เพราะยิ่งวิ่งก็ยิ่งขาดทุน
ทั้งนี้ ยืนยันว่าเราได้รับผลกระทบมากเพราะต้นทุนสูง น้ำมันขึ้นราคาทุกอย่างต้องปรับขึ้นราคาตามเป็นลูกโซ่ ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเดือดร้อนไปหมดทุกหย่อมหญ้า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาทางสมาคมฯ ได้หารือกับทางสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ที่มีสมาชิกทั้งประเทศกว่า 1 แสนคัน เห็นพ้องต้องกันว่าต้องขอปรับราคาขนส่งสินค้าขึ้น 5% แม้ว่าจะไม่เพียงพอก็ตาม มาตรการที่เราเสนอไปหากภาครัฐไม่ดูแล หรือทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมไม่ช่วยเหลือผู้ประกอบการ วิ่งรถแล้วขาดทุนเราก็จำเป็นจะต้องหยุดบริการวิ่งรถบรรทุก และหยุดบริการรับส่งสินค้าทุกประเภท เพราะหากยังขืนวิ่งต่อไปจะต้องมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเมื่อน้ำมันขึ้นราคา สินค้าอย่างอื่นเกี่ยวกับน้ำมันทุกประเภทจำพวกน้ำมันเหลว หรือน้ำมันหล่อลื่นทุกชนิด เช่น น้ำมันเครื่อง, น้ำมันเกียร์, น้ำมันเฟืองท้าย, น้ำมันเบรก, จาระบีอัดลูกหมาก, น้ำมันไฮดรอลิก, น้ำมันก๊าซ แม้แต่น้ำมันพืช, ยางรถยนต์ เป็นต้น ต้องขึ้นราคา ทุกอย่างล้วนเป็นต้นทุนหมด แล้วน้ำมันดีเซลที่ใช้ทุกวันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วปรับขึ้นไป 4-5 บาท จนตอนนี้ทะลุกว่า 30 บาทต่อลิตร ทำให้ต้นทุนสูงมาก จริงๆ แล้วเราไม่เคยปรับค่าบรรทุกมานานถึง 10 ปีแล้ว
ตอนนี้เราต้องการให้ภาครัฐหามาตรการดูแลช่วยพยุงอย่างเร่งด่วน ไม่ให้ราคาน้ำมันขึ้นมากไปกว่านี้ และช่วยหามาตรการชดเชยในส่วนกองทุนน้ำมัน หรือภาษีสรรพสามิตในการลดต้นทุนไม่ให้ราคาน้ำมันเกิน 30 บาทต่อลิตรให้ได้
ส่วนมาตรการหยุดวิ่งรถเป็นการกดดันนั้น การหยุดรถต้องมองว่าราคาน้ำมันจะขึ้นไปเท่าไรก่อน หากขึ้นมากก็ต้องหยุดวิ่งรถมาก เมื่อต้นทุนสูงเราขาดทุนมากเราก็อยู่ไม่ได้ ในส่วนของสมาคมขนส่งสิ้นค้าภาคอีสานกว่า 30,000 คัน หยุดวิ่งครึ่งหนึ่ง หรือ 15,000 คันก่อนก็จะมีผลกระทบวงกว้างแน่นอน แต่จะไม่มีการปิดถนนอย่างแน่นอน เพราะเราจะไม่ให้สังคมหรือประชาชนเดือดร้อน
นายพีระพลกล่าวว่า ก่อนหน้านี้สหพันธ์ฯ ยื่นหนังสือข้อเรียกร้องต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมไปแล้ว และอีก 15 วันนับจากนี้จะมีการยื่นใหม่เข้าไปอีกเป็นรอบที่ 2 ดูว่าจะตอบรับอย่างไร ถ้าไม่เห็นผลยังเงียบอีก หลังวันที่ 10 มิถุนายนนี้จะมีมาตรการกดันจากผู้ประกอบการทั่วประเทศ เช่น หยุดวิ่งรถจอดรถในจุดต่างๆ ของแต่ละจังหวัด
“ผมยืนยันว่าเราเดือดร้อนจริงๆ ไม่ได้ขู่ จากนี้ไปตามที่นายทองอยู่ คงขันธ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ให้รอตอบตอบ 15 วัน จนถึงประมาณวันที่ 10 มิ.ย. ถ้ายังไม่มีผล มาตรการหยุดกวิ่งรถคงต้องทำตามที่มีการตกลงกันไว้แน่นอน และเมื่อหยุดวิ่งรถแล้วผลกระทบข้าวของสินค้าต้องขาดตลาดอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอาหารสด อาหารแช่แข็ง นม เครื่องดื่ม เครื่องอุปโภคบริโภค สินค้าเกษตร สินค่าส่งออก ข้าว พืชผลทางการเกษตร ผลไม้สด ต้องเรียนว่า ภาคขนส่งไม่มีการปรับค่าขนส่งมานานประมาณ 10 ปีแล้ว รวมทั้งเทศกาลหยุดยาวปีใหม่ สงกรานต์ก็ให้ความร่วมมือหยุดวิ่งรถ ซึ่งแต่ละเทศกาลหยุด 7-8 วัน เราขอแค่นี้น่าจะให้ได้ ถามว่าน่าเห็นใจหรือเปล่า พูดง่ายๆ ขึ้นค่าขนส่ง 5% หากวิ่งรถเที่ยวละ 30,000 บาทไปกลับ เราขึ้นเที่ยวละ 1,500 บาทเท่านั้นเอง รวมแล้ว 31,500 บาท” นายพีระพลกล่าว
นายพีระพลกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม หากราคาน้ำมันปรับลดราคาลงเราก็จะปรับราคาค่าขนส่งลงให้ตาม เป็นจริงเช่นเดียวกัน เราทำอาชีพนี้จะไม่ยอมเอารัดอาเปรียบสังคมเด็ดขาด เรายินดีและเต็มใจปรับลดราคาค่าขนส่งเช่นกัน และตอนนี้ในภาคขนส่งรถโดยสาร ภาคขนส่งสินค้าทางถนน กลุ่มรถบรรทุกสินค้าที่ใช้น้ำมันที่ไม่อยู่สมาคมฯ รวมถึงกลุ่มรถแท็กซี่ กลุ่มขนส่งทางเรือ กลุ่มขนส่งลอจิสติกส์ กลุ่มรถจักรกลหนัก น้ำมันตัวเดียวกัน รวม 12 สมาคมทั่วประเทศที่รวมเป็นสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย จะร่วมมือกับสหพันธ์ผู้ประกอบการรถโดยสารแห่งประเทศไทย และทาง “เจ๊เกียว” นางสุจินดา เชิดชัย นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสาร และรวมทุกสมาคมฯ จะไปพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมไม่เกินวันที่ 10 มิ.ย.นี้ ไปยื่นข้อเรียกร้องอีกรอบก่อน จากนั้นมาตรการที่ว่าดีเดย์เลย โดยรถโดยสารหยุดวิ่งพร้อมกันกับรถบรรทุกสินค้าหยุดวิ่งบริการ ตนคิดว่าแค่นี้ก็อัมพาตแล้ว