ศูนย์ข่าวศรีราชา- นายกฯ เกาะสีชัง เตรียมเสนอ 3 หน่วยงานร่วมบูรณาการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมในทะเลบริเวณเกาะสีชัง หลังพบปัญหาขยะ น้ำเสีย ฝุ่นละอองเริ่มรุนแรง พร้อมดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง และเฉียบขาด หวังได้รูปแบบแก้ปัญหาเช่นเดียวกับ ทช.ที่ห้ามสูบบุหรี่ และทิ้งก้นบุหรี่ตามชายหาดทั่วประเทศ
จากกรณีที่คณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้เดินทางลงพื้นที่เกาะสีชัง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยมีบริษัทเอกชนที่ได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่า ในการรับกำจัดขยะบนเรือสินค้าที่ผ่านเข้าออก และทอดสมอบริเวณอ่าวศรีราชา และเกาะสีชังมานานกว่า 5 เดือน ออกมาเปิดเผยว่า ปัจจุบัน มีเรือสินค้าเข้าใช้บริการเพียง 20 ลำ ทั้งที่ในความเป็นจริงมีเรือผ่านเข้าออกมากกว่า 1,000 ลำ จนเกิดข้อสงสัยว่า เรือสินค้าเหล่านั้นนำขยะไปทิ้งที่ใด หากไม่มีการลักลอบทิ้งลงสู่ทะเลนั้น
ล่าสุด วันนี้ (22 พ.ค.) นายดำรงค์ เภตรา นายกเทศมนตรีตำบลเกาะสีชัง อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี ได้ออกมาเปิดเผยถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมบริเวณเกาะสีชัง รวมทั้งปัญหาขยะ และการขนถ่ายสินค้าบริเวณเกาะสีชัง ว่า สร้างปัญหา และผลกระทบให้แก่พื้นที่มาโดยตลอด และขณะนี้เริ่มทวีความรุนแรง เนื่องจากผู้ประกอบการไม่ให้ความสนใจ และใส่ใจในปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อทะเล และชายฝั่ง
โดยขณะนี้ตนเองได้เข้าหารือกับอธิบดีกรมเจ้าท่า เพื่อร่วมวางแนวทางแก้ไขปัญหาที่เข้มงวดต่อผู้ประกอบการเรือสินค้า เรือขนถ่ายสินค้า และเอเยนต์เรือสินค้าที่ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบต่างๆ เช่น การลักลอบทิ้งขยะ น้ำเสียลงทะเล และการฟุ้งกระจายของฝุ่นละอองขณะทำการขนถ่ายสินค้ากลางทะเล
“ปัญหาดังกล่าวจะต้องบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขอย่างจริงจัง โดยจะมีหน่วยงานหลัก 3 หน่วยงาน คือ กรมเจ้าท่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) และกระทรวงมหาดไทย ที่จะร่วมกันวางแนวทางตามกฎหมายต่อผู้การกระทำผิด โดยมีโทษทั้งปรับทั้งจำ หรือถึงขั้นยึดใบอนุญาตทันที”
นายดำรงค์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาเมื่อเกิดปัญหาขึ้นกว่าจะดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดได้ต้องมีหลายขั้นตอน คือ ตำรวจทำสำนวนส่งอัยการเพื่อส่งฟ้องร้อง แต่เมื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมกันวางแนวทาง หากมีหลักฐานว่าเกิดจากผู้ประกอบการเรือสินค้ารายใดก็สามารถดำเนินคดีได้ทันที เช่น กรณีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ออกกฎระเบียบห้ามสูบบุหรี่ และทิ้งก้นบุหรี่ตามชายหาด หากใครฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยหากนำกฎระเบียบดังกล่าวมาใช้กับการทิ้งขยะ น้ำเสีย และการขนถ่ายสินค้าที่ก่อมลพิษในทะเล ก็สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ หรือให้รัฐมนตรีที่กำกับดูแลออกเป็นกฎกระทรวงเฉพาะกิจเพื่อดำเนินการดังกล่าวต่อไป
“ขณะนี้มีการลักลอบจ้างเรือที่ผิดกฎหมายนำขยะไปทิ้งกลางทะเล โดยพบขยะเป็นจำนวนมากลอยอยู่กลางทะเล และพัดเข้าสู่ชายฝั่ง แม้จะมีบริษัทรับกำจัดขยะอย่างถูกต้อง แต่ก็ไม่มีเรือสินค้ารายใดไปใช้บริการ หรือไปใช้บริการน้อยมาก ดังนั้น เรื่องนี้ตนจะต่อสู้และผลักดันให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพื่อให้ท้องทะเลบริเวณศรีราชา และเกาะสีชังมีสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น” นายดำรงค์ กล่าว