ศูนย์ข่าวศรีราชา- รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ลงพื้นที่ดูจุดเรือสินค้าจมทะเล ล่าสุดพบตู้สินค้าแล้ว 19 ตู้ เบื้องต้นได้นำไปเก็บรักษาไว้ที่ท่าเรือคุณปิ๋ว อ่าวอุดม พร้อมกำชับ จนท.เฝ้าระวังผลกระทบที่จะตามมา คาดใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ สามารถกู้เรือได้
จากกรณีเรือชายฝั่งชื่อ ภัทรมารีน 6 ซึ่งบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อจะไปส่งที่ท่าเรือใน จ.สมุทรปราการ แต่ระหว่างเดินทางได้เกิดจมลงที่บริเวณเกาะท้ายตาหมื่น ทางทิศใต้ของเกาะสีชัง ห่างฝั่งไม่มีกิโลเมตร และยังทำให้ตู้สินค้าจำนวน 72 ตู้ จมลงสู่ทะเลในเวลาประมาณ 23.00 ของคืนวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุดช่วงเย็นวันนี้ (14 มิ.ย.) นายกริชเพชร ชัยช่วย รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ได้เดินทางมายังสำนักงานควบคุมการจราจรและความปลอดภัยทางทะเล กรมเจ้าท่า จ.ชลบุรี เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมหาแนวทางในการกู้ซากเรือและตู้สินค้า โดยมี บริษัทเรือภัทรมารีน 6, สำนักงานสิ่งแวดล้อมจังหวัดชลบุรี, สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค13 (ชลบุรี) ,ทหาร คสช.ศรีราชา เข้าร่วมการประชุม ก่อจจะเดินทางไปยังจุดที่เรือจมลงกลางทะเล
นายกริชเพชร กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นอุบัติเหตุ เนื่องจากช่วงเวลาในขณะนั้น คลื่นลมในทะเลค่อนข้างแรง หรือ เรือ อาจเปลี่ยนทิศทางการเดินเรือกะทันหันเพื่อมุ่งสู่แม่น้ำเจ้าพระยา จนเป็นสาเหตุให้เรือล่ม แต่อย่างไรก็ตามจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุ ว่าเกี่ยวกับผู้ควบคุมเรือ หรือจากกระแสน้ำ หรือกระแสลม
“ ขณะนี้ได้สั่งการให้ บริษัทภัทรมารีน 6 ส่งนักประดาน้ำไปอุดบริเวณถังน้ำมันดีเซล ?มีประมาณ 5,000 ลิตร ซึ่งหวั่นว่าจะรั่วไหลลงสู่ทะเลจนส่งผลกระทบต่อทะเลและสัตว์น้ำ นอกจากนั้นยังได้ประสานไปยังกลุ่มบริษัทน้ำมันในพื้นที่ศรีราชา เพื่อ ปกางบูมล้อมบริเวณที่เรือจม และติดตั้งทุ่นสัญญาณจุดที่เรือจม เพื่อป้องกันอันตรายจากเรือสินค้าและเรือประมงที่สัญจรผ่านไปมา ”
นายกริชเพชร ยังกล่าวอีกว่าขณะนี้ยังได้ทำการประกาศแจ้งไปยังบริษัทเรือทุกลำ ที่ใช้เส้นทางดังกล่าว ให้ระมัดระวังในการเดินทาง และหากพบตู้สินค้าลอยอยู่กลางทะเลขอให้แจ้งให้เจ้าท่าทราบโดยด่วน เพื่อทำการลากไปไว้ในที่ปลอดภัย
“จากการรวบรวมตู้คอนเทนเนอร์ที่ลอยอยู่ในทะเล สามารถรวบรวมได้ทั้งสิ้น 19 ตู้ และหลังจากนี้จะนำไปกองไว้บนเรือบาส ที่บริเวณท่าเทียบเรือคุณปิ๋ว อ่าวอุดม ส่วนที่ยังจมอยู่ในทะเลอีก 53 ตู้ รวมทั้งเรือภัทรมารีน 6 ขณะนี้ได้ให้ทางบริษัทฯจัดทำแผนกู้ซากเรือและตู้ฯ ให้กรมเจ้าท่าดูก่อน คาดว่าจะใช้ระยะเวลา 1-2 สัปดาห์ ถึงจะถูกซากเรือและตู้สินค้าได้ครบ และยังจะให้บริษัทเรือ ทำแผนกำจัดสินค้าในตู้คอนเทนเนอร์ เนื่องจากพบว่าตู้สินค้าที่จมเป็นสินค้าด้านการเกษตร ที่มีทั้ง กากถั่วเหลือง ,แป้งสาลี ฯลฯ ซึ่งขณะนี้สินค้าถูกน้ำจะเกิดการเน่าเสีย จึงต้องรีบนำไปกำจัด และบริษัทเรือ จะต้องส่งแผนดังกล่าวให้กรมเจ้าท่าด้วย”นายกริชเพชร กล่าว
ด้าน น.ส.สุนีรัตน์ รัตนะ นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการ สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 13 (ชลบุรี) กล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงแรกหวั่นว่า สินค้าและเรือที่จมจะส่งผลกระทบต่อน้ำทะเลและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นวัตถุอันตราย แต่เมื่อพบว่าเป็นสินค้าทางการเกษตร กรมเจ้าท่าและบริษัทภัทรมารีน 6 ก็น่าจะมีขั้นตอนและวิธีการดูแลและป้องกันผลกระทบต่อสิ่งด้านสิ่งแวดล้อม จนสร้างความพอใจในระดับหนึ่ง
ส่วน นายปรีชา ประสพผล กรรมการผู้จัดการเรือภัทรมารีน 6 กล่าวว่าจากนี้จะต้องรอให้คณะกรรมการที่กรมเจ้าท่า แต่งตั้งขึ้นตรวจสอบหาสาเหตุ ที่สำคัญบริษัทฯ บริษัทไม่มีการขนส่งสินค้าอันตรายหรือสารเคมีอแน่นอน และยังได้ทำประกันภัยไว้ ดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นจึงต้องเร่งดำเนินการแก้ไข เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม และ การสัญจรของเรือต่างๆ ส่วนความเสียหายนั้นน่าจะอยู่ที่ประมาณ 50-70 ล้านบาท
ขณะที่ ร.ต.ต.มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมให้การสนับสนุนและช่วยเหลืออย่างเต็มที่หากมีการร้องขอจากกรมเจ้าท่า แต่อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้อยู่ในพื้นที่ของท่าเรือ ฯ และไม่ส่งผลกระทบต่อร่องน้ำ หรือเส้นทางการเดินเรือสินค้าที่จะเข้ามายังท่าเรือแหลมฉบัง แต่อย่างใด