ศูนย์ข่าวศรีราชา - กรมเจ้าท่าประสานบริษัทเรือเร่งกู้ตู้สินค้า 72 ตู้ ที่จมในทะเล หวั่นส่งผลกระทบต่อเรือที่สัญจรผ่านไปมา เบื้องต้น ประสานกลุ่มบริษัทน้ำมัน นำบูมไปล้อมบริเวณเรือจมเพื่อป้องกันน้ำมันดีเซลในเรือกว่า 5 พันลิตรรั่วไหล ล่าสุด ประเมินความเสียหายไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท ล่าสุด รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ลงมาดูพื้นที่ และสั่งการด้วยตัวเอง
วันนี้ (14 มิ.ย.) นายพิสุทธิ์ อมรยุทธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 จ.ชลบุรี เผยว่า จากกรณีที่เรือชายฝั่งชื่อ ภัทรมารีน 6 บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 72 ตู้ โดยเดินเรือเพื่อจะไปส่งที่สมุทรปราการ โดยระหว่างเดินทางนั้นเกิดเหตุเรือจมบริเวณเกาะท้ายตาหมื่น ทางทิศใต้ของเกาะสีชัง ห่างจากฝั่งไม่กี่กิโลเมตร ทำให้ตู้ทั้งหมดจมทะเลในเวลาประมาณ 5 ทุ่ม ของงคืนวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา
หลังได้รับแจ้งจึงได้ประสานกับศูนย์ควบคุมการจราจร และกลุ่มบริษัทน้ำมัน พร้อมด้วยเจ้าของเรือภัทรมารีน 6 ให้วางมาตรการป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้น โดยให้นำบูมมาล้อมตรงจุดเรือจม หวั่นน้ำมันดีเซลที่ในเรือประมาณ 5,000 ลิตร ไหลลงทะเล จึงต้องวางแผนป้องกันไว้ก่อน โดยนายกริชเพชร ชัยช่วย รองอธิบดีกรมเจ้าท่า เดินทางลงมาดูพื้นที่ และสั่งการด้วยตัวเอง
นอกจากนั้น ได้ขอให้ทางศูนย์ฯ ควบคุมการจราจร ได้ออกประกาศแจ้งเตือนเรือทุกลำให้ระวังตู้สินค้าที่อาจลอยอยู่บริเวณดังกล่าว ส่วนตู้สินค้าที่ลอยอยู่นั้นได้นำมาไว้บริเวณชายฝั่ง และตามสะพานบริษัทน้ำมันในศรีราชา เพื่อไม่ให้หลุดลอยไปไกล
ด้าน นายพิทักษ์ วัฒนพงศ์พิศาล ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมการจราจรและความปลอดภัยทางทะเล กรมเจ้าท่า กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้บริษัทเรือทำแผนการกู้ซากเรือ และตู้สินค้าแล้ว โดยให้นักประดาน้ำดำลงไปตรวจสอบเรือลำดังกล่าว หากมีรอยรั่วก็ให้อุดรอยดังกล่าวทันที พร้อมทั้งให้เตรียมนำเครื่องสแกนใต้น้ำสำรวจจุดเพื่อวางแนวทางการกู้เรือต่อไป
ขณะนี้ กรมเจ้าท่าได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบสาเหตุที่เรือจมในครั้งนี้ โดยเบื้องต้น ได้ตั้งข้อกล่าวหานายเรือลำดังกล่าว ประมาท ส่วนข้อหาอื่นๆ จะต้องให้คณะกรรมการตรวจสอบหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง
นายพิทักษ์ กล่าวต่อไปว่า เบื้องต้นคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการกู้ซากเรือ และตู้สินค้าประมาณ 1 สัปดาห์ ส่วนค่าเสียหายไม่น่าจะต่ำกว่า 50 ล้านบาท
